บช.สอท. 6 มี.ค. – ตำรวจไซเบอร์รวบครูดีเด่น บังคับเด็กทำอนาจารในห้องเรียนแล้วอัดคลิปพบเหยื่อแล้ว 8 ราย เจอไฟล์อีกนับหมื่น
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.ตอท. น.ส.สุดาทิพย์ ด้วงทิพย์ Destiny Rescue International และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวจับกุมครูดีเด่นบังคับเด็กทำอนาจารในห้องเรียนแล้วอัดคลิป พบเหยื่อแล้ว 8 ราย เจอไฟล์อีกนับหมื่น
สืบเนื่องจากกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. หรือ TICAC ได้รับการ ประสานจากศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเด็กหายและเด็กถูกละเมิดแห่งชาติ ของประเทศสหรัฐอเมริกา (NATIONAL CENTER FOR MISSING & EXPLOITED CHILDREN : NCMEC) ว่าได้ตรวจสอบพบภาพของเด็กชายถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งมีการอัปโหลดในระบบคลาวด์ของแพลตฟอร์มชื่อดัง เมื่อตรวจสอบ IP Address แล้ว พบว่ามีที่มาจากประเทศไทย จึงประสานข้อมูลมายังตำรวจไซเบอร์ให้ช่วยทำการสืบสวน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ได้ออกสืบสวนหาพยานหลักฐานต่างๆ จนพบข้อมูลว่า ผู้กระทำผิดเป็นข้าราชการ ครูของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
จากนั้นช่วงเช้าของวันที่ 5 มี.ค.68 ชุดปฏิบัติการ TICAC 2 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ Destiny Rescue International, มูลนิธิ OUR Rescue และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำหมายค้นศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่ง ผลการตรวจค้นพบนายกฤษณะ อายุ 32 ปี ข้าราชการครูของโรงเรียนแห่งหนึ่ง พร้อมตรวจยึดของกลาง 2 รายการ เป็นโทรศัพท์มือถือ และ External HDD ขนาดความจุ 2 TB จากการตรวจสอบข้อมูล ภายในโทรศัพท์มือถือของกลาง พบสื่อลามกอนาจารทั้งเด็กหญิงและเด็กชาย จำนวนเกือบ 20,000 ไฟล์ และยังพบสื่อลามกอนาจารเด็กที่นายกฤษณะผลิตเอง โดยเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบเด็กที่ตกเป็นเหยื่อถูกล่วงละเมิดซึ่งสามารถระบุตัวตนได้แล้ว จำนวน 8 ราย และยังพบข้อมูลอีกว่า นายกฤษณะ เคยได้รับรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติครูผู้สอนที่มีผลงานเชิงประจักษ์ในระดับเขตพื้นที่การศึกษามาแล้ว
ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า หลังจากที่ตำรวจไซเบอร์ได้รับทราบข้อมูล จึงได้ประสานการปฎิบัติพร้อมลงพื้นที่จนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดโดยพบว่าผู้กระทำความผิดเป็นครูได้รับรางวัลครูดีเด่นโดยเด็กอยู่ภายใต้การปกครอง การจับกุมตรวจพบพยานหลักฐานจำนวนมาก ทางตำรวจไซเบอร์จะขยายผลดำเนินคดีทุกกรรมทุกวาระที่ผู้ต้องหารายนี้ได้ทำละเมิดกับเด็ก อย่างน้อยที่ปรากฏในคลิป 8 คน จะต้องดำเนินคดีซึ่งแต่ละคนหากปรากฏภาพกี่ครั้งจะกล่าวหาดำเนินคดีเป็นรายครั้ง อย่างไรก็ตาม จะหาเหยื่อที่เคยถูกกระทำในอดีตที่พร้อมจะให้ข้อมูล เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เนื่องจากผู้กระทำมีอาชีพและสถานะที่ต้องดูแลความปลอดภัยให้กับเด็ก แต่กลับมากระทำการล่วงละเมิดเด็กเสียเอง การกระทำอนาจาร หน่วงเหนี่ยวกักขัง แสวงหาผลประโยชน์จากเด็กจะต้องรับโทษบทหนัก ทั้งนี้จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดในทุกข้อหาทุกกรณี
ด้าน น.ส.สุดาทิพย์ กล่าวว่า ผู้เสียหายเป็นเด็กชั้นประถมศึกษา อายุ 8-10 ปี พบผู้เสียหาย 8 คน จากการสัมภาษณ์ไปแล้ว 7 คน บางคนมีอาการตัวสั่น ไม่กล้าพูด เนื่องจากเด็กกลัวเพราะครูได้กระทำการละเมิดอนาจารมาหลายปีแล้ว เด็กทุกคนพูดเหมือนกันว่าเหตุเกิดที่โรงเรียน ฝากไปถึงผู้ปกครองหากเด็กเกิดปฏิกิริยาที่ผิดปกติหรือเงียบ ไม่ไว้ใจ ให้พูดคุยสอบถามกับลูกอย่างใกล้ชิด หรือสามารถติดต่อมาได้ที่เจ้าหน้าที่
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อหา อ้างเป็นรสนิยมทางเพศ และความชอบในลักษณะนี้ โดยก่อเหตุย้อนหลังไปตั้งแต่ 7-8 ปี ที่บรรจุเข้าไปเป็นครูภาษาอังกฤษ เคยพาเด็กไปล่วงละเมิดทางเพศทั้งในบริเวณห้องเรียนและห้องสมุดของโรงเรียนพร้อมบันทึกภาพและคลิปวีดีโอไว้ และยังมีพฤติกรรมเรียกเด็กมาหาส่วนตัวในช่วงเวลาเรียนและบอกกับเด็กไม่ให้บอกใคร ก่อนจะให้เงินเป็นค่าตอบแทนตั้งแต่ 40-100 บาท และยังอ้างว่าภาพที่ถ่ายไว้ไม่เคยนำไปเผยแพร่ที่ใด
เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อประโยชน์ทางเพศ สำหรับตนเองหรือผู้อื่น” ซึ่งผู้ต้องหายอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนข้อหาอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อหากระทำชำเรา อนาจาร และพฤติกรรมแสวงหาประโยชน์จากเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ผู้กระทำมี อำนาจเหนือเด็ก เช่น ครูที่มีนักเรียนอยู่ในความดูแล โทษจะหนักขึ้นตามกฎหมายนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวน และสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม และสืบสวนขยายผลไป ยังผู้ร่วมกระทำผิดรายอื่น หรือเด็กที่อาจตกเป็นเหยื่อรายอื่นต่อไป ในส่วนเด็กผู้เสียหายนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ร่วมกับบ้านพักเด็กจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เข้าพูดคุยกับผู้ปกครอง เพื่อคุ้มครองเยียวยาและนำเข้าสู่ กระบวนการยุติธรรมต่อไป.-419- สำนักข่าวไทย