20 ก.พ.- ย้อนกลโกงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ออกอุบายให้นักศึกษาขังตัวเอง อ้างจะยัดคดี ก่อนบังคับให้โทรไปหลอกเงินพ่อแม่ สูญกว่า 5 แสนบาท
ตำรวจศูนย์สืบนครบาลและตำรวจ สน.วังทองหลาง เข้าช่วยนักศึกษารายหนึ่ง ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก โดยเจ้าตัวยังอยู่ในภาวะหวาดกลัว ไม่เชื่อว่าเป็นตำรวจจริงที่มาช่วย จนนำตัวกลับสู่อ้อมกอดครอบครัวได้สำเร็จ
จุดเริ่มต้นของเรื่องราว เกิดจากนักศึกษารายนี้มีโทรศัพท์เข้ามาอ้างว่าเป็นตำรวจ สภ.ช้างเผือก บอกชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน เลขบัญชีธนาคารเหยื่อ ครบถ้วน ก่อนอ้างว่า เจ้าตัวเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินให้ไปหลอกพ่อแม่โอนเงินในบัญชีมาเพื่อตรวจสอบ มิเช่นนั้นจะโดนคดีหนัก จึงโทรไปขอแม่ก้อนแรก 1.5 แสนบาท โดยให้เด็กบอกว่าเป็นเงินจะนำไปสมัครเรียนต่อต่างประเทศ
จากนั้นออกอุบายว่าจะให้ทุนเรียนที่ประเทศอังกฤษ ให้ไปขอเงินจากแม่มาใส่บัญชีอีก เพื่อเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันขอวีซ่า ตอนนั้นครอบครัวเริ่มสงสัยแต่เห็นว่าโอนเข้าบัญชีลูก จึงคิดว่าปลอดภัย โอนก้อนที่สองมาอีก 3.5 แสนบาท โดยที่ไม่รู้เลยว่าขณะที่คุยกับลูกนั้น ลูกกำลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์บังคับและข่มขู่ห้ามวางสาย เมื่อได้เงินจากครอบครัวมา ก็ให้เด็กโอนเงินมาต่อและสั่งห้ามบอกพ่อแม่
ขณะนั้นครอบครัวเริ่มสงสัย พ่อตรวจสอบไปทางมหาวิทยาลัยที่ลูกอ้างว่าจะได้ทุนไปเรียนต่อ พบว่ามีชื่ออาจารย์ที่ลูกแอบอ้างจริง แต่ไม่มีโครงการให้ทุนไปต่างประเทศแต่อย่างใด พ่อจึงเริ่มสงสัย
เท่านั้นยังไม่พอ แม้จะได้เงินไปแล้ว 5 แสนบาท ครั้งที่ 3 ได้โทรศัพท์ไปหาพ่อแม่ของเด็กเอง บอกว่า เป็นเจ้าหนี้ ลูกชายติดเงินพนันอยู่อีก 1.5 แสนบาท พร้อมข่มขู่ว่าหากไม่โอน ลูกอาจถึงตายได้ พร้อมส่งภาพรถจักรยานยนต์ของลูกล้มกลางถนนมาขู่ บอกว่านี่แค่สั่งสอน หากไม่โอนลูกตายแน่ จากนั้นยังบังคับให้เด็ก ส่งเสียงมาขอความช่วยเหลือจากแม่ โดยข่มขู่เด็กให้พูดตาม มิเช่นนั้นจะโดนดำเนินคดีทันที
เมื่อวางสายแม่จึงโอนเข้าบัญชีลูกไปอีก 1.5 แสนบาท เคราะห์ดีที่ก้อนนี้ ธนาคารอายัดไว้ทัน เพราะเห็นความผิดปกติของบัญชีเด็ก มีเงินเข้าออกมาแล้วหลายแสน จึงทำให้ไม่สามารถโอนก้อนนี้ต่อไปยังบัญชีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ และแม่จึงเข้าแจ้งความ เบ็ดเสร็จสูญเงินให้แก๊งนี้ 5.2 แสนบาท
ผบก.สืบสวนนครบาล บอกว่าทันทีที่ได้รับแจ้งจากพ่อแม่ ก็รู้ทันทีเข้าตำราเป็นวิธีของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกให้กลัวและหลอกให้โอน จึงนำกำลังไปสืบหาพิกัดที่เด็กอยู่ พบว่าโดนบังคับให้เช่าห้องอยู่คนเดียว หลอกพ่อแม่ ก่อนจะช่วยเด็กให้หลุดพ้นออกมาได้ โดยระหว่างเข้าไปตรวจ พบไอแพดของเด็กคุยกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาแล้ว 17 ชั่วโมง
จากการตรวจสอบ ยังพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายนี้ ยังใช้บัญชีของนักศึกษารายนี้ไปหลอกเหยื่ออีกคนหนึ่ง ให้โอนเงินมาที่บัญชีของนักศึกษาอีกกว่า 1 แสนบาท ซึ่งตำรวจกำลังขยายผลว่าเป็นเครือข่ายใด สิ่งสำคัญที่ตำรวจเตือน ขอให้คนในครอบครัว ที่เห็นข่าวคอลเซ็นเตอร์รูปแบบต่างๆ ไปเล่าให้คนในครอบครัวฟังว่า มีวิธีใหม่ๆ ยังไงบ้าง เพื่ออย่างน้อย เมื่อเจอกับตัวจะได้ฉุกคิด และไม่ตกเป็นเหยื่อ .-สำนักข่าวไทย