ตำรวจไซเบอร์แถลงทลาย 2 เครือข่ายเงินกู้ดอกโหด

บช.สอท. 26 มี.ค. – ตำรวจไซเบอร์แถลงผลทลาย 2 เครือข่ายเงินกู้ดอกโหด จับเพจรับจำนำ iCloud ดอกร้อยละ 240 ต่อปี พบเงินหมุนเวียน 3 เดือน กว่า 10 ล้านบาท พร้อมรวบอดีตนักการเมืองท้องถิ่น รับจำนำรถ-ปืน ดอกร้อยละ 120 ต่อปี


พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงผล “ทลาย 2 เครือข่ายเงินกู้ดอกเบี้ยโหด“ รวบ 2 ผู้ต้องหาปล่อยเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

เครือข่ายแรกเป็นเพจจำนำ iCloud ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 240 ต่อปี สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบพบว่ามีเพจ Facebook ชื่อ “Care Apple Phone ซื้อขายฝาก iPhone รับซ่อมครบวงจร” โพสต์ประกาศให้กู้เงินด่วน พร้อมติดแฮชแทค #จำนำไอคราว #ฝากไอคราว #ปล่อยกู้ไอโฟน จากการสืบสวนทราบว่า เพจดังกล่าวปล่อยเงินกู้โดยคิดดอกเบี้ยทั้งแบบรายวัน, รายอาทิตย์และรายเดือน โดยจะให้ผู้กู้ถ่ายรูปโทรศัพท์มือถือส่งให้ทาง Messenger เพื่อประเมินราคาโทรศัพท์ แล้วให้ล็อคเอาท์บัญชี iCloud เดิม จากนั้นก็จะล็อกอินบัญชี iCloud ใหม่ พร้อมให้รหัส iCloud กับผู้กู้ไว้ แต่หากผู้กู้ไม่ชำระเงินตามกำหนด บัญชี iCloud ก็จะถูกล็อครหัสและไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้


หลังจากประเมินราคาแล้ว ผู้กู้ก็จะถูกหักเงินงวดแรกไว้ก่อน 10% เช่น ประเมินได้ในราคา 6,000 บาท ก็จะได้รับเงินจริง 5,400 บาท โดยคิดดอกลอยเดือนละ 1,200 บาท และจำกัดส่งดอกเพียง 6 งวด โดยงวดที่ 7 จะต้องส่งเงินต้น 6,000 บาท รวมกับดอกเบี้ย 7,200 บาท คิดเป็นร้อยละ 20 ต่อเดือน หรือร้อยละ 240 ต่อปี แต่หากผู้กู้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนด หรือผิดสัญญาชำระเงินก็จะไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้

เพจ Facebook ดังกล่าว เปิดมานานเกินกว่า 1 ปี มีลูกค้าประมาณ 600 – 1,000 คน จากการตรวจสอบพบว่าภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน มีเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท โดยมีการจดทะเบียนนิติบุคคลชื่อ “ห้างหุ้นส่วนจำกัดแคร์โฟน 65” โดยมีนางสาวเมธาวี อายุ 26 ปี เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ แต่ไม่ได้มีการขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อเป็นนิติบุคคลแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานก่อนนำกำลังเข้าตรวจค้นร้าน Care Apple Phone ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.ลพบุรี และจับกุมผู้ต้องหาได้ พร้อมของกลางอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ / โทรศัพท์มือถือ / และเอกสารสัญญาขายฝาก

เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “ให้บุคคลกู้ยืมเงินเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้”


ส่วนอีกเครือข่ายเป็นอดีตนักการเมืองท้องถิ่นที่รับจำนำรถ และปืน ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 120 ต่อปี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีอดีตนักการเงินท้องถิ่นรายหนึ่งในพื้นที่เมืองขอนแก่น มีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้ รับจำนำรถยนต์ และอาวุธปืนผิดกฎหมาย จึงทำการสืบสวนตั้งแต่ปี 2566 ที่ผ่านมา กระทั่งทราบว่าบุคคลดังกล่าว คือ นายศักดิ์ชาย หรือ เอส อายุ 54 ปี เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงได้ขออำนาจศาลตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด ในพื้นที่ ต.สาวะถี อ. เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น เป็นบ้านพักและโกดังของนายศักดิ์ชาย ผลการตรวจค้น พบอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. 2 กระบอก กระสุนปืน 54 นัด อีกทั้งยังพบหนังสือสัญญาจำนำรถ หลักฐานค้างจ่ายค่าจำนำรถ กระดานไวท์บอร์ดที่มีข้อมูลการจำนำรถ และรถยนต์ที่รับจำนำมาจากประชาชนทั่วไปอีก 18 คัน

