ผู้ว่าฯ กทม. นำทีมแถลงเร่งช่วยชีวิตผู้ติดใต้ตึกถล่ม

กรุงเทพฯ 1 เม.ย. – ผู้ว่าฯ กทม. นำทีมแถลงเร่งช่วย 73 ชีวิตติดใต้ตึกถล่ม เผยทีมผู้เชี่ยวชาญระดับโลกยังคงมีหวังพบผู้รอดชีวิต


เมื่อเวลา 16.50 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, นางสาวภัทร์กร สินสุข ผู้อำนวยการการสำนักงานเขตจตุจักร ร่วมกันแถลงความคืบหน้าของปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารในโครงการก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ จตุจักร ถล่ม ขณะแผ่นดินไหว

นายชัชชาติ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ขั้นตอนค้นหาผู้ประสบภัยต่อ โดยมีการรื้อถอนสิ่งหักพังขนาดใหญ่ออก โดยเริ่มเมื่อคืนนี้ด้วยทีมกู้ภัยนานาชาติเป็นทีมที่ดีที่สุดในโลก ได้ติดตั้งเครนขนาดใหญ่ 4 ตัว แบ่งเป็น ด้านซ้าย ขนาด 600 ตัน 1 ตัว/ ตรงกลางขนาด 500 ตัน และอีก 200 ตัน จำนวน 2 ตัว และมีการมาร์คจุดโดยผู้เชี่ยวชาญ โดยเริ่มยกตั้งแต่เช้ามีชาร์ปขวางอยู่ 4 จุด และกำลังทยอยยกอีก 6-7 ชิ้น จะทำให้เข้าสู่โพรงด้านในได้มากขึ้น ขณะนี้ยังไม่พบสัญญาณชีพ พบแล้ว 12 ร่างอยู่ด้านในแต่ยังไม่ได้เอาออกมา ซึ่งขณะนี้การนำร่างออกมาไม่ได้สำคัญที่สุด ส่วนไหนที่พอจะนำออกมาได้ก็จะนำออกมา อย่างเช่นเมื่อสักครู่นำออกมาได้ 1 ร่าง จะเน้นค้นหาผู้รอดชีวิตก่อน โดยจะค่อยๆ ยกของหนักไปทีละชั้น และให้หน่วยเดินเท้าเข้า เพราะทีมผู้เชี่ยวชาญต่างชาติบอกว่ายังมีความหวัง วันนี้มีหลายหน่วยงานเข้ามาเก็บหลักฐานต่างๆ ซึ่งเราจะให้ความร่วมมือ เช่น กรมโยธาธิการเข้ามาเก็บหลักฐานต่างๆ จะต้องมีการประสานเวลาในการเข้า-ออก


“เรามีความหวัง และไปด้วยความหวัง และประสบการณ์ของทีมต่างชาติบอกมีเคสที่รอดได้ ก็จะต้องลุยต่อ” นายชัชชาติ กล่าว

นายชัชชาติ กล่าวถึงการคาดการณ์จำนวนผู้รอดชีวิตว่า ไม่สามารถระบุเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ แต่ทีมงานยังคงมีความหวังและปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยจากการสำรวจภายใน พบว่าอุณหภูมิไม่สูงมากและมีโพรงอากาศอยู่ ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่ติดอยู่สามารถรอดชีวิตได้หากไม่ถูกทับถมโดยตรง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่มีการเผยแพร่เกี่ยวกับจำนวนผู้สูญหายที่สแกนพบ 50-60 คนนั้น เป็นเพียงการประมาณการของเครื่องมือ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดและการประเมินสถานการณ์ที่ไม่ถูกต้อง จึงขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ติดตามข้อมูลจากการแถลงข่าวของหน่วยงานหลัก

สำหรับร่างผู้เสียชีวิต 12 ร่าง ที่ตรวจพบนั้น เป็นจุดที่มีการสำรวจและพบชิ้นส่วน เช่น มือหรือขา แต่ยังไม่สามารถนำออกมาได้ทันที โดยจุดที่พบร่างจำนวนมากคือโซน B และโซน C ซึ่งเป็นบริเวณบันไดหนีไฟและเชื่อมต่อกับอาคารจอดรถด้านหลัง ส่วนโซน A และโซน D มีโอกาสรอดชีวิตน้อย เนื่องจากโครงสร้างมีการทับซ้อนกันในลักษณะแพนเค้ก และการเข้าช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก ผู้เชี่ยวชาญจึงจำเป็นต้องสอบถามข้อมูลจากผู้รอดชีวิตเพื่อระบุจุดที่มีผู้คนหนีภัยมามากที่สุด ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นระบุว่าเป็นโซน B และโซน C


