ศาลยกฟ้อง พนง.การท่าเรือฯ 34 คน ถูกกล่าวหาทุจริตเบิกเงินล่วงเวลา

กรุงเทพฯ 18 มี.ค. – พนักงานการท่าเรือฯ 34 คน ผู้ต้องหาคดีพิเศษ ดีเอสไอ กล่าวหาทุจริตเงินค่าล่วงเวลา เฮ! ศาลยกฟ้องหมด


วันนี้ (18 มี.ค.) ที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลอ่านคำพิพากษาคดี ที่อัยการพิเศษสำนักงานปราบปรามการทุจริต 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายจงเด่น บุตรสุทธิวงศ์ พนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย กับพวกรวม 34 คน ร่วมกันกระทำการทุจริตการเบิกจ่ายเงินค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดโดยร่วมกันจัดทำเอกสารใบเบิกเงิน เพื่อใช้เบิกเงินดังกล่าว ทั้งที่ไม่ได้ทำงานจริง และใช้เอกสารดังกล่าวเป็นหลักฐานในการฟ้องการท่าเรือแห่งประเทศไทย ต่อศาลแรงงานกลาง เพื่อเรียกร้องค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดเพิ่มเติมในห้วงเวลา พ.ศ.2545–2555 ทั้งที่ไม่ได้ทำงานจริง

ซึ่งพฤติการณ์ร่วมกันกระทำการดังกล่าว เข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารรับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสารอันเป็นเท็จ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เบิกความอันเป็นเท็จ และนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157,162 ประกอบมาตรา 91 มาตรา 177 วรรคแรก มาตรา 180 วรรคแรก ประกอบมาตรา 83, 84 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 โดยศาลพิพากษายกฟ้องทุกข้อหา


ทนายกฤษฎา กล่าวว่าวันนี้ จำเลยทั้ง 34 คน เดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษา โดยสรุปพนักงานทั้งหมดเป็นผู้บริสุทธิ์ ข้อหาที่กล่าวอ้างว่ากระทำผิด ม.157 เบิกความเท็จใช้เอกสารเท็จไปฟ้องเรียกเงินเพิ่มเติมที่ศาลแรงงานทุกอย่าง ศาลเห็นว่าไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะเอาผิดจำเลยทั้งหมด จึงพิพากษายกฟ้องทุกข้อกล่าวหา ศาลเห็นว่าการเบิกจ่ายกับการท่าเรือไปตามปกติ ศาลเห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริต วันนี้จากคำพิพากษาศาลเป็นบทพิสูจน์ว่าการท่าเรือ คุณได้กลั่นแกล้งพวกเขาหรือไม่ เมื่อผลออกมาแบบนี้ทำไมไม่คิดที่จะเยียวยาพวกเขาจะต้องให้เค้าไปร้องเรียนร้องทุกข์กับหน่วยงานใดอีก

มูลเหตุของคดี ในปี พ.ศ.2557 ผู้บริหารการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้มอบอำนาจให้ นายโกมล ศรีบางพลีน้อย ร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายจงเด่น บุตรสุทธิวงศ์ กับพวก และพนักงาน กทท. คนอื่น ๆ รวมทั้งบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง กล่าวหาว่าทุจริตเบิกจ่ายค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดเพิ่มเติม ในช่วงปี พ.ศ.2545-2555 ทำให้รัฐเสียหาย 3,300 ล้านบาท

คณะกรรมการคดีพิเศษได้มีมติรับเป็นคดีพิเศษในปี พ.ศ.2556 สืบสวนสอบสวนมายาวนานจน มีนาคม พ.ศ.2566 ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 37/2561 ให้กับพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ พร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา 34 ราย จากผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 560 ราย โดยผู้ต้องหา 3 ราย ที่ไม่ถูกสั่งฟ้องเนื่องจากเสียชีวิต จำนวนเอกสารในคดีนี้มีทั้งหมด 72 แฟ้ม 33,377 แผ่น


คดีทุจริตเงินค่าล่วงเวลาของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เป็นคดีที่ซับซ้อนและมีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง / การสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ทำการสอบสวนคดีนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 โดยมีการกล่าวหาว่าพนักงานจำนวนมากโกงค่าล่วงเวลา ทำให้ กทท. เสียหายกว่า 3,300 ล้านบาท สุดท้ายดีเอสไอได้ส่งสำนวนให้อัยการเพื่อฟ้องร้องพนักงานเพียง 34 คน จากจำนวนประมาณ 560 คน โดย ดีเอสไอได้ยุติการฟ้องร้องคดีดังกล่าว โดยมีข้อสรุปว่าคดีนี้สิ้นสุดแล้ว และไม่มีการกล่าวหาผู้ใดอีกต่อไป

ประเด็นที่น่าสนใจ ความโปร่งใสในการตรวจสอบและดำเนินคดีนี้ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการตรวจสอบและดำเนินคดีอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการยุติคดีโดยไม่ฟ้องร้องนั้น ส่งผลกระทบจากการถูกกล่าวหา ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ.-420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]