จตช.เผยจีนส่งชื่อต้องสงสัยร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียวดีให้ไทยคัดแยก

ตร. 14 ก.พ. – “พล.ต.อ.ธัชชัย” จตช.ยืนยันจีนส่งรายชื่อ 3,700 คน ต้องสงสัยร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียวดีให้ไทยคัดแยกออกจากเหยื่อค้ามนุษย์


พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมประชุมกับสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNODC เพื่อจัดตั้ง Specialized Cyber Scam and Trafficking in Persons for Forced Criminality Taskforce

พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นการหารือเรื่องรายละเอียดที่ทางการไทยได้รวบรวมข้อมูลมาจากมาตรการปราบปรามกระบวนการคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์ ทั้งการตัดการจ่ายไฟ ระงับสัญญาณโทรศัพท์-อินเทอร์เน็ต และงดจ่ายน้ำมันตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านเพื่อกำหนดแนวทางในการทำงานร่วมกัน


ส่วนที่แก๊งอาชญากรมีการย้ายฐานการกระทำผิดจากจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ไปเมืองปอยเปต กัมพูชา ส่วนตัวยังคงมองว่ามาตรการ 7 ข้อ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังได้ผลในการปราบปราบการทำผิดรูปแบบดังกล่าว สิ่งที่ตำรวจทำคือใช้แผนนี้กับประเทศอื่นๆ ต่อ

ในการแก้ไขปัญหาการแก๊งคอลเซ็นเตอร์สิ่งหนึ่งที่ตำรวจไทยพบ คือประเทศเพื่อนบ้านล้วนใช้ทรัพยากรทั้งหมดจากประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต สัญญาณโทรศัพท์ และบัญชีธนาคารก็ใช้ของประเทศไทย อีกทั้งคนไทยจำนวนมากมีการไปทำงานฝั่งประเทศกัมพูชาและลาว ส่วนนี้ทำให้เรามองว่าเป็นมิติที่ทางการไทยต้องมุ่งระเบิดสะพานโจร ล้มปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งที่ประเทศเพื่อนบ้านใช้ทรัพยากรของไทย

เมื่อถามย้ำว่าเจ้าหน้าที่ใช้มาตรฐานอะไรในการคัดกรองคัดแยกระหว่างเหยื่อกับกลุ่มมิจฉาชีพ พล.ต.อ. ธัชชัย กล่าวว่า ปัจจุบันใช้แบบสอบถามและขั้นตอนของกลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism: NRM) รวมทั้งใช้มาตรการสืบสวนสอบสวนเข้ามาร่วมด้วย โดยใช้ฐานข้อมูลจากระบบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและข้อมูลจากแต่ละสถานทูตมาเชื่อมโยงกัน ขณะนี้ทางการจีนได้ให้ข้อมูลมาที่ไทยแล้วว่ากลุ่มคนที่ไปทำงานที่ฝั่งประเทศเมียนมา มีรายชื่อ 3,700 คน ที่เป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนในขบวนการค้ามนุษย์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์


ที่ผ่านมาจากการที่ตำรวจคัดกรองบุคคลเข้าพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เกือบ 100% เต็มใจที่จะเดินทางเข้าไปประเทศเพื่อนบ้านต่อ มีอยู่เพียง 2-3 รายเท่านั้น ที่แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ว่าถูกหลอกลวงมา ยืนยันได้ว่าบุคคลทั้งหมดทางการไทยไม่พบการบังคับขู่เข็ญ ส่วนนี้จึงเป็นข้อมูลที่เราสื่อสารกับทั่วโลกได้ว่าคนที่มาประเทศไทยไม่ได้ถูกประเทศไทยหลอก และตัวเลขเหล่านี้ยืนยันว่าเป็นการรวบรวมข้อมูลจากหลายหน่วย ไม่มีทางที่หน่วยระดับปฏิบัติการจะสร้างข้อมูลหลอก

เมื่อถามต่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวที่ตำรวจยืนยันว่าไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทยจะเป็นการฟอกขาวให้ข้าราชการในพื้นที่หรือไม่ พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกัน เพราะคนที่ถูกเข้ามาช่วยราชการยังไม่มีความผิด ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบ และขอยืนยันว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการว่าหากพบมีการกระทำความผิดเกิดขึ้นก็พร้อมดำเนินคดีกับทุกคน

ส่วนการที่มีคำสั่งย้ายข้าราชการตำรวจนั้นจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์และเมียวดี คอมเพล็กซ์ หรือไม่ ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบ เพื่อความโปร่งใส ส่วนที่นายตำรวจดังกล่าวต้องถูกตรวจสอบในช่วงนี้ เป็นเพราะอยู่ในช่วงสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ถึงแม้ว่าก่อนหน้าไม่ได้ทำ แต่หากพบว่าสถานการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้นก็จะมีการดำเนินการ

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายพล ต. มีกระแสข่าวว่ามีความเกี่ยวข้องกับเมียวดี คอมเพล็กซ์ จะถือว่าผิดจริยธรรมหรือไม่ พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า เรื่องนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบ

พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNODC นาน 1 ชั่วโมง ว่าผลการประชุมในวันนี้มีข้อสรุป 3 เรื่อง คือ 1.จะมีการนัดหมายกับตำรวจในประเทศต่างๆ มาประชุมร่วมกัน โดยเฉพาะประเทศที่มีผู้ตกเป็นเหยื่ออยู่ฝั่งเมียวดี เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน และเราต้องการความชัดเจนว่าปัญหาของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านหมดไปจริงๆ และไม่มีใครถูกหลอกมาอีก ดังนั้นมองว่าข้อมูลในการทำงานร่วมกับประเทศต่างๆ มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ส่วนเรื่องที่ 2 เป็นเรื่องของการคัดกรองกลไกส่งต่อระดับชาติ และในส่วนนี้ทาง UNODC จะเข้ามาร่วมเทรนนิ่งให้กับทางเรา เพราะเรื่องดังกล่าวอาจต้องใช้กำลังคน จำนวนมากซึ่ง UNODC จะร่วมซัพพอร์ตในส่วนนี้ด้วย ส่วนเรื่องที่ 3 ในการจัดหาล่ามนั้น เนื่องจากมีผู้ตกเป็นเหยื่อในหลายๆ ชาติ และเข้ามาจากหลายประเทศ จึงจำเป็นที่จะต้องมีล่าม ซึ่งทาง UNODC ก็จะช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน

ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.ธัชชัย เป็นประธานในการตรวจสอบนายพล ต. จะเป็นการทับซ้อนกับที่ บช.ก.ทำอยู่หรือไม่ พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นขั้นตอนตามกฎหมาย และน่าจะเป็นคนละส่วนไม่เกี่ยวกัน และไม่ทราบว่า บช.ก. ทำเรื่องอะไร คงจะเป็นคนละส่วนกันไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ในส่วนของจเรตำรวจฯ จะตรวจสอบในเรื่องของวินัย หลังจากนี้จะต้องดูว่านายพล ต. มีการทำธุรกิจฝั่งประเทศเพื่อนบ้านจริงหรือไม่ และทำธุรกิจอะไร และจะต้องดูในเรื่องของข้อกฎหมาย ว่าเข้าข่ายความผิดไหน และบทลงโทษเป็นอย่างไร

ส่วนกรณีที่ประเทศจีนส่งรายชื่อผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ 3,700 ราย ให้กับไทยนั้น พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า เบื้องต้นรายชื่อที่ได้มาเป็นลักษณะกลุ่มแก๊ง ส่วนจะมีความผิดตามหมายของอินเตอร์โพลหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูล แต่ทางการจีนให้ข้อมูลมาและระบุว่าคนร้ายกลุ่มนี้ ทำงานเป็นกลุ่มแก๊งอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และในปัจจุบันยังไม่มีรายงานว่าสามารถจับกุมได้แล้วหรือไม่ แต่ในขณะนี้สิ่งที่ต้องทำคือต้องตรวจสอบคนที่กลับมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมดว่าอยู่ในฐานข้อมูลที่มีหรือไม่

พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยอดส่งผู้ที่น่าจะเป็นเหยื่อกลับมาจากฝั่งของประเทศเพื่อนบ้านแล้ว 260 ราย โดยเป็นชาวฟิลิปปินส์ และชาวเคนยาที่มีเยอะที่สุด ส่วนการตั้งจุดคัดกรองเหยื่อนั้นจะมีการดำเนินการตั้งที่อำเภอแม่สอด ส่วนเรื่องที่ให้ต่างชาติเข้ามาช่วยเทรนนิ่งในการคัดกรองนั้น มองว่าเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าปริมาณคนที่จะเข้ามาแต่ละช่วงเวลาจะมีปริมาณเท่าไร การที่ได้รับความช่วยเหลือในส่วนนี้ก็ถือว่าเป็นส่วนที่ดี.-419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 9 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงาาน 10-15 ส.ค. ไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 10 – 15 ส.ค. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]