กทม. 10 ก.พ. – ครอบครัวเศร้า รับศพพ่อค้าแตงโม ถูกอริเผากลางลานจอดรถวัดดังย่านยานนาวา ด้านลูกชายขอให้ผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัว รับกรรมกับสิ่งที่ทำไว้
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 8 ก.พ. ภายในลานจอดรถวัดดังย่านยานนาวา พนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง ไปที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะสีขาว บรรทุกแตงโมถูกไฟไหม้ นอกจากนี้ ยังมีรถจักรยานยนต์ที่ได้รับความเสียหายอีก 1 คัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อ นายราเชน อายุ 53 ปี ถูกไฟไหม้ร่างเกือบ 80 % เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือก่อนนำส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายอรรคกร หรือเพลิน อายุ 46 ปี อดีตคนขับรถเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว ส่วนผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลวัดเช่นกัน ทั้งสองฝ่ายเคยมีเรื่องบาดหมางเรื่องชู้สาวกันมาประมาณ 1 เดือน ก่อนหน้านี้ ผู้ก่อเหตุได้เลิกรากับแฟนสาว จากนั้นมาทราบข่าวว่าฝ่ายหญิงกำลังศึกษาดูใจอยู่กับผู้ตายจึงเกิดการหึงหวง ก่อนเกิดเหตุผู้บาดเจ็บนำแตงโมมาขายในวัดตามปกติ และจอดรถอยู่ตรงจุดเกิดเหตุเป็นประจำ ขณะนั้นผู้ก่อเหตุเดินถือถุงใส่น้ำมันเข้ามาก่อนปาใส่ตัวผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วจุดไฟเผาในทันที ก่อนวิ่งหลบหนีไป
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2025/02/10/1487058/1739189659_813462-tnamcot-1024x569.jpg)
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ครอบครัวของนายราเชน ผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาเพื่อรับร่างของผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่อาคารนิติเวช รพ.จุฬาฯ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยญาติได้นำร่างไปประกอบพิธีที่ วัดดอกไม้ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา
นายเทวเดช อายุ 29 ปี ลูกชาย ของนายราเชน ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุ และผู้เสียชีวิต รู้จักกันมาสักพัก เนื่องจากทั้งคู่ เคยมาช่วยงานภายในวัดดอกไม้ แต่ไม่ทราบว่าทั้งคู่สนิทกันขนาดไหน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มั่นใจว่าเกิดจากอะไร ไม่น่าจะใช่เรื่องชู้สาว และไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัว ทั้งนี้พ่อเป็นเสาหลักของครอบครัวที่คอยดูแลลูกๆ ถึงแม้ว่าพ่อจะเลิกกับแม่ไปแล้ว อยากจะฝากถึงผู้ก่อเหตุให้ออกมามอบตัว และออกมารับกรรมที่ตัวเองทำไว้ และหากผู้ก่อเหตุ มากราบขอขมาหรือขอโทษก็จะไม่ให้อภัย และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ส่วนความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างการติดตามตัวนายอรรคกร ผู้ก่อเหตุอยู่ โดยแจ้ง 2 ข้อหาคือ วางเพลิงเผาทรัพย์ และฆ่าผู้อื่นอื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ขณะที่มีรายงานว่า ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปทางภาคอีสาน.-สำนักข่าวไทย