ดีเอสไอยืนยันส่งสำนวนตึก สตง.ถล่ม ให้ ป.ป.ช.ไม่เกินสัปดาห์หน้า

ดีเอสไอ 4 มิ.ย. – ดีเอสไอพบเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 70 ราย เอี่ยวฮั้วประมูลสัญญาก่อสร้างตึก สตง. ส่ง ป.ป.ช.ไม่เกินสัปดาห์หน้า


ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีพิเศษที่ 58/2568 กรณีตรวจสอบสัญญา 3 ฉบับ ได้แก่ สัญญาการออกแบบ สัญญาการก่อสร้าง และสัญญาการควบคุมงาน ในโครงการก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวพันกันในส่วนของตำแหน่งหน้าที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องส่งสำนวนให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวน โดยชี้แจงว่า ดีเอสไอได้ส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการคดีพิเศษ ในรายละเอียดคดีพิเศษ ความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 กรณี บริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด มีผู้ต้องหาทั้งหมด 5 ราย จึงทำให้เราพบความเกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก 2 ส่วน คือ 1.คดีฮั้วประมูล (คดีพิเศษที่ 58/2568) และ 2.คดีนอมินีภาคสอง ซึ่งเกี่ยวข้องกับ บริษัท สันติภาพ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่ทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ให้ข้อมูล ทั้งนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการออกเลขรับเป็นคดีพิเศษอีกหนึ่งสำนวน โดยจะมีบริษัท 16 ราย เกี่ยวข้องแต่จะต้องมีการคัดกรอง เบื้องต้นอาจจะมีประมาณ 4 บริษัท รวมถึงกรณีฝุ่นแดง เหล็กไม่ได้มาตรฐาน ก็ขอให้พนักงานสอบสวนได้ใช้เวลาในการทำสำนวนอีกสักระยะ

สำหรับ คดีฮั้วประมูล ดีเอสไอได้สรุป ว่ามีกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมด 3 ส่วน ประกอบด้วย 1.ผู้บริหารองค์กรอิสระ 2.คณะกรรมการทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง จำนวน 10 คณะ ทั้งการออกแบบ การก่อสร้าง และการควบคุมงาน และ 3.คณะกรรมการการออกแบบวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 27 จำนวน 15 ราย รวมทั้งหมดประมาณ 70 ราย จะได้สรุปสำนวนส่ง ป.ป.ช. ภายในสัปดาห์นี้ ไม่เกินสัปดาห์หน้า


ร.ต.อ.สุรวุฒิ เผยด้วยว่า กรณีที่ดีเอสไอดำเนินคดีจากที่มีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ และพบพยานหลักฐานการฮั้วประมูลนั้น มาจากการควบคุมงาน ที่รับผิดชอบดำเนินการโดยกิจการร่วมค้า PKW ซึ่งรายละเอียดของการควบคุมงานจะมีการให้คะแนนทั้งหมด 3 หมวด คือ การดำเนินงาน บุคลากร และ เรื่องอื่น ๆ รวม 100 คะแนน แต่ในส่วนที่ดีเอสไอพบการกระทำความผิด คือ บุคลากร เพราะมีการปลอมลายมือชื่อแล้วเอาชื่อบุคคลอื่นซึ่งไม่มีความสามารถเป็นไปตาม TOR มาดำเนินการเสนอราคาในการคัดเลือก จึงพบความผิดดังกล่าว และได้กล่าวหาดำเนินคดีกับกิจการร่วมค้า PKW รวม 6 ราย อีกทั้งรายละเอียดเชื่อมโยงกันทั้งหมด รวมถึงมีผู้ต้องหา 1 ในนี้ มีการกล่าวหาว่า เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในการจัดฮั้วประมูล ตั้งแต่การออกแบบ การก่อสร้าง จึงทำให้คดีทั้งหมดเกี่ยวข้องกัน และอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา 61 ดีเอสไอจึงต้องส่งรายละเอียดให้ ป.ป.ช. ตามกฎหมาย

เมื่อถามว่าเช่นนี้ผู้บริหารทั้ง 6 ราย ของกิจการร่วมค้า PKW มีส่วนรู้เห็นกับการได้มาซึ่งสัญญาการควบคุมงานหรือไม่ ร.ต.อ.สุรวุฒิ เผยว่า เรากล่าวหาอย่างนั้น ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์หรือไม่ โดยเฉพาะในส่วนของผู้บริหารระดับสูงของ สตง. โฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า ต้องเรียนว่า มีการกล่าวหาเป็นหนังสือว่ามีการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือตามกฎหมายว่าด้วยเจ้าพนักงานของรัฐ ซึ่งก็คือข้าราชการในองค์กรอิสระ