ตรวจสอบเบื้องต้นอาวุธปืนดังกล่าวเป็นปืนมีทะเบียนไม่ใช่ของนายศักดิ์ชาย โดยเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นของคนอื่นนำมาฝากไว้ ส่วนรถยนต์ก็รับจำนำมาเช่นกัน มีการคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือร้อยละ 120 ต่อปี โดยมีการทำสัญญาทั้งแบบลายลักษณ์อักษร และสัญญาปากเปล่า เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมด และมีการแจ้งข้อกล่าวหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และจัดตั้งโรงรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากการสืบสวน เบื้องต้นนายศักดิ์ชายเคยถูกดำเนินคดีในลักษณะนี้มาแล้ว ครั้งหนึ่งแต่กลับมาทำซ้ำอีก ซึ่งครั้งนี้จะมีการพิจารณาไปตามกฎหมาย และต้องนำประวัติเสนอต่อพนักงานอัยการเพื่อพิจารณาลงโทษกรณีทำผิดซ้ำต่อไป

นอกจากนี้ยังมีการปฏิบัติอีก 25 ปฏิบัติการของตำรวจไซเบอร์ สอท.1 ถึง สอท.5 ในการทลายเว็บพนัน 4 เว็บ เงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาทต่อปี, จับเครือข่ายเพจปลอม หลอกลงทุนทองฮั่วเซ่งเฮง, ขายอาวุธปืนผ่านออนไลน์ และมิจฉาชีพหลอกเป็นเข้าหน้าที่การไฟฟ้า หลอกติดตั้งแอปดูดเงิน เป็นต้น โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 28 ราย ส่งดำเนินรดีตามกฎหมาย

จากสถิติการรับแจ้งความตั้งแต่ 1 มกราคม จนถึงปัจจุบัน มีการแจ้งความเฉลี่ย 937 ต่อวัน ความเสียหายกว่า 5,000 กว่าล้าน เฉลี่ยเสียหายกว่า 64 ล้านบาทต่อวัน อันดับที่ 1 ยังคงเป็นการหลอกซื้อสินค้าและบริการ.-420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ในหลวงทรงรับคนไข้

ในหลวงทรงรับคนไข้เหตุแผ่นดินไหวไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ในหลวงทรงรับคนไข้เหตุแผ่นดินไหวเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ขณะนายกรัฐมนตรีเยี่ยมผู้บาดเจ็บ แพทย์แจงอาการดีขึ้นแล้ว

Building after collapses in Myanmar in front of monk's eye

แผ่นดินไหวทำตึกเมียนมาถล่ม-ยอดตายเกินพันแล้ว

มัณฑะเลย์ 29 มี.ค.- แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเมียนมาเมื่อวานนี้ ทำให้อาคารหลังหนึ่งถล่มต่อหน้าต่อตากลุ่มพระสงฆ์ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในเมียนมาจนถึงขณะนี้เกิน 1,000 คนแล้ว คลิปภาพที่ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกไว้ได้ในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเมียนมา และอยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวบนบกที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ เห็นกลุ่มพระสงฆ์รวมตัวกันอยู่บนถนนใกล้อาคารหลังหนึ่งที่ค่อย ๆ เสียการทรงตัว ก่อนพังถล่มลงไปทั้งหลังต่อหน้าต่อตา ทำให้เกิดกลุ่มควันขนาดใหญ่ฟุ้งกระจาย รอยเตอร์รายงานเมื่อเวลา 13:00 น.วันนี้ตามเวลาไทยว่า รัฐบาลเมียนมาแถลงล่าสุดว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเพิ่มเป็น 1,002 คนแล้ว ขณะที่สำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐหรือยูเอสจีเอส ซึ่งแจ้งขนาดแผ่นดินไหวไว้ที่ 7.7 และมีศูนย์กลางลึกเพียง 10 กิโลเมตรประเมินจากแบบจำลองการคาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจจะเกิน 10,000 คน.-814.-สำนักข่าวไทย  

สาเหตุตึกถล่ม

นายกฯ เร่งกรมโยธาดูสาเหตุตึกถล่ม-หาทางแก้

นายกฯ รับรายงายสถานการณ์แผ่นดินไหว เร่งกรมโยธาดูสาเหตุ-หาทางแก้ตึกถล่ม ย้ำ ปชช. มั่นใจได้ เหตุแผ่นดินไหวตอนนี้ไม่กระทบไทยแล้ว เตรียมออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป

วัดเสียหายแผ่นดินไหว

วัด 4 แห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว

สำนักงานพระพุทธศาสนา และคณะสงฆ์เชียงใหม่ สำรวจโบราณสถาน พบวัด 4 แห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว มีทั้งรอยร้าว ฐานพระพุทธรูปอายุกว่า 700 ปีทรุด ยอดฉัตรทองคำหักเอียง