ตำรวจไซเบอร์แถลงทลาย 2 เครือข่ายเงินกู้ดอกโหด

บช.สอท. 26 มี.ค. – ตำรวจไซเบอร์แถลงผลทลาย 2 เครือข่ายเงินกู้ดอกโหด จับเพจรับจำนำ iCloud ดอกร้อยละ 240 ต่อปี พบเงินหมุนเวียน 3 เดือน กว่า 10 ล้านบาท พร้อมรวบอดีตนักการเมืองท้องถิ่น รับจำนำรถ-ปืน ดอกร้อยละ 120 ต่อปี


พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงผล “ทลาย 2 เครือข่ายเงินกู้ดอกเบี้ยโหด“ รวบ 2 ผู้ต้องหาปล่อยเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

เครือข่ายแรกเป็นเพจจำนำ iCloud ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 240 ต่อปี สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบพบว่ามีเพจ Facebook ชื่อ “Care Apple Phone ซื้อขายฝาก iPhone รับซ่อมครบวงจร” โพสต์ประกาศให้กู้เงินด่วน พร้อมติดแฮชแทค #จำนำไอคราว #ฝากไอคราว #ปล่อยกู้ไอโฟน จากการสืบสวนทราบว่า เพจดังกล่าวปล่อยเงินกู้โดยคิดดอกเบี้ยทั้งแบบรายวัน, รายอาทิตย์และรายเดือน โดยจะให้ผู้กู้ถ่ายรูปโทรศัพท์มือถือส่งให้ทาง Messenger เพื่อประเมินราคาโทรศัพท์ แล้วให้ล็อคเอาท์บัญชี iCloud เดิม จากนั้นก็จะล็อกอินบัญชี iCloud ใหม่ พร้อมให้รหัส iCloud กับผู้กู้ไว้ แต่หากผู้กู้ไม่ชำระเงินตามกำหนด บัญชี iCloud ก็จะถูกล็อครหัสและไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้


หลังจากประเมินราคาแล้ว ผู้กู้ก็จะถูกหักเงินงวดแรกไว้ก่อน 10% เช่น ประเมินได้ในราคา 6,000 บาท ก็จะได้รับเงินจริง 5,400 บาท โดยคิดดอกลอยเดือนละ 1,200 บาท และจำกัดส่งดอกเพียง 6 งวด โดยงวดที่ 7 จะต้องส่งเงินต้น 6,000 บาท รวมกับดอกเบี้ย 7,200 บาท คิดเป็นร้อยละ 20 ต่อเดือน หรือร้อยละ 240 ต่อปี แต่หากผู้กู้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนด หรือผิดสัญญาชำระเงินก็จะไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้

เพจ Facebook ดังกล่าว เปิดมานานเกินกว่า 1 ปี มีลูกค้าประมาณ 600 – 1,000 คน จากการตรวจสอบพบว่าภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน มีเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท โดยมีการจดทะเบียนนิติบุคคลชื่อ “ห้างหุ้นส่วนจำกัดแคร์โฟน 65” โดยมีนางสาวเมธาวี อายุ 26 ปี เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ แต่ไม่ได้มีการขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อเป็นนิติบุคคลแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานก่อนนำกำลังเข้าตรวจค้นร้าน Care Apple Phone ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.ลพบุรี และจับกุมผู้ต้องหาได้ พร้อมของกลางอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ / โทรศัพท์มือถือ / และเอกสารสัญญาขายฝาก

เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “ให้บุคคลกู้ยืมเงินเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้”


ส่วนอีกเครือข่ายเป็นอดีตนักการเมืองท้องถิ่นที่รับจำนำรถ และปืน ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 120 ต่อปี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีอดีตนักการเงินท้องถิ่นรายหนึ่งในพื้นที่เมืองขอนแก่น มีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้ รับจำนำรถยนต์ และอาวุธปืนผิดกฎหมาย จึงทำการสืบสวนตั้งแต่ปี 2566 ที่ผ่านมา กระทั่งทราบว่าบุคคลดังกล่าว คือ นายศักดิ์ชาย หรือ เอส อายุ 54 ปี เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงได้ขออำนาจศาลตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด ในพื้นที่ ต.สาวะถี อ. เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น เป็นบ้านพักและโกดังของนายศักดิ์ชาย ผลการตรวจค้น พบอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. 2 กระบอก กระสุนปืน 54 นัด อีกทั้งยังพบหนังสือสัญญาจำนำรถ หลักฐานค้างจ่ายค่าจำนำรถ กระดานไวท์บอร์ดที่มีข้อมูลการจำนำรถ และรถยนต์ที่รับจำนำมาจากประชาชนทั่วไปอีก 18 คัน

ตรวจสอบเบื้องต้นอาวุธปืนดังกล่าวเป็นปืนมีทะเบียนไม่ใช่ของนายศักดิ์ชาย โดยเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นของคนอื่นนำมาฝากไว้ ส่วนรถยนต์ก็รับจำนำมาเช่นกัน มีการคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือร้อยละ 120 ต่อปี โดยมีการทำสัญญาทั้งแบบลายลักษณ์อักษร และสัญญาปากเปล่า เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมด และมีการแจ้งข้อกล่าวหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และจัดตั้งโรงรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากการสืบสวน เบื้องต้นนายศักดิ์ชายเคยถูกดำเนินคดีในลักษณะนี้มาแล้ว ครั้งหนึ่งแต่กลับมาทำซ้ำอีก ซึ่งครั้งนี้จะมีการพิจารณาไปตามกฎหมาย และต้องนำประวัติเสนอต่อพนักงานอัยการเพื่อพิจารณาลงโทษกรณีทำผิดซ้ำต่อไป

นอกจากนี้ยังมีการปฏิบัติอีก 25 ปฏิบัติการของตำรวจไซเบอร์ สอท.1 ถึง สอท.5 ในการทลายเว็บพนัน 4 เว็บ เงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาทต่อปี, จับเครือข่ายเพจปลอม หลอกลงทุนทองฮั่วเซ่งเฮง, ขายอาวุธปืนผ่านออนไลน์ และมิจฉาชีพหลอกเป็นเข้าหน้าที่การไฟฟ้า หลอกติดตั้งแอปดูดเงิน เป็นต้น โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 28 ราย ส่งดำเนินรดีตามกฎหมาย

จากสถิติการรับแจ้งความตั้งแต่ 1 มกราคม จนถึงปัจจุบัน มีการแจ้งความเฉลี่ย 937 ต่อวัน ความเสียหายกว่า 5,000 กว่าล้าน เฉลี่ยเสียหายกว่า 64 ล้านบาทต่อวัน อันดับที่ 1 ยังคงเป็นการหลอกซื้อสินค้าและบริการ.-420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย