“บิ๊กเต่า” ยันมีหลักฐานแน่นเอาผิดคดีทุจริตยา เร่งหาขบวนการที่เหลือ

บช.ก. 27 มี.ค. – “บิ๊กเต่า” เผยคืบหน้าทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ยืนยันตำรวจมีพยานหลักฐานแน่นเอาผิดได้ เร่งขยายผลหาขบวนการที่เหลือ


พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการ “สยบนาคี” บุกจับแพทย์ พยาบาลทหาร พร้อมพวก ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ว่า ทางแพทย์ไม่ขอให้การโดยจะทำคำให้การมาให้ ส่วน พ.อ.หญิง ขอให้การในชั้นศาล ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มรับซื้อยาจากแพทย์ให้การภาคเสธว่ารับซื้อจริงแต่คิดว่าเป็นยาถูกต้อง อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีอีกขบวนการ โดยให้กรมบัญชีกลางดูการเบิกจ่ายที่ผิดปกติ ซึ่งคาดว่าจะมีเฟส 2 ทราบจาก ป.ป.ท. พบว่ามีการทำธุรกรรมผิดปกติหลายที่

ส่วนนายสมปราช และนางสาวสุรีย์ พบเป็นยี่ปั๊วเถื่อน ไม่มีการจดทะเบียน ไม่มีใบอนุญาต จากข้อมูลทราบว่ามีการรับซื้อยามาจากตลาดมืด โดยพบข้อมูลพยานหลักฐานจำนวนมาก ทั้งจากแชทสนทนาผ่านไลน์ และโทรศัพท์


พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยอมรับว่าตลาดมืดเรื่องยา มีจำนวนมาก บางคนต้องการยาชนิดนี้แต่หาไม่ได้ในร้านขายยาแต่ไปหาได้ในตลาดมืด แม้ราคาแพงหรืออาจถูกกว่า ซึ่งช่องทางที่เป็นตลาดมืดหรือร้านค้าจะสมประโยชน์กัน เมื่อมียาก็ส่งไปยังร้านต่างๆ เพื่อจำหน่าย จากข้อมูลที่ได้สอบปากคำพยานยืนยันว่าร้านค้าที่ตรวจค้นทั้งหมดมีพยานหลักฐานทั้งแชทไลน์ เส้นทางการเงิน การบันทึกข้อมูลการซื้อขายกันไว้ ทางพนักงานสอบสวนจะต้องมาพิจารณาพยานหลักฐานว่าจะสามารถเอาผิดหรือมีการกระทำผิดร่วมหรือไม่ ฐานสมคบ และประเด็นของการฟอกเงิน ซึ่งตำรวจจะต้องทำงานอย่างต่อเนื่องเพราะต้องการที่จะกำจัดตลาดมืดการขายยาที่กล้าที่จะนำยาที่ไม่สามารถจำหน่ายได้มาขาย

“ส่วนการเข้าตรวจค้นเมื่อวานนี้บางจุดไปแล้วไม่เจอยาเป้าหมาย เพราะต้องการให้สังคมรับทราบว่า สิ่งที่ร้านยาเหล่านี้ทำ คือไปหายามาจากตลาดมืด และนำมาขายให้กับประชาชน ขณะนี้ยังพบว่าเครือข่ายดังกล่าวที่ตำรวจมีข้อมูลสามารถขอศาลออกหมายค้นและหมายจับได้ยังมีเพียงเท่านี้ ส่วนจะมีมากกว่านี้หรือไม่เป็นเรื่องของการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม หากพบว่าใครเกี่ยวข้องก็จะเรียกเข้ามาสอบปากคำ เมื่อตำรวจเข้าตรวจค้นแล้วแม้จะเจอหรือไม่เจอพยานหลักฐาน หรือแม้จะมีความผิดเพียงเล็กน้อย แต่พยานหลักฐานที่ตำรวจได้มามีเส้นเงินอยู่ ผู้เกี่ยวข้องจะต้องให้ข้อเท็จจริงได้“ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

