ตร.ไซเบอร์บุกรวบเครือข่ายพนันออนไลน์จีนเทา จับระดับรองบอส

กรุงเทพฯ 4 ก.พ. – ตำรวจไซเบอร์บุกรวบเครือข่ายพนันออนไลน์จีนเทา จับกุมระดับรองบอสชาวไต้หวัน พร้อมแอดมินกว่า 20 ราย ผู้ต้องหา 5 ราย พบเงินหมุนเวียนวันละ 1 ล้านบาท


ชุดจับกุมกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในซอยลาดพร้าว เขตวังทองหลาง กทม. โดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รรท.ผบก.สอท.3 และ พ.ต.ท.โรจน์ศักดิ์ นัยผ่องศรี รอง ผกก.บก.สอท.3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าทำการตรวจค้นทลายฐานเว็บพนันชาวไต้หวันรายใหญ่กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนวันละกว่า 1 ล้าน รวบชาวไต้หวันพร้อมแอดมินกว่า 20 ราย จับกุมผู้ต้องหา 5 ราย

พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีเยาวชนได้เข้ามาร้องเรียนกับทางตำรวจไซเบอร์ ว่าพบลิงค์เว็บพนัน sbfplay bet แฝงอยู่ในเว็บการ์ตูน โดยเว็บดังกล่าวมีการแปะลิงค์ไว้ให้เพื่อเข้าเล่นการพนัน ออนไลน์ สล็อต ยิงปลา กาสิโนสด กีฬา โป๊กเกอร์ และเกมต่างๆ เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์จึงทำการสืบสวนสอบสวน จนพบผู้กระทำผิดหลายราย และได้สืบสวนขยายผลตรวจสอบข้อมูลทางการเงินเบื้องต้น พบขบวนการดังกล่าวมีการเปิดเว็บไซต์ไม่ถึงปี แต่มียอดเงินหมุนเวียนวันละ 1 ล้านบาท


 นอกจากนี้เว็บไซต์ดังกล่าวยังมีชาวไต้หวันรายหนึ่งเป็นผู้รับผลประโยชน์โดยใช้วิธีการเขียนโปรแกรมหน้าเว็บไซต์แสดงเป็นเว็บไซต์รับซื้อขายภาพ NFT แต่เมื่อคลิกเข้าไปกลับพบข้อมูลหลังบ้านเป็นเว็บไซต์พนันออนไลน์ ชื่อเว็บไซต์ www.sbfplay.bet
 
 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งขบวนการได้ จำนวน 14 ราย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ตั้งแต่ผู้รับผลประโยชน์ลงมาจนถึงบัญชีม้า และได้ขออำนาจศาลออกหมายค้นพื้นที่เป้าหมายในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้จำนวน 4 จุด กระทั่งในวันที่ 4 ก.พ. ตำรวจไซเบอร์ได้ทำการตรวจค้นและสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งหมด 5 ราย เป็นชาวไต้หวัน 3 ราย ชาวไทยอีก 1 ราย และชาวเมียนมา 1 ราย ในข้อหา ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ และความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน โดยจับได้ที่จุดที่ 1 บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ซอยลาดพร้าว 88 เอกมัย ถ.รามอินทรา แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กทม. ซึ่งเป็นที่ตั้งของออฟฟิศ ได้เป็นชาวไต้หวันจำนวน 2 ราย ระดับรองบอส พร้อมตรวจยึดโทรศัพท์มือถือจำนวน 33 เครื่อง และบัญชีธนาคารทั้งไทยและต่างประเทศ

จุดที่ 2 บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านหรู ในซอยลาดพร้าว 112 เอกมัย แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. จับกุมนายธนกิจ อายุ 22 ปี พร้อมตรวจยึดรถยนต์, อุปกรณ์คอมพิวเตอร์, seed phrase และบัญชีธนาคารของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

จุดที่ 3 ห้องพักชั้น 3 ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 13 ถ.ประชาอุทิศ แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. ตรวจยึดซิมการ์ดโทรศัพท์ผู้ให้บริการของประเทศลาวและไทยกว่า 20 ซิม พร้อมธนบัตรเงินสกุลลาว เวียดนาม และไทย
 
จุดที่ 4 ห้องพักชั้น 4 ในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านรัชดา-ห้วยขวาง แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม. จับกุม MR.HSU YAO-YI สัญชาติไต้หวัน อายุ 51 ปี พร้อมตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ บัญชีธนาคาร บัตร ATM และหลักฐานสำคัญอื่นๆ


นอกจากนี้จากการสืบสวนขยายผลยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาหญิงชาวเมียนมาอีก 1 ราย ได้ที่ย่านห้วยขวางที่เป็นผู้รับเงินจากเว็บพนันดังกล่าว

เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ และอ้างว่าเป็นเพียงการขายภาพดิจิตอลเท่านั้น

นอกจากนี้จากการตรวจค้นในจุดแรกที่เป็นที่ตั้งออฟฟิศนั้น ยังพบแอดมินชาวไทยที่เดินทางมาจากชายแดนภาคใต้ อีกจำนวน 18 ราย ซึ่งถูกกันไว้ในฐานะพยาน โดยจากการสอบปากคำเบื้องต้น ยืนยันว่าทั้งหมดได้รับการว่าจ้างงาน ที่ถูกเชิญชวนให้สมัครงานผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยได้รับค่าจ้างวันละ 600 บาท ซึ่งมีการอ้างว่าให้มาเป็นพนักงานโอนเงินซื้อขายสินทรัพย์จำพวกภาพดิจิตอล แต่เมื่อมาถึงนายจ้างให้ไปเปิดบัญชีธนาคารคนละหนึ่งบัญชี พร้อมกับแจกโทรศัพท์หนึ่งเครื่อง เพื่อทำการผูกบัญชีธนาคารเข้ากับโทรศัพท์ เมื่อติดตั้งระบบธนาคารในโทรศัพท์แล้วเรียบร้อยก็จะได้รับคำสั่งในแต่ละวันให้รับและโอนเงินไปให้คนต่างๆ แต่จากการสืบสวนพบว่าบัญชีทั้งหมดเป็นบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ดังกล่าว ซึ่งจากกรณีนี้พบว่าแผนประทุษกรรมของเหล่าขบวนการเว็บพนันออนไลน์มีการเปลี่ยนรูปแบบ เนื่องจากตำรวจเข้มงวดกวดขันปราบปรามประกอบกับระยะนี้รัฐบาลมีนโยบาย ปิดบัญชีม้าจึงทำให้กลุ่มขบวนการดังกล่าว ต้องเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่มีการหาคนสมัครใจเปิดบัญชี เป็นหลอกให้มาทำงานและให้บัญชีม้า เพื่อให้ยากต่อการติดตามจับกุมมากขึ้น

เมื่อถามว่ามีหลายครั้งแล้วที่ ย่านรัชดา ห้วยขวางนั้นมีการจับกุมไม่ว่าจะเป็นแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์เว็บพนันออนไลน์ อาจจะเป็นเครือข่ายเดียวกันหรือไม่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า ตอบยากว่าจะเป็นขบวนการเดียวกันหรือไม่ เพราะนักท่องเที่ยวมาพักอยู่แถวรัชดาห้วยขวาง ตั้งใจมาเที่ยวประเทศไทยก็มี แต่กลุ่มเหล่านี้ก็แฝงตัวเข้ามาในประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว มาก่ออาชญากรรมในประเทศไทย แต่สิ่งที่ทำได้จะต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาผู้การกระทำความผิดและจะปราบปรามอย่างเด็ดขาดพร้อมขยายผลไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน

