ชง ผบ.ตร. พิจารณาตำรวจ 21 นายบกพร่องคดี “บอส อยู่วิทยา”

กทม. 27 ส.ค. – ตำรวจเตรียมสรุปสำนวนพร้อมความเห็นฟ้อง “บอส อยู่วิทยา” คดีขับรถชนตำรวจเสนอต่ออัยการ ส่วนการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดของอัยการ จะเสนอให้ ผบ.ตร. พิจารณาข้อบกพร่องตำรวจรวม 21 นาย


พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดของอัยการคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 แถลงว่า คณะกรรมการฯ ได้สรุปผลการตรวจสอบเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากพบพยานหลักฐานใหม่ที่นำไปสู่การดำเนินคดีนายวรยุทธ 3 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้ถึงแก่ความตาย, ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือฯ และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) โดยผิดกฎหมาย โดยเสนอให้พิจารณาข้อบกพร่องข้าราชการตำรวจ 21 นาย แบ่งเป็นตำรวจรายเดิมที่เคยถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด 11 นาย และตำรวจที่เพิ่งพบความผิดรายใหม่ 10 นาย ในจำนวนนี้มีอดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและตำรวจที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ส่วนจะสามารถดำเนินคดีทางอาญาย้อนหลังได้หรือไม่ ต้องพิจารณาอีกครั้ง แต่ไม่สามารถดำเนินการทางวินัยย้อนหลังได้ และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกองวินัยว่าตำรวจรายใดเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรงบ้าง

เร่งสรุปสำนวนเอาผิด “บอส อยู่วิทยา” ส่งอัยการพรุ่งนี้
ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับความผิดของผู้ต้องหาที่เพิ่มเติมเข้ามา พบว่ามาจากการสอบปากคำพยานผู้เชี่ยวชาญด้านความเร็ว 4 ปาก ซึ่งมีการคำนวณความเร็วได้ที่ 125, 144 และ 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดทั้งหมด รวมถึงการสอบปากคำพยานเกี่ยวกับคดียาเสพติด 4 ปาก ทั้งนี้ เมื่อมีการออกหมายจับแล้วจะเข้าสู่ขั้นตอนการออกประกาศสืบจับและขั้นตอนการขอหมายแดง คาดว่าพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ จะสรุปสำนวนพร้อมความเห็นเสนอพนักงานอัยการได้เร็วสุด คือ วันพรุ่งนี้ (28 ส.ค.)


กองการต่างประเทศเตรียมประสานขอหมายแดงไล่ล่า
ด้าน พล.ต.ต.วรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังจากนี้ต้องรอให้อัยการมีความเห็นทางคดี จึงจะเข้าสู่ขั้นตอนของกองการต่างประเทศ ในการประสานไปยังองค์การตำรวจสากลเพื่อขอให้พิจารณาออก “หมายแดง” หรือ “Red Notice” เพื่อแจ้งให้ประเทศในกลุ่มสมาชิกจับกุม บุคคลที่มีหมายจับ หรือผู้ร้ายข้ามแดนที่หลบหนีในต่างประเทศ ก่อนดำเนินการตามช่องทางส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป

“วิษณุ” แจงคดี “บอส อยู่วิทยา” เริ่มนับหนึ่งใหม่
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คดีนายวรยุทธ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการทางคดีใหม่ หลังมีการตั้งข้อหาใหม่ 3 ข้อ ส่วนการขอ “หมายแดง” จากอินเตอร์โพล หากคดีไปอยู่ในอำนาจศาลก็สามารถออกหมายแจ้งไปยังอินเตอร์โพลได้ ส่วนรายงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ซึ่งมีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน และเตรียมส่งให้นายกรัฐมนตรีในวันที่ 31 สิงหาคม พบว่านายวิชาขอเวลาอีก 30 วัน เพื่อดำเนินการในการปฏิรูป โดยไม่เกี่ยวกับคดี และเมื่อทำรายงานเสร็จสิ้น จึงจะเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเช่นเดิม ส่วนรายงานที่จะส่งให้นายกรัฐมนตรีพิจารณานั้น ต้องดูว่านายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจอย่างไร.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”