ตร.24 เม.ย. – ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันสั่งกองวินัยและฝ่ายกฎหมาย ตรวจสอบกรณีอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ถูกพาดพิงว่าเกี่ยวพันกับขบวนการลักลอบนำข้อสอบคณะนิติศาสตร์ ยังไม่ชี้ผิดวินัยหรือไม่ และพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า หากพบมีตำรวจมีพฤติกรรมลักษณะโกงข้อสอบ หรือกระทำผิดกฎหมาย คงไม่สามารถเอาไว้ได้ ซึ่งในกรณีที่อดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ถูกพาดพิงว่าเกี่ยวพันกับขบวนการลักลอบนำข้อสอบคณะนิติศาสตร์ ออกจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ไม่ใช่การซ้ำเติม และไม่มีคำสั่งมาจากผู้ใด แต่พนักงานสอบสวน มีหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย หลังได้รับแจ้งว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น จึงสั่งการให้กองวินัย และฝ่ายกฎหมาย พิจารณาเสนอว่า มีการกระทำผิดวินัยจริงหรือไม่ โดยต้องรอตรวจสอบพยานหลักฐานให้ชัดเจน ซึ่งแม้จะพ้นจากราชการไปแล้ว แต่หากยังอยู่ในห้วงเวลาที่สามารถดำเนินการทางวินัยได้ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ส่วนการลอกข้อสอบจะผิดหรือไม่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ยังอยู่ในกระบวนการสอบสวน จึงยังไม่สามารถตอบได้ ยืนยันต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย หากไม่ใช่การทุจริต พนักงานสอบสวน ก็มีอำนาจสั่งไม่ฟ้อง
สำหรับหลักฐานที่ทางตำรวจไซเบอร์ พบว่ามีเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาคดีเว็บพนัน ไปยังกลุ่มขบวนการลอกข้อสอบ จำนวน 11 เส้น และข้อความการแชทสนทนานั้น ไม่ยืนยันว่าเป็นการโอนเงินค่าโกงข้อสอบ หรือชี้ชัด ในเรื่องการทำทุจริตข้อสอบ จะเป็นช่องโหว่ของข้อกฎหมาย จนทำให้ ผู้ถูกพาดพิงที่มีความรู้ด้านกฎหมายดำเนินคดีกลับ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าอาจจะเป็นการเพลี่ยงพล้ำ จนทำให้ฝ่ายผู้ถูกพาดพิง มีการฟ้องกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเรื่องดังกล่าว เชื่อว่าทางพนักงานสอบสวนต้องมีความรอบคอบ และรัดกุมในการที่จะพิจารณาข้อกฎหมายเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เป็นกำลังใจให้ รวมทั้งสื่อมวลชนด้วย
ส่วนกรณีที่ตำรวจไซเบอร์เข้ามารับผิดชอบการทำคดี สืบเนื่องจากสารตั้งต้นของคดี ตำรวจไซเบอร์มีการพิสูจน์ทราบ และมีพยานหลักฐานมาโดยตลอด อีกทั้ง อำนาจและหน้าที่ก็สามารถดำเนินการได้ ซึ่งไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง หรือเหยียบใครซ้ำแน่นอน. -419-สำนักข่าวไทย