“บิ๊กเต่า” ยันมีหลักฐานแน่นเอาผิดคดีทุจริตยา เร่งหาขบวนการที่เหลือ

บช.ก. 27 มี.ค. – “บิ๊กเต่า” เผยคืบหน้าทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ยืนยันตำรวจมีพยานหลักฐานแน่นเอาผิดได้ เร่งขยายผลหาขบวนการที่เหลือ


พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการ “สยบนาคี” บุกจับแพทย์ พยาบาลทหาร พร้อมพวก ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ว่า ทางแพทย์ไม่ขอให้การโดยจะทำคำให้การมาให้ ส่วน พ.อ.หญิง ขอให้การในชั้นศาล ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มรับซื้อยาจากแพทย์ให้การภาคเสธว่ารับซื้อจริงแต่คิดว่าเป็นยาถูกต้อง อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีอีกขบวนการ โดยให้กรมบัญชีกลางดูการเบิกจ่ายที่ผิดปกติ ซึ่งคาดว่าจะมีเฟส 2 ทราบจาก ป.ป.ท. พบว่ามีการทำธุรกรรมผิดปกติหลายที่

ส่วนนายสมปราช และนางสาวสุรีย์ พบเป็นยี่ปั๊วเถื่อน ไม่มีการจดทะเบียน ไม่มีใบอนุญาต จากข้อมูลทราบว่ามีการรับซื้อยามาจากตลาดมืด โดยพบข้อมูลพยานหลักฐานจำนวนมาก ทั้งจากแชทสนทนาผ่านไลน์ และโทรศัพท์


พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยอมรับว่าตลาดมืดเรื่องยา มีจำนวนมาก บางคนต้องการยาชนิดนี้แต่หาไม่ได้ในร้านขายยาแต่ไปหาได้ในตลาดมืด แม้ราคาแพงหรืออาจถูกกว่า ซึ่งช่องทางที่เป็นตลาดมืดหรือร้านค้าจะสมประโยชน์กัน เมื่อมียาก็ส่งไปยังร้านต่างๆ เพื่อจำหน่าย จากข้อมูลที่ได้สอบปากคำพยานยืนยันว่าร้านค้าที่ตรวจค้นทั้งหมดมีพยานหลักฐานทั้งแชทไลน์ เส้นทางการเงิน การบันทึกข้อมูลการซื้อขายกันไว้ ทางพนักงานสอบสวนจะต้องมาพิจารณาพยานหลักฐานว่าจะสามารถเอาผิดหรือมีการกระทำผิดร่วมหรือไม่ ฐานสมคบ และประเด็นของการฟอกเงิน ซึ่งตำรวจจะต้องทำงานอย่างต่อเนื่องเพราะต้องการที่จะกำจัดตลาดมืดการขายยาที่กล้าที่จะนำยาที่ไม่สามารถจำหน่ายได้มาขาย

“ส่วนการเข้าตรวจค้นเมื่อวานนี้บางจุดไปแล้วไม่เจอยาเป้าหมาย เพราะต้องการให้สังคมรับทราบว่า สิ่งที่ร้านยาเหล่านี้ทำ คือไปหายามาจากตลาดมืด และนำมาขายให้กับประชาชน ขณะนี้ยังพบว่าเครือข่ายดังกล่าวที่ตำรวจมีข้อมูลสามารถขอศาลออกหมายค้นและหมายจับได้ยังมีเพียงเท่านี้ ส่วนจะมีมากกว่านี้หรือไม่เป็นเรื่องของการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม หากพบว่าใครเกี่ยวข้องก็จะเรียกเข้ามาสอบปากคำ เมื่อตำรวจเข้าตรวจค้นแล้วแม้จะเจอหรือไม่เจอพยานหลักฐาน หรือแม้จะมีความผิดเพียงเล็กน้อย แต่พยานหลักฐานที่ตำรวจได้มามีเส้นเงินอยู่ ผู้เกี่ยวข้องจะต้องให้ข้อเท็จจริงได้“ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

ส่วนลูกทีมต่างๆ จะต้องเรียกเข้ามาสอบด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เมื่อวานนี้แม้ว่าทาง ป.ป.ท. บอกว่าข้อมูลอาจจะจบแล้ว แต่แนวทางการสอบสวน เราได้ทำงานร่วมกันว่าจะต้องดำเนินคดีกับแถว 2 แถว 3 หรือไม่ซึ่งมีจำนวนมาก เป็นเรื่องของทางพนักงานสอบสวนจะต้องดำเนินการ การทำงานเน้นตัวการสำคัญที่ได้รับเงินได้รับผลประโยชน์ไปจริงๆ ส่วนเหยื่อที่ถูกหลอกไปว่าทำไปแล้วไม่ผิด เพราะมีการจ่ายยาถูกต้อง และมีใบกำกับภาษี จะต้องดูเจตนาว่าอย่างไร


“เฉพาะกลุ่มนี้ที่ดำเนินคดี เพราะต้องการเปิดโปงให้สังคมรับทราบถึงขบวนการที่เลวร้ายที่ผู้มีวิชาชีพมีจรรยาบรรณจะต้องทำหน้าที่ตัวเอง แต่นำหน้าที่ตัวเองมาประพฤติมิชอบ จึงต้องการดำเนินการกับกลุ่มนี้เป็นอันดับแรก ส่วนผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆ อยู่ระหว่างการพิจารณา” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า ส่วนหมออาจจะระวังตัวจึงไม่มีเส้นทางการเงิน แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานที่บ่งชี้ว่าหมอมีส่วนเกี่ยวข้องและมีผลประโยชน์ในเรื่องนี้ ส่วนพยาบาลที่ทำหน้าที่ตรวจเอกสารเบื้องต้นทางตำรวจได้พิจารณาแล้วว่าใครจะเป็นพยานหรือเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งตัวการสำคัญคือ พ.องหญิงและแพทย์จะต้องดำเนินการเอาผิดให้ได้ ส่วนการให้ประกันตัวเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน โดยผู้ต้องหาบางรายมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ยังรับราชการอยู่ และให้ความร่วมมือ

