ตำรวจ ปส.แถลงจับ 2 ผู้ต้องหาลอบขนยาบ้ากว่า 13 ล้านเม็ด

บช.ปส. 21 เม.ย. – ตำรวจ ปส.จับสองผู้ต้องหาลักลอบขนยาบ้ากว่า 13 ล้านเม็ด พบใช้เยาวชนขนยาเสพติดมากขึ้นหลังตำรวจคุมเข้มแนวชายแดน พร้อมเผยสถิติผลปฏิบัติงานด้านการปราบปราบยาเสพติดทั่วประเทศจับกุมระหว่าง 1 ต.ค.67-ปัจจุบัน จับผู้ต้องหากว่า 1 แสนราย ยึดของกลางยาบ้า 566 ล้านเม็ด ไอซ์ 3 หมื่นกิโลกรัม ยึดทรัพย์ 5,301 ล้านบาท


พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลทลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญจับกุมผู้ต้องหา 2 คน ได้พร้อมของกลางยาบ้า 13,200,000 เมตร รถยนต์ 2 คัน

คดีแรกตำรวจกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่, สำนักงาน ป.ป.ส. ได้เฝ้าระวังการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ตามแนวชายแดนภาคเหนือ หลังสืบทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำส่งให้กับเครือข่ายในพื้นที่ตอนใดของประเทศจึงได้เฝ้าระวังต่อมาวันที่ 7 เมษายน 2568 พบความเคลื่อนไหวรถกระบะกลุ่มบุคคลในเครือข่ายอยู่บนถนนโชตินา เขตพื้นที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โดยเข้าไปในพื้นที่หมู่บ้านกลุ่มชาติพันธุ์ จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์ จากนั้น 8 เมษายน 2568 รถกระบะคันดังกล่าวขับออกมาได้บรรทุกกะหล่ำปลีเต็มท้ายกระบะมีน้ำหนักมากผิดปกติ มุ่งหน้า อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อรถกระบะมาถึงบริเวณด่านตรวจยาเสพติด แก่งปั้นเต้า ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบผู้ต้องหา 1 คน พร้อมยาบ้า 12,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ท้ายกระบะโดยมีกะหล่ำปลีปกปิดอำพราง ทั้งนี้ นำตัวผู้ต้องหาและของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


อีกคดีเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 นปส.เชียงราย กก.2 บก.ปส.3 ได้จับกุมผู้ต้องหา 1 คน พร้อมยาบ้า 1,200,000 เม็ด หลังตำรวจสืบทราบว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติด บ้านผาหมี อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อนำส่งให้กับเครือข่ายในพื้นที่ตอนในของประเทศ จึงได้เฝ้าระวังกระทั่งพบรถกระบะของกลุ่มเครือข่ายขับออกมาจากหมู่บ้านผาหมี มุ่งหน้าไปอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จึงได้ติดตามกระทั่งรถกระบะคันดังกล่าวเข้าไปจอดบริเวณลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาแม่สาย จังหวัดเชียงราย

ต่อมามีชาย 2 คน ได้เดินมาที่รถกระบะและจะขับออกไป เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น ชายคนขับได้เปิดประตูรถและหลบหนีไปยังด้านหลังของห้างสรรพสินค้า จึงได้จับกุมผู้ต้องหาเป็นเยาวชนซึ่งนั่งอยู่เบาะข้างคนขับจำนวน 1 คน และของกลางยาบ้า 1,200,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องโดยสารตอนหลัง จึงได้นำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวนฯ บก.ปส.3 จะได้ทำการขยายผลเพื่อติดตามผู้ต้องหาที่หลบหนีต่อไป

