ตำรวจย้ำ โรยตะปู-ปาหิน จนเกิดอุบัติเหตุ มีโทษทั้งจำทั้งปรับ

กทม.26 ส.ค.- ตำรวจย้ำเตือนพวกโรยตะปูหรือปาหิน แล้วทำให้รถเกิดอุบัติเหตุ เจ็บ-ตาย มีโทษทั้งจำทั้งปรับ


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยกรณีสื่อนำเสนอข่าว “วัยรุ่นโรยตะปู เกลื่อนถนน รถพ่วงเหยียบยางรั่ว เสียหายหลายหมื่นบาท”ว่าการกระทำในลักษณะดังกล่าว เข้าข่ายความผิดฐาน “กระทำการปิดกั้นทางหลวง หรือวางวัตถุที่แหลมหรือมีคม หรือนำสิ่งใดมาขวางหรือมาวางบนทางหลวง หรือกระทำการด้วยประการใดๆ บนทางหลวงในลักษณะที่อาจเกิดอันตรายหรือเสียหายแก่ยานพาหนะหรือบุคคล” โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม มาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ.2535 และ ความผิดฐาน “ทำให้เสียทรัพย์” มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม มาตรา 358 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

โดยหากส่งผลให้มีผู้หนึ่งผู้ใดเกิดอุบัติเหตุ ได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตและร่างกาย หรือ มีเจตนาประสงค์ต่อทรัพย์ หรือ มีเจตนาเล็งเห็นผล ก็อาจจะไม่ได้มีความผิดในส่วนของ พ.ร.บ.ทางหลวงฯ เพียงอย่างเดียว หากเกิดความสูญเสีย ก็ย่อมต้องมีความรับผิดทั้งทางแพ่งและอาญา พร้อมให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มงวด ตรวจตราและสอดส่องดูแลบนท้องถนน สร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน เพราะอุบัติเหตุบนท้องถนน เป็นสิ่งที่สามารถป้องกันได้ถ้าไม่ประมาท


รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า จากการกระทำในลักษณะดังกล่าว ขอให้ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายและเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในสังคมต่อไป

สำหรับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็น แก๊งปาหิน หรือ แก๊งโรยตะปูบนถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจับกุมดำเนินคดีมาโดยตลอด เพราะถือว่าเป็นภัยต่อสังคม ก่อกวนเมือง ไม่มีจิตสำนึกต่อส่วนรวม ขาดความรู้จักผิดชอบชั่วดี จะด้วยเหตุผล ความคึกคะนอง หรือ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ดี โดยขอประณาม การกระทำในกรณีดังกล่าวและขอให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวเสีย เพราะหากมีประชาชน ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต หรือทรัพย์สินเสียหาย ย่อมมีความผิดตามกฎหมายและต้องได้รับโทษทางอาญา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย