ตร.ไซเบอร์บุกรวบเครือข่ายพนันออนไลน์จีนเทา จับระดับรองบอส

กรุงเทพฯ 4 ก.พ. – ตำรวจไซเบอร์บุกรวบเครือข่ายพนันออนไลน์จีนเทา จับกุมระดับรองบอสชาวไต้หวัน พร้อมแอดมินกว่า 20 ราย ผู้ต้องหา 5 ราย พบเงินหมุนเวียนวันละ 1 ล้านบาท


ชุดจับกุมกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในซอยลาดพร้าว เขตวังทองหลาง กทม. โดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รรท.ผบก.สอท.3 และ พ.ต.ท.โรจน์ศักดิ์ นัยผ่องศรี รอง ผกก.บก.สอท.3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าทำการตรวจค้นทลายฐานเว็บพนันชาวไต้หวันรายใหญ่กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนวันละกว่า 1 ล้าน รวบชาวไต้หวันพร้อมแอดมินกว่า 20 ราย จับกุมผู้ต้องหา 5 ราย

พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีเยาวชนได้เข้ามาร้องเรียนกับทางตำรวจไซเบอร์ ว่าพบลิงค์เว็บพนัน sbfplay bet แฝงอยู่ในเว็บการ์ตูน โดยเว็บดังกล่าวมีการแปะลิงค์ไว้ให้เพื่อเข้าเล่นการพนัน ออนไลน์ สล็อต ยิงปลา กาสิโนสด กีฬา โป๊กเกอร์ และเกมต่างๆ เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์จึงทำการสืบสวนสอบสวน จนพบผู้กระทำผิดหลายราย และได้สืบสวนขยายผลตรวจสอบข้อมูลทางการเงินเบื้องต้น พบขบวนการดังกล่าวมีการเปิดเว็บไซต์ไม่ถึงปี แต่มียอดเงินหมุนเวียนวันละ 1 ล้านบาท


 นอกจากนี้เว็บไซต์ดังกล่าวยังมีชาวไต้หวันรายหนึ่งเป็นผู้รับผลประโยชน์โดยใช้วิธีการเขียนโปรแกรมหน้าเว็บไซต์แสดงเป็นเว็บไซต์รับซื้อขายภาพ NFT แต่เมื่อคลิกเข้าไปกลับพบข้อมูลหลังบ้านเป็นเว็บไซต์พนันออนไลน์ ชื่อเว็บไซต์ www.sbfplay.bet
 
 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งขบวนการได้ จำนวน 14 ราย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ตั้งแต่ผู้รับผลประโยชน์ลงมาจนถึงบัญชีม้า และได้ขออำนาจศาลออกหมายค้นพื้นที่เป้าหมายในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้จำนวน 4 จุด กระทั่งในวันที่ 4 ก.พ. ตำรวจไซเบอร์ได้ทำการตรวจค้นและสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งหมด 5 ราย เป็นชาวไต้หวัน 3 ราย ชาวไทยอีก 1 ราย และชาวเมียนมา 1 ราย ในข้อหา ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ และความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน โดยจับได้ที่จุดที่ 1 บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ซอยลาดพร้าว 88 เอกมัย ถ.รามอินทรา แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กทม. ซึ่งเป็นที่ตั้งของออฟฟิศ ได้เป็นชาวไต้หวันจำนวน 2 ราย ระดับรองบอส พร้อมตรวจยึดโทรศัพท์มือถือจำนวน 33 เครื่อง และบัญชีธนาคารทั้งไทยและต่างประเทศ

จุดที่ 2 บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านหรู ในซอยลาดพร้าว 112 เอกมัย แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. จับกุมนายธนกิจ อายุ 22 ปี พร้อมตรวจยึดรถยนต์, อุปกรณ์คอมพิวเตอร์, seed phrase และบัญชีธนาคารของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

จุดที่ 3 ห้องพักชั้น 3 ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 13 ถ.ประชาอุทิศ แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. ตรวจยึดซิมการ์ดโทรศัพท์ผู้ให้บริการของประเทศลาวและไทยกว่า 20 ซิม พร้อมธนบัตรเงินสกุลลาว เวียดนาม และไทย
 
จุดที่ 4 ห้องพักชั้น 4 ในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านรัชดา-ห้วยขวาง แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม. จับกุม MR.HSU YAO-YI สัญชาติไต้หวัน อายุ 51 ปี พร้อมตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ บัญชีธนาคาร บัตร ATM และหลักฐานสำคัญอื่นๆ