อุปสรรคในการปฏิบัติงานคือความไม่มั่นคงของซากปรักหักพังที่มีขนาดใหญ่ ทำให้รถยกอาจมีกำลังไม่เพียงพอ จึงต้องมีการตัดแยกชิ้นส่วนให้เล็กลงก่อนทำการยก การช่วยเหลือจะนำกำลังคนลงไปที่โซนดังกล่าวโดยใช้เทคนิคเหมือนหอม คือค่อยๆ ปลอกไปทีละชั้น หากพบคนก็จะเช็คสัญญาณชีพ แล้วจะมาร์คจุด จากนั้นก็จะกู้ร่าง การปฏิบัติงานจะคัดเลือกเจ้าหน้าที่ให้ตรงกับภารกิจ โดยจะใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหาในการค้นหาผู้สูญหาย และใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ร่างในการนำร่างออกมา

นายชัชชาติ กล่าวว่า ขณะนี้มีการระดมกำลังและทรัพยากรเพียงพอแล้ว หากมีสิ่งใดขาดแคลนจะมีการร้องขออย่างแน่นอน เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติได้รวมตัวอยู่ที่นี่แล้ว นอกจากนี้ ได้มีการย้ายกองบัญชาการส่วนหน้า จากพื้นดินไปอยู่ที่ชั้น 5 ของลานจอดรถ เพื่อให้สามารถมองเห็นพื้นที่โซน B และ C ได้ทั้งหมด และยืนยันว่าจะร้องขอความช่วยเหลือหากมีความจำเป็น โดยอุปกรณ์ที่ต้องการในขณะนี้คืออุปกรณ์ตัด ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนเพียงพอแล้ว ส่วนประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับการขนย้ายเศษซากอาคาร ได้มีการนำไปไว้ที่บริเวณทางรถไฟใกล้ศาลเยาวชนแล้ว สำหรับเรื่องหลักฐาน ทางกรมโยธาธิการได้เข้ามาพูดคุยแล้ว แต่ในขณะนี้เน้นการช่วยเหลือผู้สูญหายเป็นอันดับแรก การเก็บหลักฐานสามารถดำเนินการเพิ่มเติมภายหลังได้ และยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ ส่วนเรื่องการตรวจสอบเหล็กนั้น ขอสงวนความเห็นเนื่องจากมีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง

“ขณะนี้เป็นกระบวนการกู้ชีพในการค้นหาผู้รอดชีวิต หากจะเลิกค้นหาจะต้องมีคำตอบให้ญาติได้” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

ล่าสุดเวลา 16.20 น. มีผู้ประสบเหตุ 96 คน เสียชีวิต 14 คน เป็น ชาย 8 คน หญิง 6 คน ผู้บาดเจ็บ 9 คน อยู่ระหว่างติดตาม 73 คน

ด้านอธิบดีกรมโยธาเก็บตัวอย่างคอนกรีตและโครงเหล็กซากอาคาร สตง. ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว

นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นำทีมเก็บตัวอย่าง โครงเหล็ก และคอนกรีต เพื่อนำไปตรวจสอบคุณภาพ หลักจากที่อาคารสตง.หลังใหม่ถล่มลงมาจากเหตุแผ่นดินไหว โดยการเข้าไปตรวจสอบครั้งนี้จะใช้ คอริ่งที่เป็นเครื่องความหนาแน่นของปูน จำนวน 4 เครื่อง และเครื่องมือตัดเหล็ก อีก 3 ชุด 4 จุด แบ่งตามโซน A,B,C,D ควบคู่กันไปเพื่อเจาะและตัดคอนกรีตและเหล็กส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานส่งไปตรวจสอบมาตรฐานต่อไป

โดยบริเวณด้านในได้มีการมาร์กจุดที่จะทำการขุดเจาะ ซึ่งลักษณะของตัวอย่างจะต้องเป็นเหล็กที่มีความสมบูรณ์ ไม่บิดงอ ส่วนคอนกรีตต้องเป็นตัวอย่าง คอนกรีตที่ไม่มีรอยแตกร้าว เพื่อให้เกิดการพิสูจน์หลักฐานที่มีความแม่นยำถูกต้องมากที่สุด. -419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย