กรุงเทพฯ 21 พ.ค. – ตํารวจเตรียมขยายผลต่างชาติใช้วีซ่าท่องเที่ยวตระเวนเปิดบัญชีม้าทั่วประเทศ เสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท ยันทั่วโลกไม่เคยมีเตรียมประสานธนาคารแห่งประเทศไทยกํากับดูแล
พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงผลจับกุมเจ้าหน้าที่ธนาคารให้การสนับสนุนขบวนการคอลเซ็นเตอร์เปิดบัญชีธนาคารเพื่อใช้ในการกระทำผิดและขยายผลเชื่อมโยงไปยังผู้ร่วมขบวนการรายอื่นอีกหลายราย ว่า จากผลปฏิบัติการจับกุมผู้กระทําความผิด ประกอบด้วย ผู้จัดการธนาคารและพนักงานรวม 4 คน และผู้เกี่ยวข้องอีก 2 คน รวม 6 คน และกลุ่มผู้สนับสนุนอํานวยความสะดวกให้กับผู้ต้องหาชาวจีนอีก 5 คน รวมจับกุมทั้งสิ้น 11 คน ซึ่งพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้ง 15 คน จะมีการเดินทางเข้ามายังประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวในช่วงเดือนมีนาคม 2568 ทั้งหมดเดินทางเข้าไทยครั้งแรก จากนั้นจะมีกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 5 คนคอยให้การสนับสนุนพากลุ่มคนจีนทั้ง 15 คน ไปติดต่อธนาคารทั่วประเทศเพื่อขอเปิดบัญชี โดยเฉพาะธนาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 15 คน ทยอยเดินทางเข้าไปเปิดบัญชีตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา ก่อนจะเดินทางกลับไปยังประเทศจีนในวันที่ 13 มีนาคม โดยมีผู้จัดการธนาคารและพนักงานร่วมกันปลอมแปลงเอกสารเพื่อให้เปิดบัญชีได้ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว
จากการสืบสวนพบว่าบัญชีทั้ง 15 บัญชีของกลุ่มผู้ต้องหาชาวจีนมีเงินเข้ามาจํานวน 118 ล้านบาท ถอนออกไปแล้วจํานวน 91 ล้านบาท ที่เหลือสามารถอายัดเอาไว้ได้ โดยทั้ง 15 บัญชีมีผู้เสียหาย 106 คดี ขยายผลต่อเนื่องพบเกี่ยวข้องกับ 462 บัญชี ซึ่งทั้ง 462 บัญชี มีผู้เสียหาย 2,084 คดี มูลค่าความเสียหายทั่วประเทศขณะนี้ 2,200 ล้านบาท ขณะนี้ตํารวจอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลให้ครบในทุกมิติ โดยเฉพาะในส่วนของชาวจีนทั้ง 15 คน ที่หลบหนีออกไปนอกประเทศได้ประสานทางการจีนออกหมายจับแล้ว ส่วนแก๊งชาวจีนทั้ง 5 คน ที่ถูกจับนั้นพบว่ามีความเชื่อมโยงกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย
ทั้งนี้ สํานักงานตํารวจแห่งชาติประสานธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยวกับชาวต่างชาติที่เข้ามาเปิดบัญชีธนาคารด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวว่ามีช่องโหว่หรือไม่ เนื่องจากทุกประเทศทั่วโลกไม่มีใครดำเนินการคล้ายลักษณะนี้. -416-สำนักข่าวไทย