หลังจากนี้จะมีมาตรการอย่างไนหากประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่มีฟรีวีซ่า พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า ส่วนตัวมองว่ามาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับที่ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน เคยกล่าวไว้ว่า “เหมือนเราต้องเปิดประตูบ้าน หน้าต่างบ้าน เพื่อจะเปิดรับอากาศบริสุทธิ์” ประเทศไทยมีธุรกิจ คือการท่องเที่ยว และมีนักท่องเที่ยวที่ดีมากกว่า 90% แต่ก็เป็นธรรมดาเมื่อเปิดหน้าต่างยุงแมลงวันก็จะบินเข้ามา ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องทำหน้าที่เป็นมุ้งลวดที่ต้องคอยปราบปรามผู้ที่กระทำผิด.-415-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

งานบอล “ธรรมศาสตร์-จุฬาฯ” ครั้งที่ 75 ล้อการเมืองจัดเต็ม

ฟุตบอลประเพณี “ธรรมศาสตร์-จุฬาฯ” ครั้งที่ 75 เริ่มแล้ว ล้อการเมืองจัดเต็ม หลังอัดอั้นมา 5 ปี เหน็บ “รักวัวให้ผูก รักลูกให้เป็นรัฐมนตรี” หุ่น “พิธา-ทักษิณ” วิวาห์ล่ม ปล่อยประชาชนลอยแพ จำลอง “แก้รัฐธรรมนูญ” ถามแก้ชาติไหน บอกกูที

ไฟไหม้บ้านอาจารย์ ม.ดัง ภรรยาวัย 69 ดับสลด

ระทึกกลางดึก! ไฟไหม้บ้านอาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดัง ภรรยาวัย 69 ปี หนีไม่ทัน ดับสลด คาดต้นเพลิงเกิดจากแบตเตอรี่รถจักรยานไฟฟ้าระเบิด

ระทึก! แผงเหล็กเวทีถล่ม ขณะ “ซาบีดา” เปิดงานที่ยโสธร

ระทึก! แผงเหล็กเวทีถล่ม ขณะ “ซาบีดา” เปิดงานที่ จ.ยโสธร เจ้าตัวบาดเจ็บเล็กน้อย โชว์สปิริตเปิดงานต่อ ด้าน สส.ยโสธร ภท. เจ็บหนัก กระดูกสันหลังแตก

ข่าวแนะนำ

หุ้นAOT

AOT แจ้ง ตลท.ข้อมูล คิงเพาเวอร์ แต่หุ้นยังดิ่งแรง

AOT ชี้แจงข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องคิงเพาเวอร์ แต่หุ้นยังดิ่งแรง ยืนยันไม่ได้ทำการแก้ไขสัญญาสัมปทาน โดยราคาหุ้น AOT ร่วงลงไปแตะจุดต่ำสุด 41.50 บาทในช่วงเช้าวันนี้

ครม.สัญจรสงขลา

“แพทองธาร” นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สงขลา ก่อนประชุม ครม.สัญจร

“แพทองธาร” นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สงขลา ติดตามการบริหารจัดการน้ำ รับฟังปัญหาการผลิตและส่งออกอาหารทะเล พร้อมผลักดันการท่องเที่ยวเมืองเก่า ก่อนประชุม ครม.สัญจร พรุ่งนี้

รมต.จีนเข้าเมียวดี

“ภูมิธรรม” แจง “หลิว จงอี” เข้าเมียวดี เป็นข้อตกลงร่วม 3 ประเทศ

“ภูมิธรรม” เผย “หลิว จงอี” เข้าเมียวดีจัดการแก๊งคอลฯ ประสานผ่านรัฐบาลไทยแล้ว ย้ำเป็นข้อตกลงร่วม 3 ประเทศแบ่งหน้าที่กันทำ ระบุการส่งตัวหลังจากนี้ให้เมียนมารับผิดชอบ ไทยพร้อมสนับสนุนหากร้องขอ ยันหมายจับ “หม่อง ชิตตู” ดีเอสไอยังไปต่อ แม้จะช่วยปราบคอลเซ็นเตอร์