“กัน จอมพลัง” ล่าแก๊งดอลลาร์ปลอม-เคลียร์ปมถูกโยง “ดิว อริสรา”

กรุงเทพฯ 21 มี.ค. – “กัน จอมพลัง” เดือด! ประกาศล่าแก๊งดอลลาร์ปลอม หลังถูกอ้างชื่อโยง “ดิว อริสรา” ด้าน “เท็ดดี้” รับแล้วอ้างชื่อ “กัน-ภรรยา” เพราะถูกกดดัน


จากกรณี กัน จอมพลัง โพสต์ว่า “เงินดอลลาร์จำนวนมากในโรงแรมหรูที่ ด อ ส ร เปิดให้พวกหลายคน หนึ่งในนั้นอ้างปล่อยอาวุธสงคราม ปล่อยดอลลาร์ เอาชื่อตนไปอ้างกับคนไปทั่วทั้งที่ไม่รู้จักถ้า ขยายผลไปน่าเจอขบวนการแบงก์ปลอม”

ล่าสุด กัน จอมพลัง โพสต์อีกว่า “มี 2 คนติดต่อมาหาตน 1 การ์ด (มนัส) ที่ถูกแจ้งความว่าขังและทำร้ายคนในห้องที่มีแบงก์ดอลลาร์ปลอม กับ 2 คนที่อ้างชื่อตน (เท็ดดี้) และจะขอมาอธิบาย ตนพร้อมรับฟัง เจอกัน 10.20 น.”


พอถึงเวลานัดหมาย เวลา 10.20 น. กัน จอมพลัง บอกว่าทั้ง 2 ฝั่งพูดข้อมูลไม่ตรงกัน ฝั่งหนึ่ง(เท็ดดี้) บอกว่ามีการกักขังและทำร้าย ส่วนอีกฝั่ง (มนัส) บอกว่าไม่ได้กักขังและไม่มีการทำร้ายร่างกายกัน ส่วนตัวไม่ค่อยให้ความสนใจตรงนั้น แต่สนใจว่าเรื่องดังกล่าวมันเกี่ยวข้องกับขบวนการขายธนบัตรดอลลาร์ปลอม และมีหนึ่งในกลุ่มนี้มีการอ้างชื่อของตนและภรรยา อีกทั้งยังบอกว่าตนเกี่ยวข้องกับการค้าอาวุธเถื่อน อาวุธสงคราม จึงยอมไม่ได้

หลังจากได้โพสต์เรื่องราวออกไป “เท็ดดี้” ซึ่งอ้างชื่อตน ได้ติดต่อมาอธิบายต่างๆ นานา เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ วันนี้จึงให้โอกาสเท็ดดี้ออกมาอธิบายกับสังคมด้วย ส่วนเรื่องของภรรยา ยอมรับว่าเคยพูดคุยกับ “ดิว อริสรา”เรื่องนี้ เนื่องจากทางดิวโทรศัพท์มาสอบถามภรรยาหลังจากเท็ดดี้อ้างว่ารู้จักกับภรรยา แต่ตนไม่เกี่ยวข้องกับการค้าอาวุธเถื่อน อาวุธสงคราม ดิวจึงโทรศัพท์มาพูดคุยกับภรรยาของตนว่ามีคนชื่อเท็ดดี้กล่าวอ้างแบบนี้ ยืนยันว่าตนไม่ได้สนิทหรือรู้จักกับดิวเป็นการส่วนตัว รวมถึง “เซป” สามีของดิว ด้วย

ด้านเท็ดดี้ หรือจ๋อม ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์วันแลกเปลี่ยนเงินแล้วมารู้ทีหลังว่าเป็นดอลลาร์ปลอม เปิดใจต่อหน้าสื่อมวลชนและกัน จอมพลัง ถึงสาเหตุที่อ้างชื่อกันและภรรยา เนื่องจากตอนนั้นทางดิวกดดันให้หาเงินมาชดใช้คืนตนไม่รู้จะทำอย่างไรจึงติดต่อไปหา “คุณหมิว” ซึ่งเป็นภรรยาของกัน จอมพลัง เพราะเคยรู้จักกันมาก่อน เพื่อขอให้ช่วยคุยกับดิว กรณีพูดถึงเรื่องค้าอาวุธเถื่อนนั้น ตนได้ยินมาอีกทีว่ากัน จอมพลัง และภรรยา สามารถเคลียร์ปัญหาเรื่องค้าอาวุธเถื่อนได้ และเป็นการพูดคุยสนุกสนาน ไม่ได้จริงจัง


