กรุงเทพฯ 31 ธ.ค. – ผบ.ตร. สั่งระดมกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งอาสาสมัครป้องกันปราบปรามอาชญากรรม กำชับห้ามประชาชนยิงปืนขึ้นฟ้าเฉลิมฉลองปีมใหม่ หากพบดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด
พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า ในวันขึ้นปีใหม่ที่จะถึงนี้ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ นอกเครื่องแบบ และอาสาสมัคร ร่วมออกปฏิบัติหน้าที่ โดยเน้นย้ำให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเหตุก่อความไม่สงบในพื้นที่ และการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่อสร้างความสงบเรียบร้อย ความเชื่อมั่นให้กับประชาชน นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่จะมีการจัดงานเคาท์ดาวน์ (Countdown) ขนาดใหญ่ ที่คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ขอประชาสัมพันธ์ และความร่วมมือ ให้พี่น้องประชาชนร่วมฉลองปีใหม่ด้วยความระมัดระวังมีสติ และมีขอบเขต รวมทั้งระมัดระวังอันตรายที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะการออกจากบ้านพัก โดยทิ้งเด็กหรือผู้สูงอายุ ตามลำพัง ให้คำนึงถึงกลุ่มมิจฉาชีพที่จะใช้อุบายแอบอ้างในรูปแบบต่างๆ , การออกไปร่วมเฉลิมฉลองนอกบ้านไม่ควรใส่เครื่องประดับหรือของมีค่า หรือวางทรัพย์สินมีค่าไว้ในรถยนต์ รวมทั้งการถูกมอมยาเพื่อปลดทรัพย์และการใช้บัตรปลอมในการใช้จ่ายซื้อสินค้า, ระวังการถูกโจรกรรมเงินจากบัตรเอทีเอ็ม โดยหลีกเลี่ยงการกดเงินจากตู้เอทีเอ็มที่อยู่ในที่เปลี่ยว และไม่มีกล้องวงจรปิด , ขอความร่วมมือสถานบริการ สถานบันเทิง หรือภาคเอกชนที่จัดงานให้เคร่งครัด เรื่องการขาย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การปล่อยปะละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์เข้าไปใช้สถานบริการ รวมทั้งการแสดงส่อไปในทางลามกอนาจาร รวมทั้งขอควมขอความร่วมมือ ให้ควบคุมดูแลประชาชนที่มาร่วมงานด้วย
, ห้ามประชาชนยิงปืนเพื่อเฉลิมฉลอง เนื่องจากการกระทำดังกล่าว จะเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หากพบการกระทำผิดจะจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด , ไม่ขับรถในขณะเมาสุรา ห้ามดื่มสุราขณะขับรถหรือโดยสาร ไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ไม่ขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด หรือในขณะที่ร่างกายอ่อนเพลีย ผู้ขับขี่ต้องสวมหมวกนิรภัยหรือ คาดเข็มขัดนิรภัย และปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด รวมไปถึงห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บนทางตามกฎหมายหากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ขอประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแล หากประสบเหตุ หรือพบสิ่งผิดปรกติ ไม่น่าไว้วางใจให้แจ้งสายด่วน 191 ทั่วประเทศทันที หรือแจ้ง ผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่น police I lert you ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการมาทุกปี สำหรับโครงการฝากบ้านกับตำรวจหรือประชารัฐร่วมใจในปีนี้มีประชาชนเข้าร่วมโครงการกว่า 7,000 หลัง โดยสามารถติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านแอปพลิเคชั่น LINE ได้โดยตรง และรวดเร็ว.- สำนักข่าวไทย