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า แม้ว่าที่ผ่านมาจะสามารถจับกุมผู้ต้องหาและของกลางได้จำนวนมาก แต่ตัวผู้บงการหรือนักค้าจะขยายผลต่อไป ในรอบปีที่ผ่านมาพบว่าปริมาณยาเสพติดจับได้ประมาณ 450 ล้านเม็ด แม้ช่วงที่ผ่านมาจะเกิดแผ่นดินไหวแต่ยังพบว่าปัญหายาเสพติดยังมีการลักลอบลำเลียงอยู่ เบื้องต้นยาเสพติดเหล่านี้จะเข้ามายังแหล่งพักยาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เนื่องจากยาเสพติดที่จับกุมได้มีอักษร Y1 และส่วนใหญ่ยาเสพติดเหล่านี้จะส่งต่อไปยังสามจังหวัดชายแดนภาคใต้


พล.ต.อ.ประจวบ กล่าวว่า การลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตั้งแต่ต้นทางที่ภาคเหนือโดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายนเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีประชาชนเดินทางไปเที่ยวทั่วราชอาณาจักร ผู้กระทำความผิดจึงอาศัยจังหวะดังกล่าวในการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาตามแนวชายแดนในพื้นที่ภาคเหนือ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กวดขันปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดตั้งแต่ต้นทางตามแนวชายแดน กลางทางในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาตามเส้นทางต่างๆ ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน เพื่อเข้ามาสู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะมีการติดตามสกัดกั้นจับกุมตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง เมื่อมีการจับกุมได้จะมีการสอบสวนขยายผลกับผู้กระทำความผิดจนถึงที่สุด โดยนำมาตรการพ.ร.บ.สมคบฯ เพื่อยึดทรัพย์มาบังคับใช้ ขณะเดียวกันในพื้นที่ชุมชนต่างๆ จะทำการเอกซเรย์พื้นที่หาผู้ค้ารายย่อยปราบปรามจับกุมตรวจค้นอย่างต่อเนื่องเพื่อระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด

เมื่อถามถึงกรณีที่ขบวนการค้ายาเสพติดใช้ผู้ขนยาเสพติดที่มีอายุน้อยลงหรือยังเป็นเยาวชนอยู่จะมีผลต่อการดำเนินดคีหรือไม่ พล.ต.ท.สันติ กล่าวว่า ช่วงหลังในหลายคดีพบเห็นว่าผู้กระทำความผิดอายุไม่มากซึ่งอาจเป็นแนววิธีการ การดำเนินการทั้งการปิดกั้นพื้นที่ชายแดนในการหยุดยั้งสกัดกั้นยาเสพติดได้เพิ่มความเข้มเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ลักลอบขนหาได้ยากขึ้น ผู้สั่งการหาผู้ลักลอบขนได้ยากขึ้นจึงมีการลดจำนวนอายุของผู้ลักลอบขนลงมา ขณะที่พ.ต.อ.ทวียืนยันว่าการใช้ผู้ขนยาเสพติดที่มีอายุน้อยลงไม่มีผลกับการดำเนินคดี โทษยังเท่าเดิมอยู่ เพียงแต่จะต้องส่งไปยังศาลเด็ก เยาวชนและครอบครัวตามขั้นตอนเท่านั้น

จากสถิติผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม 2567 ถึง ปัจจุบัน ทั่วประเทศสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดได้จำนวนทั้งสิ้น 136,189 ราย ตรวจยึดของกลางยาเสพติดเป็นยาบ้า 566,622,422 เม็ด, ไอซ์ 30,334.51 กิโลกรัม, เฮโรอีน 896.07 กิโลกรัม, คีตามีน 4,068.51 กิโลกรัม และยาอี จำนวน 123,087 เม็ด รวมทั้งสามารถดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดได้รวมมูลค่า กว่า 5,301,456,966 บาท

ส่วนการปราบปรามยาเสพติดของ บช.ปส. ตั้งแต่ 1 ต.ค.67 – ปัจจุบัน สามารถจับกุมขบวนการ ค้ายาเสพติดทุกคดีได้ 679 คดี ผู้ต้องหา 680 คน ของกลางยาเสพติด คือ ยาบ้า 194,410,158 เม็ด, ไอซ์ 12,526.44 กก., เฮโรอีน 205.01 กก., คีตามีน 710 กก. และยาอี 581 เม็ด ยึดอายัดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติด 1,566,813,230 บาท.-419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]