28 พ.ค. – ศาลพิพากษาคดีครูฝึก 2 คน และเพื่อนทหารเกณฑ์ที่ถูกแต่งตั้งเป็นครูฝึก 13 นาย รุมทำร้ายพลทหารเน อายุ 18 ปี จนเสียชีวิต โดยศาลตัดสินจำคุกครูฝึก สูงสุด 20 ปี
ทนายเกิดผล แก้วเกิด โพสต์ถึงคำตัดสินคดี น้องเน หรือ พลทหารวรปรัชญ์ พัดมาสกุล อายุ 18 ปี ทหารเกณฑ์สังกัดหน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ถูกครูฝึกและครูผู้ช่วย 13 นาย ทำร้ายร่างกาย หลังเกณฑ์ทหารไม่ถึง 3 เดือน เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2567 จนได้รับบาดเจ็บสาหัสนำตัวส่งโรงพยาบาล แพทย์ระบุสมองบวม ซี่โครงหัก 2 ข้าง ปอดฉีก ปอดรั่ว ไหปลาร้าหัก กระดูกสันหลังหัก จนต่อมาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2567
พนักงานอัยการ ได้ยื่นฟ้องครูฝึกและผู้ช่วยครูฝึกรวมทั้งหมด 13 คน เป็นจำเลยในความผิดฐาน ร่วมทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม การทรมานและป้องกันการกระทำให้บุคคลสูญหาย ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 อ่านคำพิพากษา สรุปว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นครูฝึกทหารใหม่ของค่ายนวมินทร์ โดยมีจำเลยที่ 3-13 เป็นทหารเกณฑ์และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยครูฝึกทหารเกณฑ์ร่วมกันทำร้ายผู้ตายหลายครั้ง หลายเวลา ต่างกรรมต่างวาระ อย่างทารุณโหดร้าย จนผู้ตายได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา
พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อ เนื่องจากพยานส่วนใหญ่เป็นทหารใหม่และเป็นทหารเกณฑ์ในค่าย และเห็นเหตุการณ์ซึ่งถือว่าเป็นประจักษ์พยานโดยตลอด หากไม่เป็นความจริง พยานซึ่งเป็นทหารเกณฑ์และเป็นทหารใหม่คงไม่กล้าใส่ความหรือใส่ร้ายป้ายสี ทั้งไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยทั้ง 13 นอกจากนั้น คำให้การของจำเลย ทั้ง 13 ยังมีพิรุธสงสัย และมีการต่อสู้โดยปฏิเสธลอยๆ ทั้งที่ในชั้นพนักงานสอบสวน จำเลยทั้ง 13 ให้การรับสารภาพเรื่องการทำร้ายร่างกาย แต่หลังที่พลทหารเสียชีวิต กลับให้การปฏิเสธลอยๆ โดยไม่ให้รายละเอียด
ศาลจึงรับฟังได้ว่าจำเลยทั้ง 13 มีส่วนร่วมกันกระทำความผิดจริงตามฟ้อง จึงมีคำพิพากษา จำคุก จำเลยที่ 1 – 20 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 – 15 ปี จำคุกจำเลยที่ 3 ถึง 13 คนละ 10 ปี
ส่วนพ่อแม่พลทหารที่เสียชีวิต ยังติดใจคำพิพากษา เห็นว่าจำเลยที่ 1 ได้รับโทษน้อยเกินกว่าที่กระทำ จะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อไป ส่วนคดีแพ่งหลังคัดคำพิพากษาแล้วทนายเกิดผลจะยื่นฟ้องกองทัพบกเป็นจำเลย เพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย