ผู้ว่าฯ กทม. นำทีมแถลงเร่งช่วยชีวิตผู้ติดใต้ตึกถล่ม

กรุงเทพฯ 1 เม.ย. – ผู้ว่าฯ กทม. นำทีมแถลงเร่งช่วย 73 ชีวิตติดใต้ตึกถล่ม เผยทีมผู้เชี่ยวชาญระดับโลกยังคงมีหวังพบผู้รอดชีวิต


เมื่อเวลา 16.50 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, นางสาวภัทร์กร สินสุข ผู้อำนวยการการสำนักงานเขตจตุจักร ร่วมกันแถลงความคืบหน้าของปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารในโครงการก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ จตุจักร ถล่ม ขณะแผ่นดินไหว

นายชัชชาติ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ขั้นตอนค้นหาผู้ประสบภัยต่อ โดยมีการรื้อถอนสิ่งหักพังขนาดใหญ่ออก โดยเริ่มเมื่อคืนนี้ด้วยทีมกู้ภัยนานาชาติเป็นทีมที่ดีที่สุดในโลก ได้ติดตั้งเครนขนาดใหญ่ 4 ตัว แบ่งเป็น ด้านซ้าย ขนาด 600 ตัน 1 ตัว/ ตรงกลางขนาด 500 ตัน และอีก 200 ตัน จำนวน 2 ตัว และมีการมาร์คจุดโดยผู้เชี่ยวชาญ โดยเริ่มยกตั้งแต่เช้ามีชาร์ปขวางอยู่ 4 จุด และกำลังทยอยยกอีก 6-7 ชิ้น จะทำให้เข้าสู่โพรงด้านในได้มากขึ้น ขณะนี้ยังไม่พบสัญญาณชีพ พบแล้ว 12 ร่างอยู่ด้านในแต่ยังไม่ได้เอาออกมา ซึ่งขณะนี้การนำร่างออกมาไม่ได้สำคัญที่สุด ส่วนไหนที่พอจะนำออกมาได้ก็จะนำออกมา อย่างเช่นเมื่อสักครู่นำออกมาได้ 1 ร่าง จะเน้นค้นหาผู้รอดชีวิตก่อน โดยจะค่อยๆ ยกของหนักไปทีละชั้น และให้หน่วยเดินเท้าเข้า เพราะทีมผู้เชี่ยวชาญต่างชาติบอกว่ายังมีความหวัง วันนี้มีหลายหน่วยงานเข้ามาเก็บหลักฐานต่างๆ ซึ่งเราจะให้ความร่วมมือ เช่น กรมโยธาธิการเข้ามาเก็บหลักฐานต่างๆ จะต้องมีการประสานเวลาในการเข้า-ออก


“เรามีความหวัง และไปด้วยความหวัง และประสบการณ์ของทีมต่างชาติบอกมีเคสที่รอดได้ ก็จะต้องลุยต่อ” นายชัชชาติ กล่าว

นายชัชชาติ กล่าวถึงการคาดการณ์จำนวนผู้รอดชีวิตว่า ไม่สามารถระบุเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ แต่ทีมงานยังคงมีความหวังและปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยจากการสำรวจภายใน พบว่าอุณหภูมิไม่สูงมากและมีโพรงอากาศอยู่ ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่ติดอยู่สามารถรอดชีวิตได้หากไม่ถูกทับถมโดยตรง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่มีการเผยแพร่เกี่ยวกับจำนวนผู้สูญหายที่สแกนพบ 50-60 คนนั้น เป็นเพียงการประมาณการของเครื่องมือ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดและการประเมินสถานการณ์ที่ไม่ถูกต้อง จึงขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ติดตามข้อมูลจากการแถลงข่าวของหน่วยงานหลัก

สำหรับร่างผู้เสียชีวิต 12 ร่าง ที่ตรวจพบนั้น เป็นจุดที่มีการสำรวจและพบชิ้นส่วน เช่น มือหรือขา แต่ยังไม่สามารถนำออกมาได้ทันที โดยจุดที่พบร่างจำนวนมากคือโซน B และโซน C ซึ่งเป็นบริเวณบันไดหนีไฟและเชื่อมต่อกับอาคารจอดรถด้านหลัง ส่วนโซน A และโซน D มีโอกาสรอดชีวิตน้อย เนื่องจากโครงสร้างมีการทับซ้อนกันในลักษณะแพนเค้ก และการเข้าช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก ผู้เชี่ยวชาญจึงจำเป็นต้องสอบถามข้อมูลจากผู้รอดชีวิตเพื่อระบุจุดที่มีผู้คนหนีภัยมามากที่สุด ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นระบุว่าเป็นโซน B และโซน C


