ตร.หารือทูต 5 ประเทศ แลกเปลี่ยนข้อมูลปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กรุงเทพฯ 17 ก.พ. – จเรตำรวจแห่งชาติ หารือเอกอัครราชทูต 5 ประเทศ และผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต 18 ประเทศ, UNODC และ HSI ประสานความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อเดินหน้าปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และช่วยเหลือคัดแยกเหยื่อ


พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศตคม.ตร./ผอ.ศปอส.ตร.) เป็นประธานการประชุมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ครั้งที่ 2 โดยมี พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท. และคณะ พร้อมด้วยเอกอัครราชทูต 5 ประเทศ, ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูต 18 ประเทศ , สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime, UNODC) และสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Homeland Security Investigations, HSI) ร่วมประชุม ณ ห้องศรียานนท์ อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ในการประชุมครั้งนี้ เป็นการแจ้งผลการปฏิบัติภายหลังการประชุมร่วมกันในครั้งแรก โดยได้มีการดำเนินการตาม 7 มาตรการเข้มของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการซักถามคัดกรองนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อป้องกันผู้ที่ถูกหลอกลวงข้ามแดนไปยังฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา ซึ่งพบว่ามาตรการดังกล่าวเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ที่ผ่านมาพบว่ามีนักท่องเที่ยวสัญชาติต่างๆ จำนวน 58 คน ที่เปลี่ยนใจไม่เดินทางไปยัง อ.แม่สอด ประกอบกับมาตรการของรัฐบาลไทย โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันเชื้อเพลิง ไปยังฝั่งเมียวดี พบว่าสามารถกดดันแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างได้ผล มีการปล่อยตัวคนกลับออกมาจำนวนมาก และสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้บางส่วน ซึ่งสถานทูตประเทศต่างๆ ชื่นชมและขอบคุณรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวอย่างเข้มข้น


พล.ต.อ.ธัชชัยฯ เปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งนี้ ได้ประสานความร่วมมือกับสถานทูตทุกประเทศในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึก และ IP Address เพื่อจะได้สามารถตรวจสอบจุดที่เป็นที่ตั้งของกลุ่มแก๊งดังกล่าว ซึ่งต้องประสานความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ว่ายังมีคนที่ถูกหลอกจากพื้นที่เมียวดีอีกหรือไม่ รวมทั้งเพื่อมีข้อมูลเชิงลึกในการคัดแยกเหยื่อ และสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิด โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สร้างแพลตฟอร์มสำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทางสถานทูตประเทศต่างๆ ไว้แล้ว เพื่อสะดวกในการทำงานร่วมกันต่อไป

นอกจากนี้ พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า สถานการณ์ในปัจจุบัน ทางการไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทยยินดีช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และยินดีช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกหลอกลวงไป ซึ่งจะต้องเข้าสู่กระบวนการกลไกการคัดแยกเหยื่อ และกลไกลการส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM โดยการปฏิบัตินี้ การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันของสถานทูตประเทศต่างๆ และ UNODC มีความจำเป็นและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงมีการประชุมหารือร่วมกันในครั้งนี้ และจะได้มีการประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดอย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่งทุกประเทศขอบคุณทางการไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างยิ่ง และทุกประเทศยินดีให้ความร่วมมือในการประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างใกล้ชิด เพื่อการเดินหน้าปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการช่วยเหลือเหยื่อ ตลอดจนการส่งตัวกลับประเทศ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