28 พ.ค.- ตำรวจสอบสวนกลางผนึกกำลังนครบาล นำหมายศาลเข้าตรวจค้น บริษัท จัดจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ พบของกลางกว่าแสนชิ้นมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ตรวจบัญชีเจ้าของบริษัทพบเงินฝากกว่า 100 ล้านบาท
ตำรวจสอบสวนกลาง นำโดยกำลังตำรวจ ปคบ.กองปราบ ร่วมกับตำรวจนครบาล บุกเข้าตรวจค้น บริษัทแห่งหนึ่ง ภายในอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 2 คูหา ย่าน อ่อนนุช แขวง-เขตประเวศ หลังพบว่า ภายในโกดังดังกล่าวมีการเก็บสินค้า ประเภทบุหรี่ไฟฟ้า นำเข้าจากประเทศจีนเป็นจำนวนมาก และมีการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ มีรายได้มากกว่า 10 ล้านบาท/เดือน
คดีนี้ตำรวจทั้ง 2 หน่วยงาน ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรม ของนายเอ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทมานานกว่า 4 เดือน พบว่าในช่วงเย็นเวลาประมาณ 19.00 น. ของทุกวัน นายเอ จะออกไปกดเงินสดจากตู้ ATM วันละ 350,000-500,000 บาท โดยบัญชีธนาคารที่ใช้ทั้งหมดเป็นบัญชีม้า

พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะที่กำลังตำรวจของสอบสวนกลางและตำรวจฝ่ายสืบสวนของนครบาล เข้าตรวจค้น พนักงานชายหญิงจำนวน 11 คน กำลังแพ็คสินค้าลงกล่องพัสดุ เพื่อเตรียมส่งให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์
จากการสอบปากคำเจ้าของ บริษัทดังกล่าวรวมถึงพนักงาน รับสารภาพว่า ในแต่ละวันจะมีลูกค้าสั่งซื้อพอตบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ากลิ่นต่าง ๆ ในช่องทาง Line มากกว่าวันละ 350 ชิ้น ซึ่งบางวันจะมีรายการสั่งสินค้าสูงสุดถึง 500 ชิ้น ราคา สินค้า อยู่ระหว่าง 250-2,500 บาท ลูกค้ามีทั้งรายย่อยและลูกค้าที่สั่งซื้อไปขายต่อ ของกลางทั้งหมดสั่งซื้อต่อมาจากนายทุน ชาวจีน ซึ่งนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนมานาน กว่า 2 ปีแล้ว และจากการตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคารของเจ้าของบริษัทดังกล่าว พบเงินฝากมากกว่า 100 ล้านบาท
รอง ผบ.ตร.ยังกล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหา ยอมรับว่า ที่ต้องขายสินค้าดังกล่าว แม้ว่าตำรวจจะปราบปรามอย่างหนักในช่วงนี้ก็เพราะว่าสินค้า ยังค้างสตอกอยู่เป็นจำนวนมาก จึงพยายามจะระบายสินค้าดังกล่าวให้หมด แต่ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน สำหรับของกลางที่ตรวจพบในวันนี้ ประกอบด้วยบุหรี่ไฟฟ้าชนิดสูบ 30,000 ชิ้น น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ชนิดเติม 35,000 ชิ้น คอยบุหรี่ไฟฟ้า 5,000 ชิ้น และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเปลี่ยนหัว อีก 50,000 ชิ้น รวมกว่า 100,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ตำรวจเตรียมควบคุมตัวผู้ต้องหา เจ้าของบริษัทพร้อมพนักงานรวม 12 คน ส่งพนักงานสอบสวน ปคบ. ดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมแจ้งข้อหา ร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ห้ามผลิต เพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้า (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า), ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 29, และมาตรา 56/4 พร้อมเตรียมใช้ พ.ร.บ.ฟอกเงินดำเนินการอายัดทรัพย์บัญชีผู้ต้องหาทั้งหมด. -414-สำนักข่าวไทย