กรุงเทพฯ 15 มี.ค. – ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวออกหมายจับเพิ่ม 15 คนไทยที่กลับจากปอยเปต จัดให้เล่นพนันออนไลน์ไฮโลและไพ่ป๊อกเด้ง
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวออกหมายจับเพิ่ม 15 คนไทยที่กลับจากปอยเปต จัดให้เล่นพนันออนไลน์ไฮโลและไพ่ป๊อกเด้ง
ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการปฏิบัติการต่อเนื่องจากการที่รัฐบาลกัมพูชาบุกทลายแหล่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จาก ต.ปอยเปต อ.โอวโรจ ประเทศกัมพูชา จนได้รวบตัวคนไทย 119 คน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และส่งตัวมายังประเทศไทย เพื่อสืบสวนพยานหลักฐานและดำเนินการตามกฎหมาย โดยในจำนวนนี้จับกุมและดำเนินคดีไปแล้ว 93 ราย ข้อหาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
ในขณะที่คนไทยอีก 7 ราย ถูกจับกุมโดยตำรวจภูธรภาค 2 ไปแล้ว ในความผิดคดีอื่นตั้งแต่วันแรกที่เดินทางถึงประเทศไทย ส่วนอีก 19 รายที่เหลือแบ่งเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี จำนวน 4 ราย ขณะที่อีก 15 ราย เป็นกลุ่มที่ทำงานในอาคาร K2 และมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์
จนกระทั่งวันนี้เจ้าหน้าที่สืบสวนหาพยานหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำผิดของกลุ่มคนไทยทั้ง 15 รายดังกล่าวจนได้พยานหลักฐานที่เพียงพอ โดยทราบว่าคนไทยทั้ง 15 ราย มีหน้าที่จัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ประเภทไฮโล และไพ่ป๊อกเด้ง เรือพาย แปด เก้า ผ่านเว็บไซต์พนันออนไลน์ ที่เปิดให้คนไทยเล่น และมีการสื่อสารผ่านกลุ่มไลน์ พนักงานสอบสวนจึงขออนุมัติหมายจับบุคคลทั้ง 15 ราย ในความผิดฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันโดยผิดกฎหมาย ขณะนี้ตำรวจไซเบอร์สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวได้แล้ว 5 ราย และอยู่ระหว่างติดตามจับกุมอีก 10 ราย
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คนไทยทั้ง 15 รายที่ได้ออกหมายจับเพิ่มนั้น ทำหน้าที่ช่วยกันไลฟ์ในห้องไลน์ ที่มีการเชิญคนไทยเข้ามาเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งจะมีอุปกรณ์ในการไลฟ์ เช่น ตุ๊กตา โยกหัวให้รู้ว่ามีการไลฟ์อยู่ รวมถึงค้อนทุบลูกเต๋าให้คนเห็นว่าไม่มีแม่เหล็กอยู่ด้านในสำหรับเล่นไฮโล ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการพนันนั้นจะมีเทคนิคในการหลอก โดยเฉพาะยิ่งการเล่นผ่านกล้องก็ยิ่งหลอกได้มากกว่าเดิม จึงอยากจะเรียนให้ผู้ที่เป็นผู้จักหรือมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดว่าถ้าหากไปทำผิดในต่างประเทศจะโดนข้อหาหนัก ถือว่ามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ แต่ถ้าทำในประเทศจะมีความผิดตามกฎหมายไทย ส่วนผู้ร่วมเล่นมีความผิดเช่นกัน แล้วจะไม่มีโอกาสที่จะชนะในการเล่นพนันออนไลน์
นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาตำรวจไซเบอร์ได้กวาดล้างขบวนการ Call Center จับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ทั้งหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ, หลอกลงทุน, หลอกเป็นเจ้าหน้าที่ DSI ให้ติดตั้ง application ดูดเงิน ความเสียหายกว่า 1.1 ล้านบาท, จัดให้มีการเล่นพนัน (ฟุตบอล) ผิดกฎหมาย และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
ส่วนสถิติการแจ้งความออนไลน์ลดลงถึงร้อยละ 60 ผบช.สอท. ยืนยันว่าเราจะไม่หยุดปฏิบัติการ “ไม่จบ ไม่เลิก”.-420-สำนักข่าวไทย