ผบ.ตร.สั่งดูแลปูนบำเหน็จ-สวัสดิการ 5 นักบิน อย่างสมเกียรติ

25 เม.ย. – ผบ.ตร.สั่งดูแลปูนบำเหน็จพร้อมสวัสดิการ 5 นักบินตำรวจอย่างสมเกียรติ ส่วนสาเหตุเครื่องบินตก รอตรวจกล่องดำจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 15 วัน ส่วน 1 นาย ที่รอดชีวิตบาดเจ็บสาหัสยังไม่ฟื้นสติ เตรียมเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิตทำพิธีร่วม


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุเครื่องบินของกองบินตำรวจตกบริเวณทะเลใกล้กับสนามบินบ่อฝ้าย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ จนทำให้นายตำรวจเสียชีวิต 5 นาย บาดเจ็บสาหัส 1 นาย ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ลงพื้นที่ด้วยตนเองได้ไปรับทราบข้อมูลและบริหารจัดการเหตุอากาศยานที่ตกรวมทั้งเรื่องผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

อากาศยานเครื่องบินเล็กของกองบินตำรวจ มีหน้าที่สนับสนุนกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ในเรื่องความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ในภารกิจช่วงเช้าวันนี้ทราบว่าเป็นการทดสอบเครื่องบินเพื่อเตรียมทำภารกิจกระโดดร่ม ซึ่งต้องตรวจสอบทั้งทางภาคพื้นและภาคอากาศ ที่ผ่านมาการทดสอบภาคพื้นไม่มีปัญหาไม่มีเหตุข้อขัดข้อง จึงต้องมีการทดสอบทางอากาศเป็นขั้นตอนต่อมา เมื่อทดสอบทางอากาศทราบว่าเครื่องยกตัวขึ้นได้ในระยะไม่มากไม่ห่างจากฝั่งเพียง 100 เมตร ก่อนเครื่องบินจะทิ้งตัวตกเกิดอาการเอียงขวาเข้าหาฝั่ง คาดว่านักบินและผู้ปฏิบัติงานในเครื่องตัดสินใจดึงเครื่องไปทางซ้าย ไม่ให้เอียงขวาตกไปที่บ้านเรือนประชาชน จึงเกิดภาพเครื่องบินเอนฝั่งซ้ายลงทะเล ลักษณะการลงเป็นการลงที่รุนแรง ทำให้ในห้องโดยสารเสียชีวิต 5 นาย อีก 1 นาย บาดเจ็บสาหัส


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวต่อว่า เรื่องของทางเทคนิคที่เกิดการเอียงขวาต้องมีการสอบสวนตามกระบวนการของการบิน ตนได้สอบถามผู้การกองบินฯ ทราบว่ามีทีมสอบสวนของกองบินอยู่แล้ว คาดว่าจะต้องมีการประสานกับสำนักการบินพลเรือนในอนาคต ซึ่งต้องใช้เวลาหาสาเหตุการที่เครื่องบินเอียง ต้องใช้เวลากว่า 15 วัน นอกจากนี้ วันนี้ที่ตนเองไปในที่เกิดเหตุได้มีการกำชับให้เร่งรีบชันสูตรพลิกศพ โดยเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตไปที่โรงพยาบาลหัวหิน ส่วนเครื่องบินรอน้ำทะเลลดลงต่อเนื่อง จึงได้ปรึกษากับตำรวจตระเวนชายแดนที่เป็นหน่วยหลักในการจัดการซากเครื่องบิน การดึงกลับเข้ามาจะต้องใช้เครื่องมือหนัก น่าจะใช้เวลาพอสมควรอาจจะต้องใช้เวลามากถึง 1 วัน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวต่อว่า ตามกฎหมายร่างผู้เสียชีวิตต้องมีการชันสูตร แต่ทั้งนี้เหตุในการเสียชีวิตมีความชัดเจนอยู่แล้ว ในการทำงานแต่ละกระบวนการจากนี้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ประสานกับทางครอบครัวอย่างใกล้ชิด ส่วนการบำเพ็ญกุศลทางศาสนา สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเป็นเจ้าภาพ 1-2 คืน จากนั้นจะหารือแต่ละครอบครัวว่าต้องการเคลื่อนย้ายร่างกลับไปแต่ละภูมิลำเนาเดิม หรือจะประกอบพิธีร่วมกัน

“ผู้เสียชีวิตทั้งหมดถือว่าเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่เพราะมีคำสั่งให้ทดสอบเครื่องบิน ดังนั้นสวัสดิการจะเป็นไปตามสิทธิ์โดยชอบทุกอย่าง ตนเองได้กำชับไปในที่เกิดเหตุว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบินฯ กองสวัสดิการฯ ให้ดูแลเรื่องสวัสดิการอย่างเต็มที่ทุกอย่าง ให้ทำอย่างสมเกียรติดูแลอย่างเต็มที่” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า ในส่วนของ ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ ผู้บาดเจ็บ ขณะนี้อาการสาหัส อวัยวะภายในได้รับการกระทบกระเทือน ยังไม่ได้สติ ภาพเอกซเรย์กระดูกที่เท้าขวาข้อเท้าและหน้าแข้งหัก แขนหักแพทย์ที่โรงพยาบาลหัวหิน กำลังช่วยเหลืออย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม เครื่องบินที่เกิดเหตุมาประจำที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2564 ใช้งบประมาณ 2562 มีมาในรอบเดียวกัน 3 ลำ ทั้งนี้ อากาศยานเหมือนรถยนต์ที่มีห้วงเวลาในการตรวจสอบตามวงรอบซ่อมบำรุง อากาศยานที่ตกถือว่ายังไม่เก่าเกินใช้งาน ตนเองทราบว่านักบินหลักผ่านการบินหลายพันชั่วโมง อยู่ในระดับครูการบิน เครื่องบินลำนี้กับนักบินหลักผูกพันกันมาก นักบินดูแลเครื่องบินลำนี้มาตลอด

สำหรับร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 5 นาย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ผบ.ตร. ได้สั่งให้จัดขบวนเคลื่อนย้ายร่างทั้งหมดนำโดยกองบังคับการตำรวจจราจร ตามด้วยรถพยาบาล โรงพยาบาลตำรวจ มาทำพิธีรดน้ำศพ ที่วัดย่านวัชรพล ซึ่งเป็นวัดศิริพงศ์ ที่้ใกล้ที่ทำการกองบินตำรวจ

ในขณะที่ 1 ในผู้เสียชีวิต ร.ต.ท.ธนวรรษ เมฆประเสริฐสุข วิศวกรประจำเครื่องบิน จากประวัติพบว่าเป็นบุตรชายของ พล.ต.ท.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข อดีตที่ปรึกษา สบ.8 สพฐ.ตร. ซึ่งครอบครัวนี้มีบุตร 3 คน โดยมีบุตรคนโตเป็นผู้หญิง ปัจจุบันรับราชการตำรวจ ระดับสารวัตร สังกัดการเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ร.ต.ท.ธนวรรษ เป็นบุตรคนกลาง ซึ่งแต่งงานเมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ส่วนบุตรคนสุดท้าย อยู่ระหว่างศึกษาระดับปริญญาโท สำหรับพล.ต.ท.ธวัชชัย เป็นหนึ่งในจำเลยคดีเปลี่ยนความเร็วรถ “บอส อยู่วิทยา” ซึ่งศาลทุจริตฯ มีคำสั่งยกฟ้องเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา. -416-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]