ป.ป.ส. 25 มิ.ย. – เลขาฯ ป.ป.ส.ชี้ผลวิจัยผู้เสพ “กัชญา-กระท่อม” หลังปลดล็อกจากยาเสพติดพุ่งสูงเป็นเท่าตัว ชี้ ป.ป.ส.เป็นหน่วยงานปฏิบัติบังคับใช้กฎหมาย ตามประกาศ สธ.
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยกรณีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2568 ว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ในฐานะหน่วยงานเชิงวิชาการ ได้ติดตามสถานการณ์และศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 2544 และจะประเมินการศึกษาวิจัยทุก 3-4 ปี
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เผยว่า จากผลการศึกษาข้อมูล เมื่อในปี 2562 ซึ่งขณะนั้นกัญชาและพืชกระท่อมยังถูกจัดเป็นยาเสพติด พบว่ามีผู้เสพติดกัญชาประมาณ 350,000 คน และผู้เสพติดพืชกระท่อมอยู่ที่ประมาณ 400,000-500,000 คน ต่อมาในช่วงปี 2564-2565 เมื่อรัฐบาลมีนโยบายปลดล็อกพืชกระท่อมและกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด พบว่าจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยจากผลการสำรวจในปี 2567 พบว่ามีผู้ใช้กัญชากว่า 700,000 คน และมีผู้ใช้พืชกระท่อมมากถึง 1,300,000 คน
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ระบุว่า การดำเนินมาตรการต่างๆ เกี่ยวกับกัญชาและพืชกระท่อมถือเป็นเรื่องของรัฐบาล ส่วนสำนักงาน ป.ป.ส. เป็นหน่วยงานของรัฐพร้อมปฏิบัติตามนโยบาย และมีหน้าที่จัดทำข้อมูลเชิงวิชาการ เสนอข้อเท็จจริงว่ากัญชาและพืชกระท่อมหลังปลดล็อกจากยาเสพติดมีผู้มาใช้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับกรณีผู้ประกอบการเอกชนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา เลขาธิการ ป.ป.ส. ระบุว่า ต้องรอนโยบายที่ชัดเจนจากรัฐบาล หากมีแนวทางช่วยเหลือหรือมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการก็จะเป็นนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขในการดำเนินการ แต่ยืนยันให้ใช้ทางการแพทย์
ทั้งนี้ ปัจจุบันช่อดอกกัญชายังคงถูกควบคุม และหากมีนโยบายให้นำกัญชากลับเป็นยาเสพติดอย่างเต็มรูปแบบ ต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการจากกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง โดยสำนักงาน ป.ป.ส. จะเป็นหน่วยงานหลักในการบังคับใช้กฎหมาย.-119-สำนักข่าวไทย