เมื่อถามว่าการให้ประกันตัวผู้ต้องหาไปกังวลหรือไม่ว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตำรวจมีพยานหลักฐานเพียงพอ และทำงานมาอย่างละเอียดโดยมีการบูรณาการความร่วมมือร่วมกับหลายหน่วยงาน หากพบว่ามีการไปข่มขู่หรือจะไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานทางตำรวจก็จะถอนประกัน ส่วนจะมีตัวการใหญ่กว่านี้หรือไม่ทางตำรวจไม่ได้ตัดประเด็นนี้ทิ้ง ตำรวจทำงานตามพยานหลักฐาน เท่าที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินขณะนี้ยังไม่พบว่ามีตัวการใหญ่กว่านี้ และการกระทำผิดในกรณีนี้เป็นการทำผิดปัจเจกบุคคล ไม่อยากให้เหมารวมทั้งองค์กร เพราะยังมีแพทย์อีกกว่าร้อยคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

มีรายงานว่า ผู้ต้องหาอีก 4 ราย ที่ทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาได้ให้ความร่วมมือกับทางตำรวจ โดยรับว่าเป็นเพียงลูกข่ายและให้การที่เป็นประโยชน์ ตำรวจจึงปล่อยตัวชั่วคราวไปแล้ว ส่วนผู้ต้องหาที่จับกุมมา 8 ราย ได้ให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว 7 ราย อีก 1 ราย อยู่ระหว่างหาหลักทรัพย์มาประกันตัว.-419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

หาชมยาก เปิดสะพานกรุงเทพให้เรือผ่าน แห่งเดียวในไทย

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – เป็นอีกครั้งที่สะพานกรุงเทพ ยกขึ้นเพื่อให้เรือผ่าน ปัจจุบันเป็นสะพานแห่งเดียวในไทยที่ยังคงใช้งานเปิด-ปิดได้ โดยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สำคัญตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบันมีเรือที่ผ่านน้อยลง ทำให้การยกเปิดแต่ละครั้งได้รับความสนใจ เพราะเป็นภาพที่หาชมได้ไม่บ่อย.-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” ระงับนําเข้าน้ำมัน-ก๊าซจากไทย

กัมพูชา 22 มิ.ย. – “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศระงับนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง-ก๊าซทุกชนิดจากไทย เริ่มเที่ยงคืนนี้ มั่นใจบริษัทในกัมพูชาหาเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่นให้ประชาชนได้เพียงพอ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก Hun Manet ระบุว่า บริษัทจัดจําหน่ายน้ำมันในประเทศกัมพูชามีความสามารถในการนําเข้าเชื้อเพลิงและก๊าซจากแหล่งอื่น เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการบริโภคภายในประเทศของประชาชน แม้จะเป็นเดือน แม้ตลอดไปก็ไม่ใช่ปัญหา เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนนี้ (22 มิ.ย.68) การนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซทั้งหมดจากประเทศไทยจะถูกหยุด.-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจ นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน

22 มิ.ย. – กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน ป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ ที่ จ.สระแก้ว ตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ บริเวณจุดตรวจ ค.04 อ.คลองหาด มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง กองกำลังบูรพา และกองร้อยทหารพราน พร้อมสุนัข K9 ยังคงเดินหน้าควบคุมพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาจจะพากันทะลักเข้า-ออก หลังจากที่มีคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันข้ามไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งจุดนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงที่มีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่เดินเท้าลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ บรรยากาศชายแดนหาดเล็กเงียบเหงาด้านบริเวณชายแดนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ มีเพียงรถบรรทุกสินค้าทั่วไปรอคิวผ่านแดนข้ามฝั่งไปประเทศกัมพูชา เจ้าของร้านค้าในพื้นที่ เล่าว่า บรรยากาศเงียบเหงามาก วันๆ แทบไม่มีคนซื้อของ ถ้าถามความรู้สึกว่าเดือดร้อนไหม บอกเลยว่ายอมเดือดร้อนดีกว่าเสียดินแดนซ้ำอีก ถ้าจะปิดด่านก็ปิดได้เลย เอาดินแดนไว้ก่อนดีกว่า ส่วนบริเวณด่านถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ นายด่านศุลกากรช่องสะงำ […]

“แพทองธาร” โพสต์พรรคร่วมฯ มีมติหนุนรัฐบาล ร่วมสร้างเสถียรภาพการเมือง

โรงแรมโรสวูด 22 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์พรรคร่วมรัฐบาลมีมติหนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ชี้ ความเป็นหนึ่งเดียว ช่วยก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหว เดินหน้ารับมือภัยคุกคามและความมั่นคง ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือ ปรับคณะรัฐมนตรี แทนตำแหน่งที่ว่าง 8 ตำแหน่ง หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. รถบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางออกจากโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้ ยังอยู่ภายในโรงแรม ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะโพสต์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย […]