กทม. 18 พ.ค. – สาวใจเด็ด โดดลงจากมอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งไล่รถตัวเอง หลังตามหาและผ่อนกุญแจเปล่ามานานกว่า 1 ปี พบเพื่อนสนิทนำรถไปค้ำประกันกับเจ้าหนี้
จากกรณีคลิปที่มีการแชร์ในโซเซียล ขณะผู้หญิงใส่เสื้อลายกำลังวิ่งไล่ตามรถเก๋งสีขาว พร้อมตะโกนให้คนช่วย จนพลเมืองดี ช่วยกันเข้ามารายล้อมรถและคนขับรถเก๋งต้องเลี้ยวเข้าซอย เพื่อลงมาเคลียร์ ก่อนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.)
ล่าสุดทีมข่าวเปิดใจ สาวที่ปรากฏในคลิป เล่าถึงสาเหตุที่ต้องเข้าไปขวางรถยนต์คันนี้ เพราะว่าเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2567 ตนเองได้ซื้อรถเก๋งคันนี้ ทะเบียนขอนแก่น และนำรถไปฝากจอดไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นห้องของแฟนเพื่อนสนิท แต่หลังจากที่นำรถไปฝาก ก็ไม่เคยได้พบรถตัวเองอีกเลย โดยเพื่อนสนิท อ้างว่าแฟนเอาไปขับ ทุกครั้งที่ทวงถามหารถ จะมีการบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา จนในที่สุด ตนเองก็เข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ห้วยขวาง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหารถ
เวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี ก็ยังตามหาไม่ได้ ตนเองจึงต้องผ่อนกุญแจเปล่า มาเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม กระทั่งช่วง 14.30 น. วานนี้ ตนเองได้นั่งจยย.รับจ้าง เพื่อออกไปกินข้าวกับเพื่อน แต่เมื่อเดินทางมาถึงถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เหลือบไปเห็นรถคันดังกล่าว ซึ่งมั่นใจว่าเป็นรถของตนเอง และที่สำคัญจำเลขทะเบียนรถได้ จึงตัดสินใจกระโดดลงจากจยย.รับจ้าง และวิ่งไล่ตาม เปิดประตูรถ และตะโกนให้คนขับซึ่งเป็นผู้ชาย ทราบในเวลาต่อมาว่าเป็นชาวจีนให้หยุดรถ และพยายามดึงกุญแจออก แต่ชายคนดังกล่าวยังขับไปเรื่อยๆ จึงร้องตะโกนให้คนที่เห็นเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือ จนปรากฏเป็นภาพดังในคลิป ที่เห็นในโซเชียล
หลังตำรวจ สน.ห้วยขวาง เรียกตัวชายชาวจีนมาสอบปากคำ อ้างว่าเพื่อนสนิทเจ้าของรถ ติดหนี้ตนเองอยู่ 250,000 บาท และนำรถยนต์คันดังกล่าว มาให้ตนเองใช้ เพื่อเป็นการค้ำประกัน และยังพบว่าสภาพรถเสียหาย จึงตกลงเจรจาว่า ชายชาวจีนจะรับผิดชอบค่าซ่อมรถให้อยู่สภาพเดิม แล้วได้นัดหมายเพื่อตีราคาซ่อมแซมอีกครั้ง ในวันจันทร์นี้ (19 พ.ค.68) และหลังจากนี้ผู้เสียหายจะแจ้งความดำเนินคดีกับเพื่อนสนิท ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า หลังเห็นผู้หญิงวิ่งตามรถยนต์และได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ จึงพากันรีบเข้าไปช่วยและถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งยอมรับว่าตกใจ ตอนแรกคิดว่าเป็นการลักพาตัวเพราะว่ารถไม่ยอมหยุด กลัวว่าจะลากผู้หญิงไปได้รับบาดเจ็บต้องพากันรีบช่วยไว้ก่อน ซึ่งตัวเองพอจะสื่อสารภาษาจีนได้ จึงช่วยคุยเบื้องต้นให้และช่วยเรียกตำรวจเพื่อให้ไปตกลงกันที่ สน. -สำนักข่าวไทย
