ผบช.สอท.เผยสถิติแจ้งความออนไลน์ลดลงเหลือ 800 คดี/วัน

บช.สอท. 18 มี.ค. – ผบช.สอท.เผยสถิติแจ้งความออนไลน์ลดลงเหลือ 800 คดีต่อวัน หลังเดินหน้าเร่งปราบปรามอาชญากรออนไลน์ทุกรูปแบบ พร้อมเผยผล 8 ปฏิบัติการสำคัญ


พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. พร้อมด้วยตำรวจไซเบอร์ ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการล่าเครือข่ายโจรออนไลน์ตามรวบแก๊งมิจฉาชีพและเว็บพนัน โดยได้เข้าปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น 8 เป้าหมาย โดยเปิดเผยว่า วันนี้เป็นการแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหากว่า 10 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดออนไลน์ ทั้งการจับกุมเครือข่ายของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงประชาชนในรูปแบบต่างๆ แม้ว่าปัจจุบันตามนโยบายรัฐบาลมีการบูรณาการกำลังทุกภาคส่วน ทำให้สถิติการแจ้งความออนไลน์ลดลงจากเฉลี่ยวันละ 1,200 คดี ลดลงเหลือ 800-900 คดี แม้ว่าการแจ้งความจะลดลงแต่ยังมีประชาชนยังตกเป็นเหยื่อของอาชญากรทางโลกไซเบอร์อยู่ ตำรวจไซเบอร์จะเพิ่มความเข้มข้นในการสืบสวนและปราบปรามการกระทำความผิดบนโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ ไม่จบ ไม่เลิก พร้อมขยายผลเพื่อเชื่อมโยงไปยังระดับผู้ปฏิบัติรายอื่น ๆ จนสาวไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่คอยสั่งการทุกคดี เพื่อเร่งนำตัวผู้ต้องหาทั้งขบวนการมาลงโทษตามกฎหมาย

พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผบก.สอท.1 กล่าวว่า ปฏิบัติการแรก ตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ได้จับกุมนางสาวจันทร์จิรา อายุ 22 ปี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฟอกเงิน และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยจับกุมได้ที่ร้านโทรศัพท์แห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าย่านพระราม 3 หลังมีผู้เสียหายถูกชักชวนผ่าน เฟซบุ๊กให้ลงทุนสมัครสมาชิก King Power Online จากนั้นดึงเข้ากลุ่มไลน์ โดยชักชวนให้ลงทุนหลอกให้โอนเงินเพื่อซื้อหุ้นของบริษัทเพื่อทำกำไรซึ่งผู้เสียหายได้โอนเงินไป 427,088 บาท จากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีก


พ.ต.อ.ทำนุรัฐ กล่าวว่า ปฏิบัติการที่ 2 ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 จับกุมนางสาวกัญญาพร อายุ 29 ปี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันฟอกเงิน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยช่วง 10 ก.ย.67-12 ต.ค.67 ผู้เสียหายได้ถูกคนร้ายใช้ภาพโปรไฟล์ผู้หญิงหน้าตาดีเข้ามาตีสนิทและชักชวนให้ลงทุนซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล โดยส่งลิงก์แพลตฟอร์มการลงทุนปลอม ชื่อ “streaming service” มาให้โอนเงินลงทุน เมื่อลงทุนครั้งแรกได้ผลกำไรดีสามารถถอนเงินออกมาได้ ผู้เสียหายจึงเข้าไปลงทุนอีกหลายครั้งโดยโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารบุคคลหลายบัญชีจำนวน 9 ครั้ง เป็นเงิน 1,570,000 บาท จากนั้นผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินออกจากระบบได้อีก เบื้องต้นนางสาวกัญญาพร ให้การรับสารภาพว่ามีเพื่อนมาชักชวนให้เปิดบัญชีธนาคาร โดยได้รับค่าตอบแทนบัญชีละ 800 บาท ก่อนหน้านี้ถูกดำเนินคดีที่ สภ.เมืองลำพูน 1 คดี และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเพิ่มอีก 1 คดี