ส่วนเรื่องแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์ ยอมรับว่าตนรู้จักกับลูกค้าชายชาวจีนชื่อชาน ที่ต้องการนำเงินจำนวน 3 ล้านดอลลาร์ มาแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทย ตนเห็นว่ามีโปรเจกต์งานนี้มานานเป็นปีแล้ว แต่ไม่มีใครรับทำ กระทั่งได้พูดคุยกับ“เกด” ซึ่งเป็นนายหน้ารับขายฝากที่ดิน บอกว่ามีช่องทางและสามารถทำงานนี้ได้ จึงตอบตกลงกับชาวจีนที่ชื่อชาน จนนำไปสู่วันแลกเปลี่ยนเงิน ส่วนตัวยอมรับว่ามันแปลกๆ ตั้งแต่แรก เพราะเงินดอลลาร์มูลค่าถึง 99 ล้านบาท แต่กลับนำมาแลกกับเงินไทยเพียง 3,200,000 บาท พร้อมยอมรับว่ารู้อยู่ลึกๆ ว่าเป็นเงินดอลลาร์เทาจากการทำผิดกฎหมาย แต่ทางเกดอ้างว่าสามารถทำได้ จึงตอบตกลงกับชายชาวจีน แต่ปรากฏว่าได้แบงก์ดอลลาร์ปลอมกลับมาแทน

ขณะที่นายโอ๊ต หรือมนัส การ์ดที่ดิว อริสรา ว่าจ้างให้รักษาความปลอดภัย 5 คน ประกอบด้วย “เท็ดดี้ เกด ชิน บอส และแมน” ในการนำเงิน 3.2 ล้านบาท ไปแลกกับเงิน 3 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 99 ล้านบาท เล่าว่า วันที่ไปรับเงินมีการ์ดไปดูแล 4-5คน โดยตนได้ค่าจ้างเป็นรายเดือนจาก ดิว อริสรา ส่วนการ์ดที่เหลือได้รับเงินรายวันๆ ละ 2,000 บาท เมื่อการทำธุรกรรมล้มเหลว การ์ดที่เหลือก็แยกย้ายกลับ เหลือเพียงตนที่ได้รับมอบหมายให้เคลียร์เรื่องเงิน 3.2 ล้านบาท กับทั้ง 5 คน

ในการเคลียร์เงิน ดิว อริสรา เปิดห้องพักโรงแรมให้ทั้ง 5 คนอยู่รวม 5 วัน ตกวันละกว่า 20,000 บาท ยืนยันว่าเป็นลักษณะของการอยู่ร่วมกันเพื่อพูดคุยหาทางออกเรื่องเงิน ไม่ได้มีการกักขังข่มขู่ ทุกคนมีอิสระใช้ชีวิตส่วนตัว สามารถออกจากห้องและกลับบ้านได้ตามปกติ อีกทั้งระหว่างที่อยู่ด้วยกันก็มีสังสรรค์ปาร์ตี้ บางครั้งตนต้องรับบทเด็กเอนเตอร์เทนต์ให้คนกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งตนมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอขณะชนแก้วแชมเปญโดยใช้แบงก์พัน พันรอบแก้ว และมีเสียงเชียร์ให้ชนแก้วด้วย

กรณีกล่าวอ้างว่าตนทำร้ายร่างกายหนึ่งในบุคคลที่อยู่ในห้อง คือชิน ซึ่งแอบโทรหาเพื่อนชื่อแบงค์ ซึ่งรู้จักกับแมน และแมนรายงานดิว ดิวบอกแล้วแต่จะจัดการ ตามข่าว ยอมรับว่าระหว่างอยู่ด้วยกันตนทะเลาะกับคนชื่อชิน เนื่องจากไม่พอใจเรื่องคำพูดจนชกต่อยกันบนรถ ขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการเคลียร์เงินหรือทวงหนี้ หลังจากทะเลาะกันได้เคลียร์ใจกันแล้วกลับมากินข้าวพูดคุยกันปกติ

กรณีครอบครัวคนชื่อเกด แจ้งความดำเนินคดีตน ฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวและกรรโชกทรัพย์ ก็เกิดจากความเข้าใจผิด โดยขณะอยู่ด้วยกันมีอยู่วันหนึ่งตน เกด เท็ดดี้ ชิน ลงไปซื้อเบียร์แล้วเจอกับตำรวจ ตำรวจจึงเข้ามาสอบถามแล้วพาไป สน. เพื่อสอบปากคำ พอตำรวจสอบถามทุกคนก็บอกว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดจึงปล่อยตัวออกมา ซึ่งหากตนกักขังจริงคงถูกจับไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว

หลังเกิดเหตุตนได้พูดคุยกับ ดิว อริสร เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทางดิวได้ขอโทษตนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น และตนไม่ได้ติดใจอะไร เพราะถือเป็นหน้าที่ และตอนนี้ตนได้ลาออกจากการทำงานให้กับ ดิว อริสรา เรียบร้อยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]