นอกจากนี้จากการสืบสวนขยายผลยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาหญิงชาวเมียนมาอีก 1 ราย ได้ที่ย่านห้วยขวางที่เป็นผู้รับเงินจากเว็บพนันดังกล่าว

เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ และอ้างว่าเป็นเพียงการขายภาพดิจิตอลเท่านั้น

นอกจากนี้จากการตรวจค้นในจุดแรกที่เป็นที่ตั้งออฟฟิศนั้น ยังพบแอดมินชาวไทยที่เดินทางมาจากชายแดนภาคใต้ อีกจำนวน 18 ราย ซึ่งถูกกันไว้ในฐานะพยาน โดยจากการสอบปากคำเบื้องต้น ยืนยันว่าทั้งหมดได้รับการว่าจ้างงาน ที่ถูกเชิญชวนให้สมัครงานผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยได้รับค่าจ้างวันละ 600 บาท ซึ่งมีการอ้างว่าให้มาเป็นพนักงานโอนเงินซื้อขายสินทรัพย์จำพวกภาพดิจิตอล แต่เมื่อมาถึงนายจ้างให้ไปเปิดบัญชีธนาคารคนละหนึ่งบัญชี พร้อมกับแจกโทรศัพท์หนึ่งเครื่อง เพื่อทำการผูกบัญชีธนาคารเข้ากับโทรศัพท์ เมื่อติดตั้งระบบธนาคารในโทรศัพท์แล้วเรียบร้อยก็จะได้รับคำสั่งในแต่ละวันให้รับและโอนเงินไปให้คนต่างๆ แต่จากการสืบสวนพบว่าบัญชีทั้งหมดเป็นบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ดังกล่าว ซึ่งจากกรณีนี้พบว่าแผนประทุษกรรมของเหล่าขบวนการเว็บพนันออนไลน์มีการเปลี่ยนรูปแบบ เนื่องจากตำรวจเข้มงวดกวดขันปราบปรามประกอบกับระยะนี้รัฐบาลมีนโยบาย ปิดบัญชีม้าจึงทำให้กลุ่มขบวนการดังกล่าว ต้องเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่มีการหาคนสมัครใจเปิดบัญชี เป็นหลอกให้มาทำงานและให้บัญชีม้า เพื่อให้ยากต่อการติดตามจับกุมมากขึ้น

เมื่อถามว่ามีหลายครั้งแล้วที่ ย่านรัชดา ห้วยขวางนั้นมีการจับกุมไม่ว่าจะเป็นแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์เว็บพนันออนไลน์ อาจจะเป็นเครือข่ายเดียวกันหรือไม่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า ตอบยากว่าจะเป็นขบวนการเดียวกันหรือไม่ เพราะนักท่องเที่ยวมาพักอยู่แถวรัชดาห้วยขวาง ตั้งใจมาเที่ยวประเทศไทยก็มี แต่กลุ่มเหล่านี้ก็แฝงตัวเข้ามาในประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว มาก่ออาชญากรรมในประเทศไทย แต่สิ่งที่ทำได้จะต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาผู้การกระทำความผิดและจะปราบปรามอย่างเด็ดขาดพร้อมขยายผลไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน

หลังจากนี้จะมีมาตรการอย่างไนหากประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่มีฟรีวีซ่า พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า ส่วนตัวมองว่ามาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับที่ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน เคยกล่าวไว้ว่า “เหมือนเราต้องเปิดประตูบ้าน หน้าต่างบ้าน เพื่อจะเปิดรับอากาศบริสุทธิ์” ประเทศไทยมีธุรกิจ คือการท่องเที่ยว และมีนักท่องเที่ยวที่ดีมากกว่า 90% แต่ก็เป็นธรรมดาเมื่อเปิดหน้าต่างยุงแมลงวันก็จะบินเข้ามา ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องทำหน้าที่เป็นมุ้งลวดที่ต้องคอยปราบปรามผู้ที่กระทำผิด.-415-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย

จับแล้ว! สีกากอล์ฟ เตรียมนำตัวเข้า บก.ปปป. ขยายผล

นนทบุรี 15 ก.ค. – จับแล้ว! สีกากอล์ฟ เตรียมนำตัวเข้า บก.ปปป. ขยายผลหาผู้เกี่ยวข้อง พร้อมตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำกำลังเข้าจับกุม สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ม.147, ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน, รับของโจร ภายในบ้านพักหมู่บ้านหรู ย่านนนทบุรี หลังพบเส้นทางการเงินของอดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โอนเงินเข้าบัญชีสีกากอล์ฟ 3.8 แสนบาท ซึ่งบัญชีโอนเข้าเป็นเงินบัญชีของวัดชูจิตธรรมาราม ขณะนี้ควบคุมตัวสีกากอล์ฟ เข้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ทำการสอบปากคำด้วยตัวเอง ทั้งนี้ มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน บก.ปปป. พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมขยายผลไปยังผู้ที่มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ โดยจะมีการตรวจสอบคลิปทุกคลิป […]

ยอมสึกแล้ว “เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร” เซ่นปมฉาวพัวพันสีกากอล์ฟ

15 ก.ค. – ยอมสึกแล้ว! พระเทพวัชรสิทธิเมธี เซ่นปมฉาวพัวพันสีกากอล์ฟ หลังมีแชตหลุดคุยหวานสีกา แถมย้ำอย่าให้ภาพหลุด ขณะที่เช้านี้ไร้เงาเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ล่าสุดมีหนังสือลาออกของพระเทพวัชรสิทธิเมธี จากการเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรและเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ส่วนสีกากอล์ฟ มีข่าวจะเข้าให้ปากคำกับ ปปป.เพิ่มอีก กรณีเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร หรือเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ยืนยันไม่สึก เพราะไม่เคยมีสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ แต่ไม่ทันข้ามวันมีแชตหลุดคุยหวานสีกากอล์ฟ แถมย้ำอย่าให้ภาพหลุด วันนี้นักข่าวไปที่วัด ปรากฏ “พระล่องหน” ส่วนสีกากอล์ฟมีข่าวจะเข้าให้ปากคำกับ ปปป. เพิ่มเติม เสียงการให้สัมภาษณ์ของ พระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง และเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ที่เมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) ออกมายืนยันยังทำกิจของสงฆ์ต่อเนื่อง รอพระผู้ใหญ่และตำรวจเรียกไปให้ปากคำ เพราะมั่นใจว่าสามารถตอบได้ทุกคำถามที่โยงไปถึงสีกากอล์ฟ มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่คิดสึกจากความเป็นพระ ปรากฏว่าช่วงบ่ายๆ มีแชตหลุดของพระเทพวัชรสิทธิเมธีหลุดออกมา ในแชตเป็นการคุยโต้ตอบกับสีกากอล์ฟ และท่านสวมใส่เสื้อยืด ไม่ใช่จีวรพระ โดยการพูดคุยเริ่มจากบอกว่า “ทำอะไรก็คิดถึงตลอด” แล้วตามมาด้วยข้อความว่า “ภาพนี้อย่าให้หลุดนะ เดี๋ยวเป็นเรื่อง” ส่วนสีกากอล์ฟก็ตอบไปคำเดียวว่า “ค่ะ” เช้านี้ไร้เงา “พระเทพวัชรสิทธิเมธี”วันนี้ (15 ก.ค.) นักข่าวไปหาพระเทพวัชรสิทธิเมธี […]

ศาลออกหมายจับ “ลูกก๊กอาน” พร้อมพวกรวม 6 คน ลุยค้น 7 จุด

15 ก.ค.- ศาลออกหมายจับ “ลูกสาว-ลูกชาย” ก๊กอาน พร้อมพวกรวม 6 คน ข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ก่อนลุยค้นพื้นที่เป้าหมาย 7 จุด ตำรวจไซเบอร์รวบรวมพยานหลักฐานคดีก๊กอาน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ พร้อมยื่นศาลออกหมายจับเครือข่ายก๊กอานเพิ่มอีก 6 คน ประกอบด้วย นางจุฬี หรือเชอร์รี่ นางสาวภูเฌหลิน นายกิตติศักดิ์ ซึ่งเป็นลูกสาวและลูกชายก๊กอาน และพวกรวม 6 คน ในฐานความผิดการมีส่วนร่วมในองค์อาชญากรรมข้ามชาติ และพบว่าบุคคลตามหมายจับมีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย รวมถึงมีการขอศาลออกหมายค้น 7 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลังศาลออกหมาย นอกจากนี้ ทางกรมปกครองอยู่ระหว่างตรวจสอบความผิดปกติบัตรประชาชนคนไทยของเชอรี่ หลังตำรวจตรวจสอบพบมีข้อมูลน่าสงสัยไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ – สำนักข่าวไทย