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3 กล่าวว่า ปฏิบัติการที่ 3 ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 จับกุมนายศตวรรษ อายุ 30 ปี ในข้อหาสนับสนุนฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น และเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 3 ตำบลบึงบอน อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี หลังเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 ผู้เสียหายได้สมัครงานใช้งานแอปพลิเคชัน BLUED ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันหาคู่ ต่อมาได้มีบุคคลปริศนาใช้ภาพโปรไฟล์หน้าตาดีแอดมาเป็นเพื่อน ภายหลังเมื่อเริ่มมีความสนิทสนมกันจึงได้ชักชวนให้ลงทุนโปรโมทสินค้ากับแอปพลิเคชันชื่อ “G marker” สุดท้ายสูญเงินไปทั้งสิ้นจำนวน 613,898.20 บาท เบื้องต้นผู้ต้องหายังไม่ยอมให้การ แต่เจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องหารายดังกล่าว มีความเชื่อมโยงไปยังคดีอื่นอีก 22 เคสไอดี รวมความเสียหาย 3,396,973 บาท

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า ปฏิบัติการที่ 4 กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 จับกุม นายชวลิต อายุ 30 ปี ในข้อหาเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้เจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้หมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังมีผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอกให้กดลิงก์เพื่อติดตั้งแอปพลิเคชันซึ่งผู้เสียหายคาดว่าน่าจะเป็นโปรแกรมควบคุมโทรศัพท์ ทำให้เงินถูกโอนออกจากบัญชีกว่า 40,000 บาท
 
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ปฏิบัติการที่ 5 ตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 จับกุมนายกรวิชญ์ อายุ 48 ปี ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยจับกุมได้ที่ บ้านพักในพื้นที่ หมู่ 12 ตำบลบ่อโพธิ์ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก หลังมีผู้เสียหายได้ถูกคนร้ายติดต่อผ่าน TikTok แล้วชวนพูดคุยเชิงชู้สาว จนผู้เสียหายไว้ใจ จากนั้นถูกชักชวนให้ลงทุนเทรดเงินดิจิทัลช่วงแรกถอนเงินได้ปกติ แต่เมื่อลงทุนมากขึ้นกลับไม่สามารถถอนเงินได้ สุดท้ายสูญเงินไปกว่า 1,100,000 บาท ทั้งนี้พบว่าผู้ต้องหายังมีความเชื่อมโยงกับคดีหลอกลวงออนไลน์อื่นอีกจำนวน 10 คดี
 
นายกรวิชญ์ เปิดเผยว่า ช่วงประมาณปี พ.ศ.2550 – 2560 เคยทำงานรับจ้างขับรถบรรทุกขนส่งก๊าซ LPG ให้แก่บริษัทหลายแห่งในพื้นที่ จ.สระบุรี และ จ.นครราชสีมา โดยได้มอบบัญชีธนาคารให้แก่นายจ้างไว้เพื่อให้โอนเงินค่าจ้างให้ เมื่อได้ลาออกจากบริษัทที่เคยทำงานแล้วเปลี่ยนไปทำงานที่บริษัทใหม่ก็จะเปิดบัญชีธนาคารใหม่เพิ่มขึ้นไปอีกเรื่อยๆ เพื่อมอบให้นายจ้างไว้โอนเงินค่าจ้างเข้าบัญชีธนาคาร  แต่ช่วงหลังจากปี พ.ศ.2560 ได้เลิกทำงานรับจ้างขับรถบรรทุกก็ไม่ได้แจ้งปิดบัญชีธนาคารที่เปิดไว้ให้แก่นายจ้าง จึงเชื่อว่าสาเหตุนี้ อาจทำให้ตัวเองอาจถูกนำบัญชีไปใช้ในการกระทำความผิด


พ.ต.อ.ธีระ เชื้อสุวรรณ ผกก.4 บก.สอท.5 กล่าวว่า ส่วนอีก 3 ปฏิบัติการ ตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 ได้จับกุมเครือข่ายหลอกหารายได้ออนไลน์หลอกเหยื่อสำรองเงินก่อนหนีหายไป ได้จับกุมนางสาวสุมินตรา อายุ 21 ปี ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยจับกุมได้ที่ริมถนนหน้าอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 6 ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง คดีนี้เมื่อ 2566 มีผู้เสียหายได้พบเพจประกาศรับสมัครงานเพื่อหารายได้เสริม โดยอ้างว่าเป็นงานประเภทการเพิ่มยอดขายให้ ลาซาด้า ชอปปี้ หรือ วัตสัน โดยใช้กลอุบายให้ผู้เสียหายสำรองจ่ายเงินไปก่อนเพื่อปลดล็อกภารกิจ หากทำครบถ้วนแล้วจึงค่อยสามารถเบิกถอนเงินคืนได้พร้อมค่าคอมมิชชั่น สุดท้ายสูญเงินไปทั้งสิ้นกว่า 1 แสนบาท ทั้งนี้ผู้ต้องหายังคงให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าตนได้ใช้บัญชีธนาคารสมัครเล่นเกมออนไลน์และหารายได้เพิ่ม จึงได้มอบบัญชีธนาคารให้ผู้แนะนำผ่านเกมออนไลน์ เพื่อใช้ในการแบ่งรายได้ ต่อมาไม่สามารถติดต่อบุคคลดังกล่าวได้ จนกระทั่งถูกออกหมายจับและมาถูกจับกุมในที่สุด
 
