คาดดินทรุดตัวเป็นต้นเหตุ เร่งคืนพื้นผิวจราจรใน 7 วัน

16 มี.ค. – อธิบดีกรมทางหลวง-บอร์ด กทพ. ลงพื้นที่ตรวจเหตุโครงการทางพิเศษพระราม 3 ถล่ม คาดดินทรุดตัวเป็นต้นเหตุ เร่งคืนพื้นผิวจราจรใน 7 วัน ซ่อมสะพานใน 30 วัน พร้อมเข้มมาตรการความปลอดภัย-ตั้งคณะสอบสวนหาสาเหตุเชิงลึก


เวลา 13.30 น. นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง และประธานบอร์ดการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ บริเวณโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 หลังถล่มลงมาทับวิศวกรและคนงาน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก

ภายหลังการลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบร่องรอยการทรุดตัวของดิน บริเวณฐานเสาค้ำยันด้านซ้าย มีลักษณะเอียง 20 องศาไปทางฝั่งถนน พระราม 3 ขาออกมุ่งหน้าไปทางดาวคะนอง หรือ ฝั่งถนนจอมทองบูรณะ จึงสันนิษฐานว่า สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ อาจเกิดจากดินทรุดตัว แต่ยังไม่ขอฟันธง โดยจะต้องรอเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบเชิงลึกอีกครั้ง โดยตอนนี้ จะต้องเร่งคืนพื้นที่การจราจรให้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นเส้นทางหลัก คาดว่าจะใช้เวลาฟื้นฟูพื้นประมาณ 7 วัน ขณะที่การซ่อมแซมสะพานที่ชำรุด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน


ส่วนเรื่อง การเยียวยาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ได้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้าง ตรวจสอบอุปกรณ์ เครื่องมือ และกระบวนการทำงานอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย ซึ่งทางการทางพิเศษฯ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ โดยให้ความสำคัญกับการตรวจสอบทุกขั้นตอน พร้อมเปิดให้หน่วยงานภายนอก เช่น สภาวิศวกร และผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้าง เข้ามาวิเคราะห์สาเหตุของอุบัติเหตุในเชิงลึกด้วย

อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวอีกว่า แต่ละโครงการมีสัญญาย่อยมีบริษัทผู้รับเหมาเข้ามาทำ ซึ่งเหตุผลที่จะต้องมีการทำสัญญาย่อยออกไปก็เพื่อต้องการให้โครงการก่อสร้างเสร็จสิ้นตามกำหนดเวลา พร้อมยืนยันว่าการทำสัญญาย่อยกับผู้รับเหมา ไม่มีการทุจริต

เมื่อถามว่า ปปท. เตรียมที่จะเข้ามาตรวจสอบการทุจริตได้มีการเตรียมข้อมูล หรือชี้แจง หรือไม่ อธิบดีกรมทางหลวงยืนยันว่าพร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบโดยเฉพาะการทุจริตต่างๆ ซึ่งยืนยันว่าไม่มีการทุจริตเกิดขึ้นในโครงการ


ขณะที่ นายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมไม่ได้เพิกเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกำลังเร่งแก้ไขปัญหา โดยเน้นย้ำว่าผู้ปฏิบัติงานต้องมีความปลอดภัยเป็นอันดับแรก หากพบว่ามีจุดเสี่ยงใดที่ไม่แน่นอนด้านความปลอดภัย จะต้องมีคำสั่งหยุดงานทันที นอกจากนี้ ยังได้หารือร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อจัดเส้นทางเลี่ยงให้ประชาชน โดยแนะนำให้ใช้สะพานภูมิพล 1 และ 2 รวมถึงสะพานตากสินแทน

ผู้สื่อข่าวถามว่า อุบัติเหตุโครงการก่อสร้างถนนพระราม 2 และโครงการใกล้เคียง เป็นอุบัติเหตุใหญ่เกิดขึ้นในยุคของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนปัจจุบัน ได้มีการเน้นย้ำหรือมีการถอดบทเรียนบ้างหรือไม่ รองปลัดกระทรวงคมนาคมบอกว่า ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ ก็มีการสอบสวนถึงต้นตอหาสาเหตุ นำไปสู่การถอดบทเรียนเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก รวมไปถึงการบังคับใช้กฎหมายกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งอุบัติเหตุแต่ละครั้งที่เกิดขึ้นไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

ในส่วนของมาตรการลงโทษผู้รับเหมา ทางกระทรวงคมนาคมได้ออกมาตรการที่เข้มงวดขึ้น โดยจะมีการให้คะแนนและจัดทำ “สมุดพกผู้รับเหมา” เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงาน หากพบว่ามีข้อบกพร่อง จะมีมาตรการขึ้นบัญชีดำ (Blacklist) และส่งข้อมูลให้กรมบัญชีกลางพิจารณาต่อไป นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบมาตรฐานการทำงานของแรงงานที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานต้องมีใบอนุญาตเฉพาะด้าน และผู้รับเหมาจะต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญในการยกแท่งปูนและดำเนินงานที่มีความเสี่ยงสูง

ด้านนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้อย่างแน่ชัด แต่จากการประเมินเบื้องต้น คาดว่าโครงสร้างอาจรับน้ำหนักคอนกรีตไม่ไหว ซึ่งต้องรอการตรวจสอบจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 20 วันหลังจากการเคลียร์พื้นที่เสร็จ

ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ ถือเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และจะต้องมีการถอดบทเรียน เพื่อนำไปปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยให้รัดกุมมากขึ้น โดยกระทรวงคมนาคม จะต้องตรวจสอบทุกกระบวนการอย่างละเอียด และหากพบว่ามีผู้ใดละเลยหรือกระทำผิด จะดำเนินการลงโทษตามกฎหมายและข้อสัญญาที่เกี่ยวข้อง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยตนเองจะรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือไม่ นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า การที่ตนลาออกก็ไม่ทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาได้ต้องมาดูว่าตนละเว้นหรืออย่างไร พูดเอาสะใจได้ แต่ตนจะมั่นใจได้ว่าผู้ที่ทำงานบกพร่องหรือผู้ที่ประมาทนั้น และผู้เสียหายได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมผู้ที่ประมาทเองก็ต้องได้รับการชดใช้

ทั้งนี้ คาดว่าการจราจรในบริเวณดังกล่าว จะติดขัดอย่างหนัก ทางการทางพิเศษฯ จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว และปรับเวลาออกเดินทางให้เร็วขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาการจราจร.-414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย