สถิติความผิดเกี่ยวกับเพศ ปี 60-63

กทม.4 ก.ย.-สำนักข่าวไทย ตรวจสอบสถิติความผิดเกี่ยวกับเพศ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อปี 2560 – 2563  เกิดมากกว่า 4,000 คดี มีผู้เสียหายกว่า 8,000 คน


โดยสถิติตั้งแต่ปี 2560 – 2563 รวมระยะเวลา 4 ปี ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบ คดีกระทำอนาจาร เกิดขึ้นในปี 2560 รวม 585 คดี ผู้เสียหาย 1,208 คน, ปี 2561 รวม 543 คดี ผู้เสียหาย 1,130 คน, ปี 2562 รวม 597 คดี ผู้เสียหาย 1225 คน ปี 2563  เกิดขึ้นแล้ว 328 คดี ผู้เสียหาย 650 คน รวมคดีที่เกิดขึ้น 2,035 คดี ผู้เสียหาย 4,213 คน

คดีกระทำอนาจารเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี โดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นซึ่งไม่ใช่อวัยวะเพศ ปี 2560 ,2561, 2562 ไม่มี ส่วนปี 2563 เกิดขึ้นแล้ว  1 คดี ผู้เสียหาย 2 คน รวม 1 คดีผู้เสียหาย 2 คน


คดีกระทำอนาจารเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี พบว่าปี 2560 เกิด 322 คดี ผู้เสียหาย 701 คน, ปี 2561 เกิด 288 คดี ผู้เสียหาย 645 คน, ปี 2562 เกิด 284 คดี ผู้เสียหาย 622 คน และปี 2563 เกิดขึ้นแล้ว 199 คดี ผู้เสียหาย 418 คน รวมคดีที่เกิดขึ้น 1,093 คดี ผู้เสียหาย 2,386  คน

คดีกระทำอนาจารเด็กอายุยังไม่กิน 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย ปี 2560 เกิด 54 คดี ผู้เสียหาย 130 คน, ปี 2561 เกิด 56 คดี ผู้เสียหาย 129 คน, ปี 2562 เกิด 65 คดี ผู้เสียหาย 133 คน และปี 2563 เกิดขึ้นแล้ว 46 คดี ผู้เสียหาย 99  คน รวมคดีที่เกิดขึ้น  221  คดี ผู้เสียหาย 491 คน

คดีกระทำอนาจารเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ในปี 2560 เกิดขึ้น  3 คดี ผู้เสียหาย  6  คน, ปี 2561 เกิด 1 คดี ผู้เสียหาย 2 คน, ปี 2562 เกิด 1 คดี ผู้เสียหาย 2 คน โดยในปีนี้ยังไม่พบการกระทำผิด  รวมคดีที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อนคือ   5 คดี ผู้เสียหาย 10 คน


ข้อหาข่มขืนหรืออนาจารโดยใช้อุบาย ในปี 2560 เกิด 13 คดี ผู้เสียหาย 26 คน, ปี 2561 เกิด 2 คดี ผู้เสียหาย 4 คน, ปี 2562 เกิด 5 คดี ผู้เสียหาย 9 คน โดยในปีนี้ยังไม่พบการกระทำผิด  รวมคดีที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อนคือ   20 คดี  ผู้เสียหาย 39 คน

คดีซ่อนเร้นบุคคลซึ่งถูกพาไปเพื่อการอนาจาร ปี 2560 เกิดขึ้น 1 คดี ผู้เสียหาย 3 คน ส่วนปี 2561 , 2562  และ 2563  ยังไม่มี รวมคดีที่เกิดขึ้น  1   ครั้ง ผู้เสียหาย   3  คน

คดีพยายามเป็นธุระ จัดหา ล่อไป ชักพาไป เพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง ในปี 2560 ไม่มี , ปี 2561 เกิด 1 คดี ผู้เสียหาย 3  คน, ปี 2562   ไม่มี ส่วนในปีนี้ (2563) เกิดขึ้นแล้ว 1 คดี ผู้เสียหาย 2 คน รวมเป็น 2 คดี ผู้เสียหาย 5  คน

คดีพาบุคคลอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร ในปี 2560 เกิดขึ้น  64 คดี ผู้เสียหาย 137 คน, ปี 2561 เกิด 46 คดี  ผู้เสียหาย 112 คน, ปี 2562 เกิด 61 คดี ผู้เสียหาย  132 คน ปี 2563 เกิดขึ้นแล้ว 27 คดี ผู้เสียหาย 57 คน รวมคดีที่เกิด 198 คดีผู้เสียหาย 438 คน

คดีพาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร ในปี 2560 เกิดขึ้น 109 คดี ผู้เสียหาย 241 คน, ปี 2561 เกิด 72 คดี ผู้เสียหาย 152 คน, ปี 2562 เกิด 75 คดี ผู้เสียหาย 177 คน ส่วนปีนี้( 2563) เกิดขึ้นแล้ว  38 คดี ผู้เสียหาย   80 คน รวมคดีที่เกิด 294 คดี ผู้เสียหาย 650 คน

คดีพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร ในปี 2560 เกิด 27 คดี ผู้เสียหาย 55 คน, ปี 2561 เกิด 23 คดี ผู้เสียหาย 48 คน, ปี 2562 เกิด 32 คดี ผู้เสียหาย 69 คน ปี 2563 เกิดขึ้นแล้ว  14 คดี ผู้เสียหาย 29 คน รวมคดีที่เกิด 96  คดี ผู้เสียหาย 201 คน

คดีส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น ในปี 2560 เกิด 1 คดี ผู้เสียหาย  3 คน,ปี 2561 เกิด 3 คดี ผู้เสียหาย  5 คน, ปี 2562 เกิด 3 คดี ผู้เสียหาย 6 คน และปี 2563  ยังไม่มี รวมคดีที่เกิด 7 คดี ผู้เสียหาย 14 คน

คดีเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง ที่อายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ในปี 2560 เกิด 35 คดี ผู้เสียหาย 79 คน, ปี 2561 เกิด 6 คดี ผู้เสียหาย 13 คน, ปี 2562 เกิด 2 คดี ผู้เสียหาย 4 คน ส่วนในปีนี้(2563)ยังไม่มี รวมคดีที่เกิด 43 คดี ผู้เสียหาย  96 คน

คดีเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง อายุไม่เกิน 15 ปีในปี 2560 เกิดขึ้น 3 คดี ผู้เสียหาย  9 คน, ปี 2561 เกิด 2 คดี ผู้เสียหาย 6 คน, ปี 2562 เกิด 3 คดี ผู้เสียหาย 8 คน ส่วนในปี 2563 เกิดขึ้นแล้ว 2 คดี ผู้เสียหาย 4 คน รวมเกิดขึ้น 10 คดี ผู้เสียหาย 27 คน

สรุปคดีข่มขืน-อนาจาร ที่เกิดขึ้นในปี 2560  ทั้งหมด 1,217 คดี ผู้เสียหาน  2,598 คน, ปี 2561  เกิดขึ้น  1,043 คดี ผู้เสียหาย  2,249 คน, ปี 2562  เกิด 1,128 คดี  ผู้เสียหาย 2,387 คน และในปีนี้( 2563 )เกิดขึ้นแล้ว  656 คดี ผู้เสียหาย  1,341 คน รวม 4 ปี (2560-ปัจจุบัน) มีคดีข่มขืน-อนาจาร เกิดขึ้นแล้ว 4,044 คดี มีผู้เสียหาย  8,575 คน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]

“บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทนอดีตพระอลงกต

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ส่วน “สมปอง” ยังอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี แม้อ้างว่าเป็นการยืมเงินและคืนไปบางส่วนแล้ว ขณะที่วง “พิงค์แพนเตอร์” ประสานเข้าพบตำรวจเร็วๆ นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดี “อลงกตการละคร” ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร และมีตัวละครที่สามารถดำเนินคดีได้หลายคน แต่ตำรวจต้องการพยานหลักฐานมาประกอบข้อมูลตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่ามีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน […]

พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

พรรคกล้าธรรม 30 ส.ค.-พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์ โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ ชี้ปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศไม่ได้ เผยภูมิใจไทยรับข้อเสนอ แก้ กม.ต้องไม่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อเวลา 15.55 น. พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ต่อไปว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ร่วมกันพิจารณารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกท่าน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของพรรค รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคกล้าธรรม จะลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีฝ่ายบริหารมาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ทั้ง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยไม่สามารถประวิงเวลาไปได้อีก พรรคกล้าธรรม ได้แสดงจุดยืนของพรรคให้กับพรรคภูมิใจไทยทราบ คือ 1.พรรคกล้าธรรม ยึดถือ […]

“เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล

พรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค.- “เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล กร้าว ถ้าหนุนก็ไม่เหลือความเป็นคน บอก รัฐประหาร 100 ครั้ง ก็ไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว. ยกอำนาจให้คนเดียวชี้ขาดประเทศ ย้ำคดีเขากระโดง ต้องเอาผิดให้เด็ดขาด บอก 2-3 เดือน ก็ยุบสภาได้ ไม่ต้องรอ 4 เดือน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุภายหลังการเจรจากับพรรคประชาชน ที่พรรคร่วมรัฐบาลรับเงื่อนไขทั้งหมดของพรรคประชาชน ว่า จริงๆ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน ตนไปเป็นเพื่อนเขา ส่วนประเด็นเป็นเรื่องของทั้งสองพรรคต้องคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเงื่อนไขทั้งหมดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ส่วนจะนำข้อหารือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยอมรับว่า อาจอยู่ในวาระอื่นๆ เนื่องจากมีวาระสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชนและและข้อเสนอเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมย่านการค้า อ.หล่มสัก ลดลงต่อเนื่อง สัญจรได้แล้ว

2 ก.ย. – น้ำท่วมย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลงต่อเนื่อง ถนนหลายสายรถสัญจรได้แล้ว ขณะที่ จ.พิษณุโลก น้ำทะลักกัดเซาะถนนขาด ไหลท่วมบ้านเรือน ส่วน จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าหลาก-ดินโคลนถล่ม เสียชีวิต 1 ราย ระดับน้ำที่ท่วมบ้านเรือน ร้านค้าตามชุมชน และย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลง จากที่เคยท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ลดเหลือ 20-30 เซนติเมตร รวมทั้งบริเวณแยกหอนาฬิกา ซึ่งน้ำท่วมลดลงแต่ยังมีน้ำไหลผ่านอยู่บ้าง และมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ถนนหลายสายรถยนต์สามารถสัญจรไปมาได้แล้ว แต่ถนนบางสายยังปิดการจราจร ป้องกันรถที่วิ่งผ่านทำให้น้ำทะลักเข้าร้านค้า เจ้าของร้านค้าบางส่วนเริ่มสำรวจความเสียหายของข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งสินค้าต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วม หลังแม่น้ำป่าสักที่ไหลผ่าน อ.หล่มสัก ลดลงต่ำกว่าพนังกั้นน้ำราวครึ่งเมตรแล้ว หากไม่มีฝนตกหรือมวลน้ำทางตอนเหนือเติมลงมา คาดว่าน้ำที่ท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก รวมทั้งบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรใน ต.ตาลเดี่ยว ที่อยู่ทางตอนใต้ จะลดลงเรื่อยๆ และเข้าสู่ภาวะปกติในเร็วๆ นี้ น้ำทะลักตัดถนนขาด ไหลท่วมบ้านเรือนที่ จ.พิษณุโลก น้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่หลากลงคลองเนินกุ่ม กัดเซาะถนนบ้านเหนือ ต.เนินกุ่ม […]

ปชน.เสียงแตก! โยน กก.บห.ชี้ขาด 3 ก.ย. โหวตใครนั่งนายกฯ

พรรคประชาชน 2 ก.ย. – ปชน.เสียงแตก! นัด 3 ก.ย. ให้ กก.บห.ชี้ขาด ดัน “อนุทิน” หรือไม่ โหวตเลือกใคร “ปกรณ์วุฒิ” ออกโรงสยบ ยันยังไม่มีมติวันนี้ เป็นเพียงขั้นตอนฟังความเห็น แจงไม่ได้เปลี่ยนตัว “เท้ง” แถลง แต่เพราะเจ้าตัวอยากคุย สส.ต่อ “ไอติม” จี้ “เพื่อไทย” รีบยุบสภา นาฬิกาเดินอยู่ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน ลงมาให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม สส.ของพรรค ถึงทิศทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยนายปกรณ์วุฒิ กล่าวยืนยันว่า วันนี้ไม่มีมติ เป็นการรับฟังความเห็น สส. ฟังทุกองคาพยพของพรรค ล่าสุดวานนี้พรรคส่งข้อความให้สมาชิกพรรคทั่วประเทศราว 1 แสนคน ให้ความเห็นต่อการเลือกนายกฯ ณ ตอนนี้มีสมาชิกจำนวนมากให้ความเห็นมาแล้ว ในการประชุมวันนี้ เนื่องจากเมื่อวานมี […]

เพื่อไทยดันเต็มที่ “ชัยเกษม” แคนดิเดตนายกฯ คนสุดท้าย

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ขอบคุณ สส. เพื่อไทย ที่ยังอยู่กับพรรค พร้อมให้กำลังใจ บอกการต่อสู้ตั้งรัฐบาลยังเดินหน้าต่อ ด้านโฆษก เผยที่ประชุม ดัน “ชัยเกษม” แคนดิเดตนายกฯ คนสุดท้ายเต็มที่ ไม่มียกมือหนุนคนอื่น การประชุม สส. ประจำสัปดาห์ของพรรคเพื่อไทย วันนี้ (2 ก.ย.) โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมประชุมกับ สส. พรรคด้วย ซึ่งในครั้งนี้มีนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย มาร่วมประชุมด้วย ภายหลังใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า วันนี้มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมเยอะมาก ซึ่งสัปดาห์นี้จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สส.) 3 วัน ซึ่งวันในวันพุธที่ 3 ก.ย. จะประชุมพิจารณากฎหมายร่วมกัน ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ย. จะเป็นการรายงานหน่วยงานต่าง ๆ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]