พ.ต.อ.ธีระ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้จับกุมเครือข่ายอ้างเป็นธนาคารหลอกโอนเงิน 1.8 ล้าน โดยได้จับกุมนายจักรพงษ์ อายุ 29 ปี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบริษัทปิโตรเลียมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 6 ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วง ธันวาคม 2565 ผู้เสียหายได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าบัญชีธนาคารของผู้เสียหายมียอดค้างชำระค่าบัตรเครดิตและมีคนนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหายไปใช้ในทางผิดกฎหมาย และได้หลอกให้ผู้เสียหายติดต่อไปยังกลุ่มมิจฉาชีพที่อ้างว่าเป็นตำรวจ สภ.หัวหิน และข่มขู่ว่าตอนนี้ผู้เสียหายมีความผิดต้องยึดทรัพย์สินและถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงิน และยังขู่อีกว่าห้ามนำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งใคร เนื่องจากเป็นความลับทางราชการ จนผู้เสียหายเกิดความกลัวจึงได้โอนเงินทั้งหมดของตนเองไปกว่า 1.8 ล้านบาท

นายจักรพันธ์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า ตัวเองได้ใช้บัญชีธนาคารในการสมัครกู้เงินออนไลน์จากโซเชียลมีเดีย แต่ภายหลังเพิ่งทราบว่าถูกนำไปใช้เป็นบัญชีม้าในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์
 
พ.ต.อ.ธีระ กล่าวว่า ปฏิบัติการสุดท้ายได้จับกุมเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ โดยจับกุมนางสาวอรวรรณ อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในบัญชีม้าในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะ เหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 3  ตำบลตากแดด อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร หลังเมื่อช่วงต้นปี 2566 ตำรวจไซเบอร์ได้รับร้องเรียนกรณีมีเว็บพนันออนไลน์ชื่อ Clubred666 ได้เปิดรับแทงพนันและมีการเล่นได้เสียเงินกัน ต่อมาตำรวจสามารรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินทั้งกลุ่มบัญชีม้าและผู้รับผลประโยชน์ และมีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว ซึ่งขณะนี้อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด แต่ยังมีผู้ต้องหาบางรายที่ยังหลบหนีการจับกุมอยู่ ต่อมาสามารถติดตามจับกุมตัวนางอรวรรณ มาดำเนินคดีได้เบื้องต้น นางอรวรรณ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาโดยอ้างว่าเพื่อนได้ยืมบัญชีธนาคารไปเพื่อประกอบธุรกิจค้าขายออนไลน์ แต่ภายหลังไม่สามารถติดต่อกันได้อีก.- 419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-อีสาน

กทม. 27 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% ไม่พอใจเข้มปราบแก๊งคอลฯ

กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดใจ ขอคนไทยรักกัน หันไปทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ชี้ขัดแย้งกันเองยังรอได้ แฉกัมพูชาไม่พอใจไทยร่วมมือลาว – เมียนมา ปราบคอลเซ็นเตอร์ เผยสื่อนอกยังตั้งข้อสังเกต “กพช.” สั่งปิด รร.ยิงวันแรก เหมือนรู้ล่วงหน้าจะมีการรบ ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามมาตรการการรับมือ และช่วยช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยนางสาวแพทองธารได้ยืนยันแถลงการณ์ของรัฐบาล ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ ที่ระบุว่ากัมพูชาถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง วิธีการต่าง ๆ ขัดต่อหลักสันติวิธีของกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดหลักมนุษยธรรมที่ได้ปฏิบัติมาตลอด สถานการณ์ความรุนแรง เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ย้ำตลอดว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุด คือชีวิตของประชาชน เป็นสิ่งที่เรายึดถือ และพยายามไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จนฝ่ายกัมพูชาได้ยิงก่อน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางสาวแพทองธารยังกล่าวว่า มีสำนักข่าวต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า จริงๆ แล้วเรามีหลักฐาน มีดิจิทัลฟุตปริ้นท์ที่สามารถทำให้เห็นว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน และมีการตั้งข้อสังเกตว่าในวันนั้นนักเรียนของเราที่อยู่ชายแดนไปโรงเรียนตามปกติ […]

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย