กทม. 9 ก.ค. – เปิดปฏิบัติการ “Bye Bye Dark Wallets” จับกุมกลุ่มผู้ให้บริการ e-Money เถื่อน รวบหัวแถว 12 คน พบเม็ดเงินหมุนเวียนไหลออกนอกประเทศรวมเกือบ 400 ล้านบาท
ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. ปูพรมเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 10 จุด ในกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี นำหมายค้นเข้าตรวจสอบทั้งอาคารสำนักงาน โกดัง จับกุมกลุ่มผู้ต้องหา 12 ราย บุคคลและนิติบุคคล จากผลการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าทั้ง 5 บริษัท มีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดอันเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ระบบการชำระเงิน พ.ศ. 2560 ในรูปแบบการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ มียอดเงินหมุนเวียนรวมกันเกือบ 400 ล้านบาท
ผลการตรวจค้น พบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหลายรายการ อาทิ คอมพิวเตอร์ 6 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง และพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องอีกหลายรายการ รวมถึงตรวจพบแพลตฟอร์มซึ่งไม่ได้รับอนุญาตตรงตามผลการสืบสวน
สำหรับพฤติการณ์ขบวนการนี้ มีผู้ประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มบนเว็บไซต์ซึ่งมีลักษณะเป็นตัวกลาง ให้ผู้ใช้บริการสั่งซื้อสินค้าจากประเทศจีน เจ้าหน้าที่พบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพฉกฉวยโอกาสสร้างระบบเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ผูกกับบัญชีธนาคารหรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ โดยไม่มีมาตรการกำกับดูแลผู้ใช้งาน ใช้เป็นช่องทางนำเงินออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต เสี่ยงต่อความปลอดภัยผู้ใช้ หลบเลี่ยงภาษี เป็นช่องทางโอนเงินผิดกฎหมายหรือฟอกเงินเอื้อประโยชน์ธุรกิจสีเทา
รูปแบบการใช้บริการ ผู้ใช้ต้องสมัครสมาชิก เปิดบัญชีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เติมเงินผ่านการโอนเข้าบัญชีธนาคารของบริษัท ทำให้มีเงินจากประชาชนหลั่งไหลเข้าระบบจำนวนมาก อีกทั้งยังพบว่าหลายบริษัทใช้บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องมาเป็นผู้ถือหุ้นหรือกรรมการบริษัท โดยมีชาวจีนเป็นผู้ครอบครองและรับผลประโยชน์ที่แท้จริง
ทั้งนี้ หากการประกอบธุรกิจดังกล่าวไม่ได้ผ่านการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นการประกอบธุรกิจโดยมิจฉาชีพ มีการนำเงินออกนอกประเทศโดยไม่ผ่านการตรวจสอบ อาจก่อให้เกิดความเสียหายซึ่งกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างร้ายแรง รวมถึงอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนผู้ใช้งานเป็นวงกว้างเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย