กลุ่ม สว.สำรอง ให้กำลังใจดีเอสไอทำคดีฮั้วเลือก สว.

ดีเอสไอ 26 ก.พ. – กลุ่ม สว.สำรอง พร้อม “ทนายอั๋น” ให้กำลังใจดีเอสไอทำคดีฮั้วเลือก สว. ด้าน รมว.ยุติธรรม โผล่รับมอบดอกไม้ด้วยตนเอง ยันไม่ได้มีธงจะรับ ขอให้รอมติมันที่ 6 มี.ค.


นายอัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล ตัวแทนกลุ่ม สว. สำรอง และอดีตผู้สมัคร สว.รวมประมาณ 20 คน เดินทางมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอพร้อมกับมอบดอกไม้ให้กำลังใจขอให้ดีเอสไอสร้างความจริงให้ปรากฏกรณีคดีฮั้วเลือก สว. และขอให้รับเป็นคดีพิเศษ โดยกล่าวว่ามาให้กำลังใจกับอธิบดีดีเอสไอและคณะผู้บริหาร ให้มีพลังในการต่อสู้กับอำนาจกับอำนาจอิทธิพลที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง จึงรวมตัวกันมาทวงถามความยุติธรรม ขอให้หน่วยงานเกี่ยวข้องที่ต้องช่วยกันทำความจริงให้ปรากฏ

ส่วนเมื่อวานที่มีการเลื่อนมติการพิจารณากรณีการรับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษนั้น มองว่า อาจมีเหตุผลเรื่องข้อกฎหมายอำนาจในการที่จะจัดการแต่ เชื่อว่าคนทั้งประเทศมีความคาดหวังว่าอยากให้รับกรณีนี้เป็นคดีพิเศษ และจากหลักฐานที่ผ่านมาก็ปรากฏว่าคนที่เคยร่วมขบวนการกลับใจมาให้ข้อมูลจำนวนหนึ่งแล้วเชื่อว่าจะเป็นข้อมูลที่ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับในส่วนของอาญา ไว้พิจารณาได้ว่าเป็นความผิดจริง โดยระหว่างการแถลงข่าว พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เดินทางมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษและมารับมอบดอกไม้ด้วยตนเอง


จากนั้น นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ กล่าวว่า ตนไปร้องเรียน กกต.และติดตามการเลือกฮั้วเลือก สว. มาตลอด และพบเห็นว่ามันมีการดึงเช็งถ่วงเวลาหรือไม่จึงมาร้องขอให้มีการตรวจสอบคณะกรรมการการเลือกตั้งด้วย

ด้าน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ ส่วนความคืบหน้าการดำเนินการเรื่องนี้ อยู่ในขั้นตอนที่คณะกรรมการคดีพิเศษเลื่อนการประชุมไปอีก 1 สัปดาห์ เนื่องจากพบว่ายังมีข้อมูลที่มากมายจึงขอให้กรรมการคดีพิเศษที่ได้รับฟังข้อเท็จจริงเมื่อวานแล้วแต่ยังมีข้อสงสัยเรื่องข้อกฎหมายจะได้กลับไปทบทวนและจะมาประชุมกันใหม่ในวันที่ 6 มีนาคมนี้

ถามต่อว่าจะใช้อำนาจอะไรเรียก กกต.มา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า สำหรับองค์กรอิสระจะใช้วิธีการประสานงาน เพราะในบางประเด็นอาจจะเป็นเอกสารมาก็ได้ ซึ่งก็มีการประสานงานกับคณะกรรมการการเลือกตั้งอยู่แล้วไม่ได้มีความขัดแย้ง โดยภายในวันที่ 6 มีนาคม หาก กกต. ไม่มาดีเอสไอจะส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการประสานงานก็ได้ ในประเด็นที่เป็นข้อสงสัย เป็นการตั้งคำถามจากการประชุมเมื่อวานนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในด้านของข้อกฎหมาย


รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เรื่องการเลือกตั้งเป็นเรื่องของ กกต. ส่วนที่เป็นคดีอาญาอื่น ถ้าคณะกรรมการคดีพิเศษรับให้เป็นคดีพิเศษ หากเป็นความผิดท้ายพระราชบัญญัติก็สามารถเป็นคดีพิเศษได้ ซึ่งเมื่อวานนี้ก็มีคำถามในข้อเท็จจริงบางอย่างและเนื่องจากประธานการที่ประชุมต้องรีบเดินทางไปขึ้นเครื่องบินก็เลยทำให้ยังไม่มีมติเมื่อวานนี้