ต่อข้อถามว่าบุคคลที่มาร้องทุกข์กล่าวโทษดังกล่าวถือว่าเป็นพยานปากสำคัญใกล้ชิด สตง. เลยหรือไม่ ร.ต.อ.สุรวุฒิ เผยว่า เป็นตามที่ปรากฏเป็นข่าว โดยมีผู้มากล่าวหาทั้งหมด 2 ราย ซึ่งทั้งคู่เป็นบุคคลที่ให้การว่า เขารู้เห็นในเรื่องรายละเอียดที่เกิดขึ้นจึงได้มีการให้รายละเอียดยืนยันตามหนังสือที่ส่งมาให้ดีเอสไอ


เมื่อถามว่าบุคคล 2 ราย ที่มากล่าวโทษผู้บริหารของ สตง. มีการร้องทุกข์กล่าวโทษตามมาตราใดของ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ร.ต.อ.สุรวุฒิ ระบุว่า ตามกฎหมาย เขามีการกล่าวหาในพฤติการณ์หลายเรื่อง ทั้งเรื่องการทุจริต เรื่องการล็อกสเปค และการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสัญญา โดยเฉพาะมาตรา 10 มาตรา 11 มาตรา 12 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งทั้งหมดเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะดำเนินการไต่สวนความผิด ที่ผ่านมาทาง สตง.มีเจ้าหน้าที่มาให้การในรายละเอียดเรื่องการดำเนินการ กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด รวมทั้งเป็นพยานสำคัญในการดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องด้วย

สำหรับกรณีของคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฯ พบว่ามีการกล่าวหาในเรื่องของการออกแบบ การก่อสร้าง และการควบคุมงาน แต่ที่พบชัดเจน คือ การควบคุมงาน เพราะใช้วิธีการคัดเลือก ซึ่งตามกฎหมาย หากคัดเลือกเสร็จแล้ว จะต้องมีหนังสือเชิญชวนไม่น้อยกว่า 3 ราย แต่ในส่วนนี้ทราบว่ามีการเสนอไป 19 ราย ซึ่งในส่วนของกิจการร่วมค้า PKW พบว่ามี 1 ใน 19 ราย คือ บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด ส่วนอีก 2 บริษัท คือ บริษัท ว. และสหายคอนซัลแตนตส์ จำกัด และบริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด ไม่ได้เข้ามาอยู่เสนอราคาด้วย แต่ทางผู้ดำเนินการได้มีการขอยกเว้นหลักเกณฑ์ เสนอไปที่คณะกรรมการวินิจฉัยข้อกฎหมาย ตามมาตรา 29 เพื่อให้ยกเว้นหลักเกณฑ์ ระเบียบ และกฎกระทรวง ซึ่งกรณีเช่นนี้จึงทำให้มีการกล่าวหาว่าการยกเว้นดังกล่าว เป็นการเอื้อต่อกิจการร่วมค้า PKW อย่างไรก็ดี จากพยานหลักฐานพบว่ามีการดำเนินการยกเว้นจริง ส่วนจะมีการเอื้อหรือไม่ ต้องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้ไต่สวน ส่วนจะมีผู้บริหารของ สตง. เป็นผู้เซ็นอนุมัติหรือไม่ เป็นรายละเอียดในสำนวน

ร.ต.อ.สุรวุฒิ ระบุด้วยว่า เรื่องดังกล่าวนี้ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในชุดผู้บริหารในอดีต ไม่ใช่ชุดปัจจุบัน ส่วนผู้บริหารชุดใหม่จะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เป็นเรื่องที่ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะเป็นผู้ไต่สวน ซึ่งการกล่าวหาก็มีกรรมการ 10 คณะรวมอยู่แล้ว

ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวถึงข้าราชการ 3 กลุ่มที่ถูกกล่าวหาในเรื่องการฮั้วประมูล ว่า กลุ่มที่ 1 มีการกล่าวหาผู้บริหารว่ามีการล็อคสเปคเพื่อให้ได้มาซึ่งสัญญาการออกแบบ สัญญาการก่อสร้าง และสัญญาการควบคุมงาน ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นเรื่องของการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในเรื่องของการเป็นกรรมการชุดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินงาน การตรวจการจ้าง หรือการดำเนินการวิธีการต่าง ๆ ซึ่งส่วนนี้มีจำนวน 10 คณะ ตามที่ตนได้เรียนแจ้งไปข้างต้น ขณะที่กลุ่มที่ 3 เป็นเรื่องของคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย หรือปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560

พฤติการณ์ที่พบนอกจากการควบคุมงาน แล้วพอที่จะเปิดเผยได้ คือ การดำเนินการจ้างช่วง เพราะทาง สตง. ก็ได้ยืนยันว่า บริษัท 9PK จำกัด ไม่ได้มีการจ้างช่วงจริง ไม่มีรายชื่ออนุมัติการจ้างช่วง จึงจะเป็นเอกสารประกอบให้ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาไต่สวน

