ตำรวจสอบสวนกลางรวบ 12 เภสัชเถื่อน ลุยจัดระเบียบร้านขายยาทั่วกรุงฯ

บช.ก. 29 ม.ค. – พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รักษาราชการแทนผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (รรท.ผบก.ปคบ.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลกรณีระดมตรวจค้นร้านขายยาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จับกุมผู้ต้องหาที่ไม่ใช่เภสัชกร 12 ราย พร้อมยึดของกลางที่เกี่ยวข้อง จำนวน 26 รายการ


สืบเนื่องจากตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ให้ตรวจสอบร้านขายยากลุ่มเสี่ยงที่มีพฤติการณ์ใช้พนักงานขายยาที่ไม่ใช่เภสัชกร จำหน่ายยาให้ประชาชนทั่วไป ซึ่งร้านขายยานั้น จะต้องมีเภสัชกรประจำเพื่อแนะนำข้อมูล สรรพคุณ ปริมาณ และวิธีการใช้ยาแก่ประชาชนก่อนตัดสินใจเลือกซื้อยาไปรับประทานเพื่อรักษาโรค ซึ่งหากบริโภคผิดวิธี หรือในกรณีผู้ที่แพ้ยาบางประเภท อาจไม่ได้ผลการรักษาตามที่คาดหวัง หรือก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ จึงเป็นที่มาในการจัดระเบียบร้านขายยาในครั้งนี้

โดยในห้วงวันที่ 1 มกราคม 2568 – 24 มกราคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้เข้าตรวจสอบร้านขายยา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 12 จุด พร้อมตรวจยึดยาอันตราย ยาขึ้นทะเบียนตำรับยา และพยานหลักฐานอื่นๆ จำนวน 26 รายการ โดยร้านขายยาทั้งหมดได้รับอนุญาตถูกต้อง แต่ไม่มีเภสัชกรประจำอยู่ โดยผู้ที่ขายยาไม่ใช่เภสัชกร พร้อมจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งไม่ใช่เภสัชกรและไม่มีความรู้ด้านเภสัชกรรม จำนวน 12 ราย โดยผู้ต้องหาจบการศึกษาระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 5 ราย ประกาศนีบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) จำนวน 2 ราย และปริญญาตรี จำนวน 5 ราย


ทั้งนี้ ได้แจ้งข้อหา “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมฯ โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต และในกรณีบางรายที่จำหน่ายยาอันตรายจะมีความผิดเพิ่มเติม ฐาน “ขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่” โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับว่า รับจ้างเป็นพนักงานขายยาภายในร้านขายยาซึ่งอยู่ประจำร้านทุกวัน และจะมีเภสัชกรเข้ามาดูแลร้านเพียงเดือนละ 1-4 ครั้ง โดยได้รับค่าจ้างเดือนละ 12,000 – 30,000 บาท

พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ กล่าวว่า ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้มีมาตรการเฝ้าระวัง ตรวจสอบร้านขายยากลุ่มเสี่ยง ที่มีการจำหน่ายยาให้ลูกค้าโดยไม่มีเภสัชกรประจำอยู่ ซึ่งยานั้นเป็นสิ่งที่ใช้รักษาโรค หรือบรรเทาอาการเจ็บป่วย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้อย่างถูกวิธีและได้รับคำแนะนำในการใช้อย่างละเอียด จากผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม โดยเฉพาะยาอันตรายและยาควบคุมพิเศษซึ่งจะต้องใช้อย่างระมัดระวังตามใบสั่งของแพทย์ เท่านั้น หากประชาชนพบเห็นร้านขายยาใดมีพฤติกรรมในการใช้พนักงานขายยาที่ไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมหรือการกระทำความผิดกฎหมายในลักษณะอื่นใดสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ปคบ.1135 หรือ เพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภคได้ตลอดเวลา

ด้าน พ.ต.อ.วีระพงษ์ กล่าวว่า ตำรวจ บก.ปคบ. ยังได้รับเบาะแสจากประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครว่ามีเภสัชกรเถื่อนตามร้านขายยา จนสามารถติดตามและจับกุมเภสัชกรเถื่อนได้จำนวน 12 ราย จากการสืบสวนสอบสวนพบว่าทั้ง 12 ราย เป็นเพียงลูกจ้างตามร้านขายยาต่างๆ เท่านั้น โดยส่วนมากร้านขายยามีการเปิดแบบถูกต้องตามกฎหมาย


นพ.วิทิต กล่าวว่า หากประชาชนกังวลว่าจะซื้อยาจากเภสัชกรจริง หรือไม่นั้นให้สังเกตจาก ป้ายชื่อ โดยในป้ายดังกล่าวจะมีชื่อของเภสัชกรคนนั้นๆ และจะมีรูปภาพ เมื่อเข้าไปในร้านก็ให้สังเกตว่ารูปกับคนที่ขายยาให้นั้นตรงกันหรือไม่

การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม

  1. พระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ.2537 มาตรา 28 ฐาน “เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมทำการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าว โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  2. ความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ฐาน “ขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่” ระวางโทษปรับ 1,000-5,000 บาท
  3. สำหรับผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ(เภสัชกร) มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ฐาน “ไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาทำการ รวมถึงไม่ควบคุมการขายยา ควบคุมการส่งมอบยา อันตราย และควบคุมการทำบัญชีซื้อและขายยาตามที่กำหนดในกฎกระทรวง” ระวางโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 5,000 บาท. -419-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชาห้ามผัก-ผลไม้ไทยผ่านช่องจอมวันแรก

สุรินทร์ 18 มิ.ย. – จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ วันนี้ กัมพูชาตรวจเข้มไม่ให้ผัก-ผลไม้ไทยเล็ดลอดแม้แต่ชิ้นเดียว ทำให้พ่อค้าแม่ค้าเดือดร้อนอย่างหนัก วอนทางการไทยตอบโต้สินค้าจากกัมพูชาที่เข้ามาโกยเงินคนไทยบ้าง เวลา 08.00 น. ได้เวลาเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ในฝั่งไทย ในห้วงสถานการณ์ชายแดนตึงเครียดที่ลดเหลือ 3 วันต่อสัปดาห์ คือ วันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ ชาวกัมพูชาต่างเข้าแถวรอข้ามแดน พร้อมกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ไปรอรับส่งชาวกัมพูชาเที่ยวละ 20 บาท ที่เห็นต่อแถวยาวเหยียด เข้าคิวรอตั้งแต่เมื่อวานคือ รถบรรทุกที่จะเข้าไปซื้อมันสำปะหลังในฝั่งกัมพูชา คนกัมพูชาที่กลับประเทศวันนี้มีทั้งกลุ่มคนที่เข้าๆ ออกๆ ไปทำธุระส่วนตัวเล็กน้อย และกลุ่มที่กลับไปตั้งหลักรอดูสถานการณ์ จึงเห็นสัมภาระจำพวกเครื่องใช้ส่วนตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่เน้นตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมายและจำพวกอุปกรณ์ก่อสร้างที่ห้ามนำออกราชอาณาจักรไทย แม้แต่ไฟโซลาร์เซลล์ก็ถูกยึดไว้ เมื่อผ่านจุดตรวจเพื่อความมั่นคงชายแดนของกองกำลังสุรนารีได้แล้ว อีกจุดคือด่านตรวจคนเข้าเมือง ได้เวลา 09.00 น. ประตูฝั่งกัมพูชาจึงจะเปิด ซึ่งพบว่ามีการตรวจเข้มตามนโยบายกดดันทางการไทย โดยประกาศชัดว่าจะไม่ให้นำผักผลไม้เข้าไปแม้แต่ชิ้นเดียว กรรมกรชาวกัมพูชาคนนี้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ แวะซื้อเงาะและลองกองที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ไม่ทราบว่าทางการกัมพูชาจะเข้มงวดถึงขั้นห้ามนำไปกินในครอบครัว วันนี้ (18 […]