อุปสรรคในการปฏิบัติงานคือความไม่มั่นคงของซากปรักหักพังที่มีขนาดใหญ่ ทำให้รถยกอาจมีกำลังไม่เพียงพอ จึงต้องมีการตัดแยกชิ้นส่วนให้เล็กลงก่อนทำการยก การช่วยเหลือจะนำกำลังคนลงไปที่โซนดังกล่าวโดยใช้เทคนิคเหมือนหอม คือค่อยๆ ปลอกไปทีละชั้น หากพบคนก็จะเช็คสัญญาณชีพ แล้วจะมาร์คจุด จากนั้นก็จะกู้ร่าง การปฏิบัติงานจะคัดเลือกเจ้าหน้าที่ให้ตรงกับภารกิจ โดยจะใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหาในการค้นหาผู้สูญหาย และใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ร่างในการนำร่างออกมา

นายชัชชาติ กล่าวว่า ขณะนี้มีการระดมกำลังและทรัพยากรเพียงพอแล้ว หากมีสิ่งใดขาดแคลนจะมีการร้องขออย่างแน่นอน เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติได้รวมตัวอยู่ที่นี่แล้ว นอกจากนี้ ได้มีการย้ายกองบัญชาการส่วนหน้า จากพื้นดินไปอยู่ที่ชั้น 5 ของลานจอดรถ เพื่อให้สามารถมองเห็นพื้นที่โซน B และ C ได้ทั้งหมด และยืนยันว่าจะร้องขอความช่วยเหลือหากมีความจำเป็น โดยอุปกรณ์ที่ต้องการในขณะนี้คืออุปกรณ์ตัด ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนเพียงพอแล้ว ส่วนประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับการขนย้ายเศษซากอาคาร ได้มีการนำไปไว้ที่บริเวณทางรถไฟใกล้ศาลเยาวชนแล้ว สำหรับเรื่องหลักฐาน ทางกรมโยธาธิการได้เข้ามาพูดคุยแล้ว แต่ในขณะนี้เน้นการช่วยเหลือผู้สูญหายเป็นอันดับแรก การเก็บหลักฐานสามารถดำเนินการเพิ่มเติมภายหลังได้ และยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ ส่วนเรื่องการตรวจสอบเหล็กนั้น ขอสงวนความเห็นเนื่องจากมีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง

“ขณะนี้เป็นกระบวนการกู้ชีพในการค้นหาผู้รอดชีวิต หากจะเลิกค้นหาจะต้องมีคำตอบให้ญาติได้” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

ล่าสุดเวลา 16.20 น. มีผู้ประสบเหตุ 96 คน เสียชีวิต 14 คน เป็น ชาย 8 คน หญิง 6 คน ผู้บาดเจ็บ 9 คน อยู่ระหว่างติดตาม 73 คน

ด้านอธิบดีกรมโยธาเก็บตัวอย่างคอนกรีตและโครงเหล็กซากอาคาร สตง. ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว

นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นำทีมเก็บตัวอย่าง โครงเหล็ก และคอนกรีต เพื่อนำไปตรวจสอบคุณภาพ หลักจากที่อาคารสตง.หลังใหม่ถล่มลงมาจากเหตุแผ่นดินไหว โดยการเข้าไปตรวจสอบครั้งนี้จะใช้ คอริ่งที่เป็นเครื่องความหนาแน่นของปูน จำนวน 4 เครื่อง และเครื่องมือตัดเหล็ก อีก 3 ชุด 4 จุด แบ่งตามโซน A,B,C,D ควบคู่กันไปเพื่อเจาะและตัดคอนกรีตและเหล็กส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานส่งไปตรวจสอบมาตรฐานต่อไป

โดยบริเวณด้านในได้มีการมาร์กจุดที่จะทำการขุดเจาะ ซึ่งลักษณะของตัวอย่างจะต้องเป็นเหล็กที่มีความสมบูรณ์ ไม่บิดงอ ส่วนคอนกรีตต้องเป็นตัวอย่าง คอนกรีตที่ไม่มีรอยแตกร้าว เพื่อให้เกิดการพิสูจน์หลักฐานที่มีความแม่นยำถูกต้องมากที่สุด. -419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

เขื่อนเจ้าพระยาระบายแตะ 2,000 ลบ.ม./วินาที หน่วงน้ำเขื่อนป่าสักฯ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมชลประทานจะระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,000 ลบ.ม./วินาที ช่วงบ่ายวันนี้ ห่วงผลกระทบพื้นที่ด้านท้าย จึงปรับลดการระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อให้น้ำเหนือระบายสู่อ่าวไทยได้มีประสิทธิภาพขึ้น ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน ระบุว่า เช้าวันนี้ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,101 ลบ.ม./วินาที และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเมื่อคืนที่ผ่านมากรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จาก 1,900 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,950 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งตามศักยภาพของคลอง แต่เนื่องจากปริมาณน้ำที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นดังกล่าว จะทำให้มีพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนที่ได้รับผลกระทบได้แก่ กรมชลประทานจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป จากอัตรา 1,950 ลบ.ม./วินาที ให้เป็น 2,000 ลบ.ม./วินาที ภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้ (12 ก.ย.) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในระยะนี้ […]

สั่ง 4 ข้อยกระดับมาตรฐานซาฟารีเวิลด์ ห่วงความปลอดภัยและสวัสดิภาพสัตว์

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – อธิบดีกรมอุทยานฯ มีคำสั่งด่วนถึงซาฟารีเวิลด์ ให้ปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแสดงสัตว์ดุร้ายโดยเร็ว พร้อมกำหนด 4 มาตรการเข้มที่ต้องปฏิบัติเพื่อยกระดับความปลอดภัยทั้งต่อนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ชี้เป็นห่วงสุขภาพและสวัสดิภาพสิงโต เบื้องต้นพบมีภาวะเครียดและมีอาการโรคผิวหนัง ส่วนกรงยังมีไม่เหมาะสมเพียงพอ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงบริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ให้ดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแสดงสัตว์ดุร้าย หลังเกิดเหตุสิงโตในโซนจัดแสดงแบบเปิดรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์จนเสียชีวิต จากการตรวจสอบเบื้องต้นของคณะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ พบข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยหลายประการเช่น ไม่มีระบบกั้นพื้นที่อย่างปลอดภัย ไม่มีประตูนิรภัยสองชั้น และขาดอุปกรณ์ควบคุมสัตว์ที่เหมาะสม ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าใกล้สัตว์โดยตรงขณะปฏิบัติงาน กรมฯ จึงกำหนด 4 มาตรการเร่งด่วน ที่บริษัทต้องดำเนินการให้ครบถ้วน ดังนี้ อธิบดีกรมอุทยานฯ ย้ำว่า ได้ให้บริษัทเร่งปรับปรุงให้ได้ตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยทั้งของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ก่อนหน้านี้ กรมอุทยานฯ ได้มีคำสั่งปิดการจัดแสดงสิงโตและสัตว์ดุร้ายในสวนสัตว์เปิดซาฟารีเวิลด์เป็นการชั่วคราวหลังเกิดเหตุ โดยคำสั่งล่าสุดนี้ ถือเป็นการกำหนดรายละเอียดแนวทางแก้ไขเชิงระบบ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม อธิบดีกรมอุทยานฯ ยังแสดงความห่วงใยถึงสุขภาพและสวัสดิภาพของสิงโต 5 ตัวที่รุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตวว์ เป็นเพศผู้ 3 ตัว เพศเมีย 2 […]

ชาวบ้านเฮ! ปิดรอยขาดพนังกั้นน้ำยังได้สำเร็จ

ร้อยเอ็ด 12 ก.ย. – สามารถปิดรอยขาดพนังกั้นน้ำยัง บริเวณบ้านทรายมูล อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด หลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน เร่งช่วยกันซ่อมแซม ปฏิบัติการเร่งซ่อมพนังกั้นลำน้ำยังที่ขาด บริเวณบ้านทรายมูล หมู่ 4 ต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทำให้มวลน้ำทะลักเข้าท่วมนาข้าวเสียหายกว่า 5,000 ไร่ ครอบคลุม 3 ตำบล นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นำเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน ใช้ทั้งแรงคนและเครื่องจักรหนัก รถบรรทุกทราย และถุงบิ๊กแบ็กปิดกั้นรอยแตก นอกจากนี้ยังนำเสาไฟฟ้า 16 ต้น มาวางพาดขวางเสริมฐานความแข็งแรง ร่วมกับท่อนไม้ขนาดใหญ่ เพื่อชะลอความแรงของกระแสน้ำ ก่อนใช้รถแบ็กโฮจัดวางถุงทรายทับซ้ำอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้แนวป้องกัน เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (11 ก.ย.) สามารถปิดบริเวณที่ขาดได้สำเร็จ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด กล่าวว่า หลังจากปิดกั้นจุดที่ขาดเสร็จสิ้น […]