เมื่อถามว่าสังคมมีการตั้งคำถามว่าผู้บริหาร สตง. ชุดปัจจุบัน ไม่มีความผิด หรือความเกี่ยวข้องเลยใช่หรือไม่ โดยเฉพาะในสำนวนที่ดีเอสไอต้องส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนนั้น ร.ต.อ.สุรวุฒิ ชี้แจงว่า อย่างไรต้องรอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ไต่สวนก่อน เพราะเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งปัจจุบัน เมื่อถามย้ำว่าสำนวนที่ดีเอสไอต้องส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในกรอบสัปดาห์นี้ มีชื่อของ นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่า สตง. คนปัจจุบันรวมอยู่ใช่หรือไม่ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า ก็อยู่ในสำนวนนั้นทั้งหมด ก็มีผู้บริหารตั้งแต่ต้น แล้วก็มีคณะกรรมการต่าง ๆ ที่มีหลายหน่วยงานรวมอยู่ในนั้น และคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ รวมแล้ว 3 กลุ่ม ประมาณ 70 รายชื่อที่มีการกล่าวหา แต่อย่างไรก็ต้องรอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ไต่สวนก่อน ทั้งนี้ ในส่วนที่ดีเอสไอเป็นผู้ดำเนินคดีเองก็คือผู้บริหาร 6 รายของกิจการร่วมค้า PKW

ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวด้วยว่า ระหว่างนี้จะได้ให้เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง เข้ามาดำเนินการคัดเอกสาร เนื่องจากดีเอสไอได้มีการตรวจค้นทั้งหมด 3 ครั้ง แล้วพบว่าในการตรวจค้นครั้งที่ 2 มีเอกสารกว่า 121 ลัง จึงต้องพยายามคัดให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตามคำกล่าวหาและให้อยู่ในประเด็นในสำนวน หากเอกสารส่วนไหนไม่เกี่ยวข้อง ก็จะจะต้องคืนกลับไป และเราจะเร่งรัดดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ รวมถึงเรื่องเอกสารการตรวจค้นจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่ต้องส่งผลรายงานมาด้วย

เมื่อถามย้ำว่ากรณีการควบคุมงานทิพย์ ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ตึก สตง.ถล่ม หรือไม่ เพราะตามพฤติการณ์แล้ว นิติบุคคลมีการแอบอ้างว่ามีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมงานก่อสร้าง มีประสบการณ์จะมาควบคุมงาน แต่พอหน้างานก่อสร้าง กลับไม่มีวิศวกรกลุ่มดังกล่าวอยู่ในการควบคุมงานนั้น ร.ต.อ.สุรวุฒิ ระบุว่า อันนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ตำรวจดำเนินคดีอยู่ แต่อีกเรื่องหนึ่ง เราก็ต้องรอทางคณะกรรมการที่รองนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้ง เพราะเราได้มีการประสานข้อมูลกัน จึงต้องรอผลการตรวจของคณะกรรมการชุดดังกล่าวด้วย คาดว่าน่าจะไม่นาน อย่างไรก็ตาม ชุดคณะทำงานของดีเอสไอและคณะกรรมการที่รองนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้ง มีการทำงานประสานงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กรณีการติดตามตัว นายบินลิง วู ผู้ต้องหารายสำคัญ ซึ่งเป็นนายทุนชาวจีน เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ อีกหนึ่งรายที่เหลือจากในคดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ หรือคดีพิเศษที่ 32/2568 นั้น ร.ต.อ.สุรวุฒิ ยืนยันว่า มันเป็นเรื่องกระบวนการการสืบค้น เรามีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คิดว่าไม่นาน เพียงแต่ว่าเรารอสำนวนนิดหนึ่ง เพราะมีปัญหาในเรื่องของการปฏิบัติเล็กน้อย ส่วนกระบวนการจับกุมมีการประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง. -119-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]

เพื่อไทยขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลัง “สง่า” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – พรรคเพื่อไทย ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน หลังผลเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ “สง่า” ชนะขาด “สุทัศน์” จากพรรคประชาชน เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความภายหลังผลการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายสง่า พรมเมือง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ชนะขาดนายสุทัศน์ ยาละ ผู้สมัครของพรรคประชาชน หมายเลข 2 โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทย ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชน ที่ให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงราย จากพรรคเพื่อไทย ทีมงานทุกคน พร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ เพื่อชีวิตที่ดี เพื่อไทยทุกคน.-316-สำนักข่าวไทย

“เพื่อไทย” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย

เชียงราย 14 ก.ย. – ผลคะแนนเลือกตั้ง สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.39 น. “สง่า พรมเมือง” พรรคเพื่อไทย คะแนนนำโด่งทิ้งคู่แข่ง “สุทัศน์ ยาละ” พรรคประชาชน กว่า 2 หมื่นคะแนน ขณะที่เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ขอบคุณประชาชนเทคะแนนให้ “สง่า” คว้าชัย วันที่ 14 ก.ย.68 เวลา 19.39 น. ที่ศูนย์รวมคะแนนประจำเขตเลือกตั้งที่ 7 อ.แม่จัน จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง ภายหลังปิดหีบลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. จากนั้นเริ่มนับคะแนน โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย รายงานเมื่อเวลา เวลา 19.39 น. พบว่า นายสง่า พรมเมือง […]