อย่างไรก็ตาม ถ้าในวันที่ 6 มีนาคม องค์ประชุมไม่ครบจะเลื่อนอีกหรือไม่ รมว.ยุติธรรม ย้ำว่ามีการนัดหมายล่วงหน้ากันมาแล้วว่าจะต้องมา ส่วนกรณีที่ สว. เตรียมจะอภิปรายทั่วไปต่อตนนั้น ตนก็พร้อมจะชี้แจงยืนยันว่าทำด้วยความยุติธรรมไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ซึ่งหากตอนชี้แจงมีคำถามที่ตนจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับบางอย่าง หากทาง สว.รับได้เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากการสืบสวนทุกอย่างจะเป็นไปตามข้อมูลหลักฐานเรื่องวิทยาศาสตร์เรื่องเทคโนโลยีเป็นเรื่องที่โกหกไม่ได้

ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวเพิ่มเติมในเรื่องหลักการว่า การรับทำคดีของดีเอสไอเมื่อมีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดีเอสไอดำเนินการเป็นหน้าที่ที่จะต้องมีการสืบสวนว่าเรื่องดังกล่าวมีคดีอาญาเกิดขึ้นหรือไม่และจะเข้าเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ซึ่งตามหลักการของกฎหมายหากเป็นความผิดตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ เข้าลักษณะรายละเอียดดีเอสไอ สามารถรับเรื่องไว้ได้เอง แต่หากเป็นความผิดอาญาอื่นที่ไม่ใช่เป็นกฎหมายท้ายพระราชบัญญัติ ต้องใช้มติคณะกรรมการคดีพิเศษในการที่จะรับหรือไม่ ย้ำว่าาการดำเนินการเป็นขั้นตอนปกติ แต่การที่มีบางคนมองว่ามีเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยว อยากขอให้มองว่าหากตัดเรื่องการเมืองออกเรื่องนี้มีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษดีเอสไอจำเป็นต้องทำตามหน้าที่ต้องรักษากฎหมาย

จากนั้น มีหนึ่งในตัวแทนประชาชน บอกด้วยว่า ติดตามการเลือก สว.ที่ผ่านมา และพบหลายเรื่อง ที่ทำให้ขาดความเชื่อมั่น ซึ่งเรื่องต่างๆ ทำให้เชื่อว่ามีการฮั้วเกิดขึ้นจริง และในมุมมองประชาชนไม่มีความเชื่อมั่นในคณะกรรมการการเลือกตั้งที่จะจัดการเรื่องนี้ จึงมาขอร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและดีเอสไอทำคดีดังกล่าวให้ทำความจริงปรากฏ ขอร้องไปที่ สว. ต้องยอมรับให้เกิดการตรวจสอบ ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์ ด้วยว่าท่านมาด้วยความบริสุทธิ์จริงหรือไม่ หากท่านไม่ได้ทำผิดก็ไม่มีอะไรให้ต้องกลัว นอกจากนี้ ตัวแทนกลุ่มยังร่วมกันร้องเพลงให้กำลังใจดีเอสไอด้วย.-417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ทำเนียบ 30 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก พร้อมประณามกัมพูชาละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประณามการกระทำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรง กรณีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่เป็นสถานพยาบาลของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้นายจิรายุ ยังเปิดภาพโรงพยาบาลบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คำโปรย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง “ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกจับตามองและประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่พลเรือ” โฆษกรัฐบาล ระบุ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่า จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ บาดเจ็บสาหัส 12 […]

เหตุพลุระเบิด เสียชีวิตเพิ่มเป็น 10 คน

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาล รวมเสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คืบหน้าเหตุพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ขณะนี้ได้สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงประสานชุด EOD เข้าเก็บกู้ดินปืน เนื่องจากตรวจสอบพบหลุมขนาดใหญ่สีดำจำนวน 2 หลุม และดินปืนจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบร่างผู้เสียชีวิต ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนข้อมูลการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนี้มีการลักลอบผลิตพลุไล่นก.-สำนักข่าวไทย