ตำรวจ ภ.1 บุกยึดซิมบ็อกซ์กลางกรุงฯ ตัดวงจรแก๊งคอลเซนเตอร์

14 ก.พ. – ตำรวจ ภ.1 บุกยึดซิมบ็อกซ์กลางกรุงฯ ตัดวงจรแก๊งคอลเซนเตอร์ มูลค่าความเสียหายกว่า 500,000 บาท


พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1 พร้อมกับเจ้าพนักงานตำรวจ บก.สส.ภ.1, เจ้าพนักงานตำรวจ ตม. และเจ้าพนักงานตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้นำหมายค้นศาลอาญาพระโขนงที่ ค.6/2568 ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 เข้าทำการตรวจค้นห้องพักในคอนโดแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 64 แขวงพระโขนงใต้ เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจ บก.สส.ภ.1 ได้รับประสานจากเจ้าพนักงานตำรวจ บก.สส.ภ.5 ที่ สภ.เรือง อ.เมือง จ.น่าน ว่ามีผู้เสียหายเข้าแจ้งความหลังถูกมิจฉาชีพโทรมาหลอกว่าตนเองเป็นบัญชีฟอกเงิน ให้โอนเงินไปตรวจสอบ 100,000 บาท โดยใช้เบอร์ 0946395627 โทรหาผู้เสียหาย จากนั้นได้โอนเงินไปยัง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เลขที่บัญชี 9858338929 ชื่อบัญชี สุรสิท สรดี เป็นจำนวน 100,000 บาท เมื่อตรวจสอบความเชื่อมโยงของบัญชีธนาคารพบว่ามีความเชื่อมโยงกับคดีอื่นๆ ในลักษณะเดียวกันอีก จำนวน 2 คดี ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ มูลค่าความเสียหายมากกว่า 500,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แกะสัญญาณโทรศัพท์มาเรื่อย จนสัญญาณมาหยุดที่ห้องพักแห่งนี้ จึงได้มีการเฝ้าสังเกตการณ์ และขอหมายค้นทันที


จากการผลตรวจค้นห้องพักพบของกลางหลายรายการ ทั้งเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด (gsm gateway) จำนวน 4 เครื่อง และ 1 เครื่องสามารถใส่ได้ 32 ซิม ใน 1 เครื่องสามารถโทรออกได้ 6,000 – 8,000 ครั้ง ซึ่งแสดงว่า 4 เครื่อง 128 ซิม สามารถโทรออกได้มากกว่า 800,000 ครั้งต่อวัน นอกจากนี้ยังมีโมเด็มต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ต จำนวน 2 เครื่อง กล้องวงจรปิด จำนวน 1 ตัว ของกลางทั้งหมดได้ทำการตรวจยึด และส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า มีชาวเมียนมา 2 คน มาขอเช่าห้องพักกับเจ้าของห้อง และได้ปล่อยเช่าห้องพักเป็นรายวันต่อให้กับญาติที่เป็นโปรแกรมเมอร์ จากนั้นญาติที่เป็นโปรแกรมเมอร์ประมาณ 2-3 เดือนก่อนจะบินไปต่างประเทศ และปล่อยห้องเช่าต่อให้คนร้าย วันละ 1,500 บาท โดยหญิงชาวเมียนมาทั้ง 2 คน อ้างว่า ไม่รู้เห็นว่าใครเป็นผู้ที่นำซิมบ็อกซ์เข้ามาติดตั้งไว้ที่ห้องดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม โดยประสานล่ามแปลภาษามาแปลขณะสอบปากคำ พฤติกรรมดังกล่าว กลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องมีความผิดฐาน “ร่วมกันทำ มีใช้ นำเข้า นำออกหรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต, ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต” เจ้าพนักงานตำรวจชุดตรวจค้นจะได้ทำการสืบสวนขยายผลดำเนินคดีบุคคลที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป. -420-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ เจ็บ 21

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ ถนนสายเอเชีย ขาขึ้น จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้บาดเจ็บ 21 คน คาดคนขับหลับใน เบื้องต้นยังไม่พบตัว

เน้นเครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B, C คาดมีผู้ติดค้างจำนวนมาก

ฝนตกหนักช่วงเช้า เพิ่มอุปสรรคค้นหาผู้ประสบภัย และการรื้อซากอาคาร สตง.ถล่ม เจ้าหน้าที่ทุกส่วนต้องหยุดปฏิบัติภารกิจชั่วคราว วันนี้ยังเน้นใช้เครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B และโซน C ที่มีลักษณะคล้ายร่างกายมนุษย์ติดอยู่ในซาก ด้านทีม K9 ประกาศยุติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย