21 ก.พ. – ตำรวจชุดสืบสวน สน.คลองตัน บุกเข้าไปที่บ้านพักย่านหัวหมาก เพื่อเข้าจับกุมตัว นายอัครวิทย์ อายุ 36 ปี ไรเดอร์ที่ก่อเหตุแทงนายเพียงใจ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จนเสียชีวิต ภายในมหาวิทยาลัยย่านพัฒนาการเมื่อคืนนี้ โดยนายอัครวิทย์ ยังคงนอนหลับอยู่กับภรรยา ตำรวจต้องปลุกให้ตื่น จนทำให้เจ้าตัวตื่นขึ้นมาด้วยอาการงุนงง ก่อนจะถูกหิ้วปีกนำตัวไปสอบสวนที่ สน.คลองตัน
เมื่อสอบถามว่า จำเหตุการณ์ได้หรือไม่ ผู้ก่อเหตุไม่สามารถตอบได้เนื่องจากอยู่ในสภาพมึนงง ไม่รู้เรื่อง ซึ่งตำรวจให้ข้อมูลว่าเจ้าตัวน่าจะกินยานอนหลับชนิดรุนแรง (อัลปราโซแลม) เข้าไป จึงต้องรอให้ผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการปกติก่อนจึงสอบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ยึดรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าคลิก สีน้ำเงิน-ขาว หมวกกันน็อกสีแดง เสื้อผ้าที่ใส่ตอนก่อเหตุ และอาวุธมีดอีก 1 เล่ม ภายหลังควบคุมตัวไรเดอร์มาที่ห้องสืบสวน ยังมีอาการง่วงหลับไปนานประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นตำรวจต้องหิ้วปีกนายอัครวิทย์ ออกไปสอบปากคำ
นายอัครวิทย์ ยังอยู่ในสภาพอ่อนแรง ซึ่งเจ้าตัวบอกกับผู้สื่อข่าวว่าได้นำอาหารไปส่งตามพิกัดที่ปรากฏในแอปพลิเคชัน และพบกับนายเพียงใจ ที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จึงนำอาหารไปส่ง แต่นายเพียงใจ พูดจาไม่ดี และยังท้าต่อย จึงฟิวขาดก่อเหตุ ส่วนมีดพกไว้อยู่แล้วใต้เบาะรถจักรยานยนต์
ด้านภรรยาผู้ก่อเหตุ เล่าว่า เมื่อคืนนี้สามีกลับมาที่บ้านประมาณ 4 ทุ่มกว่า ทันทีที่กลับมาถึงสามีก็นอนหลับไม่ได้บอกอะไร ส่วนตัวไม่ทราบเรื่องจนกระทั่งตำรวจเข้าไปจับกุม จึงรู้ว่าสามีไปก่อเหตุแทงคนมา พร้อมยืนยันว่าสามีไม่ได้มีพฤติกรรมเสพยาเสพติด เมื่อคืนนี้ก็ไม่ได้กินยาอะไร และที่ผ่านมาไม่เคยบ่นเรื่องถูกยกเลิกออเดอร์มาก่อน อีกทั้งปกติสามีก็ไม่ได้เป็นคนอารมณ์ร้อน และส่วนตัวอยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ในสิ่งที่สามีทำลงไป
ด้าน พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผู้กำกับการ สน.คลองตัน เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพยานและภรรยาของผู้ก่อเหตุ ทราบว่าผู้ก่อเหตุเพิ่งจะมาเป็นไรเดอร์ได้ 2-3 วัน และก่อนเกิดเหตุ ได้นำก๋วยเตี๋ยวเข้ามาส่งภายในมหาวิทยาลัย แต่หาคนสั่งอาหารไม่เจอ จึงไปถามนายเพียงใจ ที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่บริเวณดังกล่าว ว่าได้สั่งอาหารไว้หรือไม่ แต่นายเพียงใจบอกว่าไม่ได้สั่ง และเนื่องจากบริเวณดังกล่าวอยู่ภายในมหาวิทยาลัย เป็นสถานที่ส่วนบุคคลจึงมีการไล่ผู้ก่อเหตุออกนอกบริเวณ และน่าจะเกิดการโต้เถียง ใช้ถ้อยคำรุนแรงกัน ก่อนจะชกต่อยกัน จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ได้ไปหยิบมีดที่พกติดตัวไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ออกมาแทงนายเพียงใจ นายเพียงใจพยายามไปขอความช่วยเหลือคนแถวนั้น แต่เนื่องจากเลือดออกมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือไว้ไม่ทัน และเสียชีวิต
จากนั้นผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ออกจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางกลับบ้านแวะไปหาเพื่อน เล่าให้ฟังว่าเพิ่งจะไปก่อเหตุอะไรมา และเมื่อกลับถึงบ้าน ก็เล่าให้ภรรยาฟังเช่นกัน ภรรยาเห็นว่าผู้ก่อเหตุมีอาการเพ้อ จึงรีบนำยานอนหลับมาให้กินไป 3 เม็ด เพื่อให้สงบลงและนอนพัก
จากการสืบสวน ชุดสืบสวนไล่กล้องวงจรปิดจนพบว่าผู้ก่อเหตุพักอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว จึงเข้าจับกุม จากการตรวจสอบห้องพักพบของกลางเสื้อผ้า รถจักรยานยนต์ และมีดที่ใช้ก่อเหตุ แต่ไม่พบยาเสพติดอื่นๆ ซึ่งเบื้องต้นยังสอบปากคำผู้ก่อเหตุไม่ได้ อาจด้วยเพราะฤทธิ์ยานอนหลับที่กินเข้าไป แต่ก็เตรียมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธมีดฯ ส่วนการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ก่อเหตุเคยถูกจับกุมคดีพกพาอาวุธปืน เมื่อปี 2562 และถูกจำคุก และต่อมาปี 2564 ก็ถูกจับเพราะขับรถขณะเสพยาเสพติด. -416-สำนักข่าวไทย