ส่วนลูกทีมต่างๆ จะต้องเรียกเข้ามาสอบด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เมื่อวานนี้แม้ว่าทาง ป.ป.ท. บอกว่าข้อมูลอาจจะจบแล้ว แต่แนวทางการสอบสวน เราได้ทำงานร่วมกันว่าจะต้องดำเนินคดีกับแถว 2 แถว 3 หรือไม่ซึ่งมีจำนวนมาก เป็นเรื่องของทางพนักงานสอบสวนจะต้องดำเนินการ การทำงานเน้นตัวการสำคัญที่ได้รับเงินได้รับผลประโยชน์ไปจริงๆ ส่วนเหยื่อที่ถูกหลอกไปว่าทำไปแล้วไม่ผิด เพราะมีการจ่ายยาถูกต้อง และมีใบกำกับภาษี จะต้องดูเจตนาว่าอย่างไร


“เฉพาะกลุ่มนี้ที่ดำเนินคดี เพราะต้องการเปิดโปงให้สังคมรับทราบถึงขบวนการที่เลวร้ายที่ผู้มีวิชาชีพมีจรรยาบรรณจะต้องทำหน้าที่ตัวเอง แต่นำหน้าที่ตัวเองมาประพฤติมิชอบ จึงต้องการดำเนินการกับกลุ่มนี้เป็นอันดับแรก ส่วนผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆ อยู่ระหว่างการพิจารณา” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า ส่วนหมออาจจะระวังตัวจึงไม่มีเส้นทางการเงิน แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานที่บ่งชี้ว่าหมอมีส่วนเกี่ยวข้องและมีผลประโยชน์ในเรื่องนี้ ส่วนพยาบาลที่ทำหน้าที่ตรวจเอกสารเบื้องต้นทางตำรวจได้พิจารณาแล้วว่าใครจะเป็นพยานหรือเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งตัวการสำคัญคือ พ.องหญิงและแพทย์จะต้องดำเนินการเอาผิดให้ได้ ส่วนการให้ประกันตัวเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน โดยผู้ต้องหาบางรายมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ยังรับราชการอยู่ และให้ความร่วมมือ

เมื่อถามว่าการให้ประกันตัวผู้ต้องหาไปกังวลหรือไม่ว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตำรวจมีพยานหลักฐานเพียงพอ และทำงานมาอย่างละเอียดโดยมีการบูรณาการความร่วมมือร่วมกับหลายหน่วยงาน หากพบว่ามีการไปข่มขู่หรือจะไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานทางตำรวจก็จะถอนประกัน ส่วนจะมีตัวการใหญ่กว่านี้หรือไม่ทางตำรวจไม่ได้ตัดประเด็นนี้ทิ้ง ตำรวจทำงานตามพยานหลักฐาน เท่าที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินขณะนี้ยังไม่พบว่ามีตัวการใหญ่กว่านี้ และการกระทำผิดในกรณีนี้เป็นการทำผิดปัจเจกบุคคล ไม่อยากให้เหมารวมทั้งองค์กร เพราะยังมีแพทย์อีกกว่าร้อยคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

มีรายงานว่า ผู้ต้องหาอีก 4 ราย ที่ทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาได้ให้ความร่วมมือกับทางตำรวจ โดยรับว่าเป็นเพียงลูกข่ายและให้การที่เป็นประโยชน์ ตำรวจจึงปล่อยตัวชั่วคราวไปแล้ว ส่วนผู้ต้องหาที่จับกุมมา 8 ราย ได้ให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว 7 ราย อีก 1 ราย อยู่ระหว่างหาหลักทรัพย์มาประกันตัว.-419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากระเบิดกัมพูชา ทำพิธีลอยอังคาร

ชลบุรี 24 ส.ค. – 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวดตกใส่ ทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณกลางอ่าวสัตหีบ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดของกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ประกอบด้วย ครอบครัวประชัน ซึ่งสูญเสียนางสาวรุ่งรัศ เด็กหญิงทักษพร และเด็กชายพงศภัค ครอบครัวเด็กชายกิตติศักดิ์ คำวัง ครอบครัวนางสาวอรุณรัตน์ วันศรี ครอบครัวนายสมศรี ลาภบุญ และครอบครัวนางสาวสาวิตรี อ่อนทรวง นำอัฐิผู้เสียชีวิต เดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ มายังกองเรือยุทธการ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก สนับสนุนที่พัก รวมทั้ง จัดเรือกร.702 นำครอบครัวผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกลางอ่าวสัตหีบ พิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ ทุกคนต่างบอกว่า แม้จะผ่านมา 1 เดือน แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะครอบครัวประชัน ที่ต้องภรรยาและลูกอีก 2 คนไปพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]