กรุงเทพฯ 2 ก.ค. – วัดตรีทศเทพแต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่แล้ว ตรวจสอบ 7 บัญชีวัดแล้วยังไม่พบเงินรั่วไหลไปบุคคลอื่น นอกเหนือจากมติกรรมการวัดให้ความเห็นชอบ
ความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายวัดตรีทศเทพ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บอกว่า ทางวัดไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าใดนัก และได้ประสานขอให้มีการเปลี่ยนไวยาวัจกรคนใหม่นั้น ล่าสุดเจ้าคณะเขตพระนคร (ธรรมยุต) ได้เห็นชอบตามที่ พระพรหมวชิรรังษี ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ แต่งตั้งศาสตราจารย์ พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ประธานกรรมการผู้จัดการมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมาย และแต่งตั้งนายสุรชัย ฉายินทุ เป็นไวยาวัจกร ฝ่ายการเงินและบัญชี, นายชัยเชษฐ์ ปรีงาม เป็นไวยาวัจกร ฝ่ายธุรการทั่วไป ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2568 เป็นต้นไป
ล่าสุดทีมข่าวได้พูดคุยกับศาสตราจารย์ พิเศษ ธงทอง ยืนยันว่าวัดตรีทศเทพมีการบริหารจัดการทรัพย์สินอย่างเป็นระบบ มีการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ เช่น ฌาปนสถาน ซึ่งมีมูลนิธิมหามกุฎฯ เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนหนึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มาทำสัญญาเช่าเพื่อจัดการสวัสดิการของตำรวจ เงินค่าเช่าหลักแสน ไม่ใช่หลักล้านต่อปี และเงินที่ได้มารวม ๆ แล้ว ทางมูลนิธิฯ ส่งให้วัดประมาณ 2 ล้านบาทต่อปี ส่วนรายได้วัดจากแหล่งอื่นๆ ก็เป็นเงินบำเพ็ญกุศล เงินทอดกฐิน ค่าบริหารจัดการลานจอดรถ ค่าเช่าฌาปนสถานที่เหลือ โดยเงินจะเข้าบัญชีออมทรัพย์ เมื่อได้จำนวนหนึ่งแล้วก็จะโอนเข้าบัญชีฝากประจำ เพราะได้ดอกเบี้ยมากกว่า
ส่วนการจ่ายเงินของวัดทำโดยมติกรรมการวัด 7 รูป ซึ่งประกอบด้วยพระชั้นผู้ใหญ่ในวัด ส่วนใครจะเป็นคนไปเบิกก็เป็นไปตามเงื่อนไขในสมุดบัญชีเงินฝาก อาจจะ 2 ใน 3 ของรายชื่อ แต่ไม่มีบัญชีเล่มใดที่เจ้าอาวาสจะตัดสินใจเบิกเองได้โดยลำพัง และบัญชีที่เป็นชื่อวัดทั้ง 7 บัญชี ตนเองตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ไม่พบร่องรอยความไม่สบายใจใดๆ ไม่พบความผิดปกติ ไม่พบว่ามีเงินรั่วไหลไปนอกเหนือจากที่กรรมการวัดให้ความเห็นชอบ ส่วนยอดเงินในบัญชีรวมนั้น ตนเองยังไม่ขอเปิดเผยเพราะต้องตรวจทานให้ชัดเจนก่อน อีกทั้งอาจกระทบต่อความรู้สึกของสาธารณชน แต่ยืนยันว่าอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเอกสารทั้งหมด และเล่มสมุดบัญชีธนาคารก็อยู่ในความดูแลครบถ้วน หากตำรวจจะประสานมาขอข้อมูล ก็ยินดี รวมถึงมีกำหนดการประชุมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง รายงานความคืบหน้าประมาณวันที่ 14 กรกฎาคม หลังเทศกาลเข้าพรรษาผ่านพ้นไปแล้ว
ส่วนบัญชีที่เป็นชื่อบุคคล ตนเองไม่อาจไปตรวจสอบได้ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าเงินที่ไปถึงสีกาอาจมาจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสเอง ขณะที่ทรัพย์สินอื่นๆ ภายในวัด จะมีการยักย้ายถ่ายเทออกไปหรือไม่นั้น ส่วนตัวเชื่อว่าตัวเลขต่างๆ ปรากฏชัดอยู่ในบัญชีธนาคารแล้ว ส่วนทรัพย์สินมีค่าอื่น ๆ เช่น แก้วแหวนเงินทอง พระพุทธรูป ก็เชื่อว่าคนในวัดจะเป็นหูเป็นตา หากมีอะไรผิดสังเกต ก็คงไม่มีใครนิ่งเฉย คงมีผู้มาร้องเรียนแล้ว
ดังนั้นขอยืนยันว่า ณ เวลานี้ยังไม่พบการกระทำความผิดทางอาญา ในทางตรงกันข้ามอดีตเจ้าอาวาสก็อาจจะเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาบางเรื่องด้วย ก็ให้เป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายบ้านเมืองดำเนินการ
ส่วนเรื่องคลิปมีความสัมพันธ์กับสีกา ตนเองยังไม่ทราบ และยังไม่เห็นคลิปดังกล่าว เพราะเพิ่งเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้เมื่อวาน และมุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบทรัพย์สิน หลังจากนี้คงต้องหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องวางระบบใหม่ ว่าจะต้องปรับรายชื่อบุคคลผู้มีอำนาจเบิกจ่ายอย่างไร.-414-สำนักข่าวไทย