คุมเข้มด่านชายแดน ยอดคนไทยข้ามไปปอยเปตลดฮวบ

สระแก้ว 18 มิ.ย. – วันที่ 2 ของมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดบริเวณด่านชายแดน หลังกองกำลังบูรพาห้ามคนไทยที่เป็นพนักงานบ่อนกาสิโนข้ามไปทำงานฝั่งปอยเปต ทำให้ยอดคนไทยลดฮวบ ปกติแล้วพื้นที่นี้จะเต็มไปด้วยคนไทยที่มานั่งต่อแถวเพื่อข้ามไปฝั่งปอยเปรต กัมพูชา ซึ่งจะมีทั้งคนที่ข้ามไปทำงานในบ่อนกาสิโนในสถานบันเทิง และคนไทยที่ต้องการไปเล่นการพนัน ยาวล้นไปจนเลยแนวหลังคา พูดง่ายๆ ว่าคนนั่งต่อแถวกันยาวมากกว่า 2 กิโลเมตร แต่หลังจากกองกำลังบูรพามีคำสั่งและให้มีผลตั้งแต่ 08.00 น. เมื่อวานนี้ (17 มิ.ย.) ในการรักษาความปลอดภัย สูงสุดของคนไทยที่จะข้ามแดนไปยังกัมพูชา คือเพิ่มความเข้มงวดอย่างยิ่งยวด คนไทยที่เป็นพนักงานทุกประเภทของกาสิโนและสถานบันเทิงทุกชนิดในปอยเปต ออกนอกราชอาณาจักร ทุกจุดผ่านแดนใน จ.สระแก้ว ทำให้ยอดคนไทยที่จะข้ามไปยังฝั่งปอยเปตรถฮวบลงทันที จากเดิมมียอดออกไปวันละ 4,000-5,000 คน เมื่อวานเป็นความบังเอิญที่มีตัวเลขออกไปโดยบอร์ดและพาสปอร์ตเท่ากันคืออย่างละ 196 คน หรือรวม 392 คนเท่านั้น คนที่จะข้ามไปในวันนี้ถ้าสังเกตให้ดีจะมีบางส่วนเป็นคนลาวที่มีรายงานว่าส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่เดินทางมาจาก จ.จันทบุรี เนื่องจากที่ด่านจันทบุรีปิดก็ จึงเดินทางมาที่นี่เพื่อออกไปประทับหนังสือเดินทางและประทับกลับเข้ามาใหม่ เพราะจะมีผลให้สามารถอยู่ต่อได้อีก 60 วัน โดยแรงงานพวกนี้เป็นแรงงานที่อยู่ระหว่างรอทำเอ็มโอยูนั่นเอง สำหรับคนไทยที่มีความจำเป็นต้องข้ามไปฝั่งปอยเปตจริงๆ ถ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับบ่อนหรือกาสิโน อย่างเช่นครอบครัวนี้มีหลักฐานการเช่าอาคารและคนในครอบครัวที่ทำธุรกิจอยู่ในฝั่งปอยเปต เจ้าหน้าที่ก็อนุญาตให้ข้ามไปได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม เสียงสะท้อนจากคนไทยที่ทำงานในบ่อนกาสิโนที่ระบุว่าหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้และไม่สามารถเดินทางข้ามไปยังฝั่งปอยเปตได้จะต้องได้รับผลกระทบ […]

กต.ขอคนไทยในอิสราเอล-อิหร่าน “ออกจากพื้นที่” ทันทีที่ปลอดภัย

กระทรวงการต่างประเทศ 18 มิ.ย.- รมว.กต.ขอคนไทยในอิสราเอล-อิหร่าน “ออกจากพื้นที่” ทันทีที่ปลอดภัย สอท.เตหะรานเปิดศูนย์พักพิงรองรับแล้ว ยืนยันหากสถานการณ์ยกระดับพร้อมพิจารณาอพยพออกประเทศ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอล-อิหร่านว่า ตนได้ให้กระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตในอิสราเอล และอิหร่าน ติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอล-อิหร่านอย่างใกล้ชิด และรายงานพัฒนาการในพื้นที่ให้ทราบอย่างต่อเนื่องและทันต่อสถานการณ์ โดยตนได้รับรายงานว่า สถานการณ์มีแน้วโน้มจะรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนมากขึ้น ซึ่งประเทศอื่น ๆ เช่น สหรัฐฯ และจีนได้ประกาศให้ประชาชนของตน “เดินทางออกนอกพื้นที่” ตั้งแต่เมื่อวาน (17 มิ.ย.) แล้ว นายมาริษ ยังขอให้พี่น้องคนไทยในอิสราเอล และอิหร่านพิจารณาเร่งเดินทางออกจากพื้นที่ในทันทีที่สามารถกระทำได้อย่างปลอดภัย โดยสามารถติดต่อสถานทูตในอิสราเอลและอิหร่านได้ที่: : สายด่วนสถานทูต ณ กรุงเทลอาลีฟหมายเลข +972 546 368150 และ +972 503 673195 : สายด่วนสถานทูต ณ กรุงเตหะรานหมายเลข +98 912 159 5699 และ […]

“อนุทิน” ปัดตกข้อเสนอ​เพื่อไทย​ ปล่อยเก้าอี้​ “มท. 1”

กทม.18 มิ.ย. – ​ไม่ต้องรอ​ 48​ ชม.​ “อนุทิน” ยืนกรานไม่รับข้อเสนอ​เพื่อไทย​ ปล่อยเก้าอี้​ มท. 1 ขณะที่ “หมอมิ้ง” ได้รับคำตอบยกหู หา “ทักษิณ” ทันที เริ่ม Kick Off ปรับครม. คาดได้ “ครม.แพทองธาร 2” ภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการปรับคณะรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ ​นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีไปพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่กระทรวงมหาดไทย เวลา16.00 น.​ เพื่อเจรจาและเพิ่มโควตา จาก 1 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พ่วงรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอีก 1 ตำแหน่ง แต่นายอนุทิน ตอบปฏิเสธทันทีอย่างชัดเจน ว่า​ ไม่รับเงื่อนไขดังกล่าว ก่อนที่จะมีกระแสข่าวออกมาว่า พรรคเพื่อไทย ขีดเส้นตาย 48 ชั่วโมง […]