เอาผิดพ่อเลี้ยง แม่แท้ทำร้ายลูก 4 ขวบโคม่า


กรุงเทพฯ 19 ส.ค.-ตำรวจค้นบ้านแม่ใจยักษ์ที่ทำร้านลูกตัวเองวัย 4 ขวบอาการสาหัส เลือดคั่งในสมอง ขณะที่พ่อเลี้ยงยังปฏิเสธ ไม่ได้ตีเด็กรุนแรง อ้างเด็กดื้อพยายามสั่งสอนให้เป็นเด็กดี

ความคืบหน้าคดีเด็กชายวัย 4 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงอายุ 32 ปี และแม่แท้ๆ อายุ 20 ปี ร่วมกันทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส เลือดคั่งในสมอง ซี่โครงหัก 2 ซีก ไหปลาร้าหัก ตามตัวและใบหน้ามีบาดแผลใหม่และเก่า รวมกว่า 20 แห่ง ตำรวจ สน.บางเขน ส่งมอบตัวพ่อเลี้ยงและแม่เด็ก ให้พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ สอบปากคำเพิ่มเติมเมื่อคืนที่ผ่านมา


จากการสอบปากคำ แม่เด็กรับสารภาพว่า ทำร้ายร่างกายลูกจริง โดยอ้างว่าเป็นเพราะความเครียดที่พยายามสอนให้เด็กเรียนรู้การใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ แต่ไม่สำเร็จ ส่วนอาการเลือดคั่งในสมอง ยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากโดนทำร้ายร่างกาย แต่ลูกเวลาถูกตีจะทิ้งตัวลง ทำให้กระแทกกับพื้นห้องน้ำ ขณะที่พ่อเลี้ยงยังให้การภาคเสธ อ้างว่าไม่ได้ทำร้าย แต่พยายามสั่งสอนให้เป็นเด็กดี ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ยังคงสอบสอบปากคำทั้งแม่ของเด็กที่ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว ส่วนพ่อเลี้ยงอยู่ในระหว่างการสอบสวนขยายผลว่าจะร่วมก่อเหตุหรือไม่

และเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน. โคกคราม พาพ่อเลี้ยง (นายบารมี บุญพิมพาพงศ์) อายุ 32 ปี ไปค้นหาหลักฐานที่บ้านพักในซอยนวลจันทร์ 14 แยก 1 เบื้องต้นพบ ก้านพลาสติก ลักษณะคล้ายรางม่าน ที่แม่ใช้เป็นอาวุธตีเด็กจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงยึดมาตรวจสอบ ขณะที่พ่อเลี้ยงล่าสุดยังไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาตกเป็นผู้ต้องหา และยังคงยืนยันคำเดิม ว่าไม่ได้ใช้ความรุนแรงกับเด็ก แต่ยอมรับว่าเคยมีลงโทษเด็กบ้างเล็กน้อย เพราะเด็กดื้อ ที่ผ่านมาเมื่อแม่แท้ๆของเด็กทำร้ายด้วยความรุนแรงก็คอยห้ามปราม แต่แม่ของเด็กบางครั้งก็ไม่เชื่อฟัง

ด้านพันตำรวจเอกธีรศักดิ์ ภิญโญ ผู้กำกับการสนโคกครามเผย จากการสอบปากคำแม่ของเด็กล่าสุด รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือทำร้ายเด็กเป็นคนเดียว โดยใช้ไม้ตีที่ร่างกายหลายครั้ง สาเหตุเกิดจากพยายามจะสั่งสอนลูกที่ดื้อตามวัย แต่ตัวแม่เด็กเป็นคนอารมณ์ค่อนข้างรุนแรง จึงลงโทษเกินขอบเขต ส่วนพ่อเลี้ยงอ้างว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือทำร้าย เบื้องต้นดำเนินคดีกับแม่ของเด็ก ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายสาหัส ส่วนพ่อเลี้ยง อยู่ระหว่างการสอบสวน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยหลังจากนี้พนักงานสอบสวน จะต้องไปสอบปากคำพยานแวดล้อม เช่น เพื่อนบ้าน รวมถึงการตรวจค้นที่บ้านพักของแม่เด็ก ในซอยนวลจันทร์ เพื่อนำไม้ที่แม่เด็กอ้างว่านำมาใช้ตีตรวจพิสูจน์ รวมถึงที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเด็กลื่นล้มในห้องน้ำ มาประกอบสำนวน ยืนยันจะดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องทุกคนหากพบการกระทำความผิด ก่อนคุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา


มีรายงานว่า แม่ของเด็กให้การกับพนักงานสอบสวน ยืนยันว่าใช้ก้านพลาสติกตีเด็กตามร่างกายจนเกิดบาดแผลจริง ส่วนอาการเลือดคั่งในสมอง เกิดจากเวลาลูกถูกตี จะทิ้งตัวลงทำให้กระแทกกับพื้นห้องน้ำ ซึ่งขณะนี้ยังคงรักษาอยู่ในห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลภูมิพล สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากพ่อจริงของเด็ก เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางเขน ให้ดำเนินคดีกับสามีใหม่และอดีตภรรยา ที่เลิกราไปนานกว่า 2 ปี หลังเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา อดีตภรรยาได้โทรศัพท์มาหา ทั้งที่ไม่ได้ติดต่อกันเลยหลังเลิกรา ขอเงินประมาณ 1.3 แสนบาท เพื่อเป็นค่าผ่าตัดลูกชาย อ้างว่าประสบอุบัติเหตุ ซึ่งพยายามสอบถามอาการของเด็ก แต่กลับบ่ายเบี่ยง จึงพยายามสอบถามจากพ่อและแม่ของอดีตภรรยา จนทราบความจริง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

เงินหมื่นเฟส3

นายกฯ ไฟเขียว! เงินดิจิทัลเฟส 3 กลุ่ม 16-20 ปี 2.7 ล้านคน

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เห็นชอบ โอนเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 กลุ่ม อายุ 16-20 ปี 2.7 ล้านคน หวังคนรุ่นใหม่ใช้ไอทีคล่องกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี รองรับเปิดเทอม ยืนยันกลุ่มวัยทำงาน เฟส 4 ได้เงินแน่นอน

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น-อากาศร้อนในตอนกลางวัน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง