เปิดปฏิบัติการ “ทวงคืนฟ้าใส” บุกจับโรงงานเผาถ่านเถื่อน 4 จุด

สุพรรณบุรี 29 ม.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ “ทวงคืนฟ้าใส” บุกจับโรงงานเผาถ่านเถื่อน 4 จุด ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี


ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผกก.5 บก.ปทส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. ได้ร่วมกันจับกุมนายสมควร อายุ 39 ปี, น.ส.ตรีรัก อายุ 33 ปี, นายภาณุวัฒน์ อายุ 44 ปี และนายบุญเลิศ อายุ 62 ปี ในข้อหาประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต และกระทำใดๆ อันเป็นเหตุให้เกิดกลิ่น แสง รังสี เสียง ความร้อน สิ่งมีพิษ ความสั่นสะเทือน ฝุ่น ละออง เขม่า เถ้า หรือกรณีอื่นใด จนเป็นเหตุให้เสื่อมหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข 2535 โดยได้ตรวจค้น โรงเผาถ่านภายใน ต.บางเลน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5.บก.ปทส. สืบทราบว่า พื้นที่ใน ต.บางเลน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี มีการลักลอบเปิดเป็นโรงเผาถ่านโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงไม่มีมาตรการควบคุมหรือป้องกันมลพิษทางอากาศที่เกิดจากการเผาถ่านที่ถูกต้อง ก่อให้เกิดฝุ่นควันขึ้นเป็นจำนวนมากและเป็นสาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดฝุ่น PM2.5 จึงได้ร่วมกับอุตสาหกรรมจังหวัดสุพรรณบุรีและองค์การบริหารส่วนตำบลบางเลนและ ฝ่ายปกครองอำเภอสองพี่น้อง นำหมายค้นจากศาลจังหวัดสุพรรณบุรี เข้าตรวจค้น จำนวน 4 จุด ในพื้นที่ ม.5 ต.บางเลน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี จุดที่เข้าตรวจค้นเป็นโรงเผาถ่านจริง ตั้งอยู่ใกล้ชุมชนซึ่งขณะเผานั้นได้ก่อกำเนิดฝุ่นควันและส่งกลิ่นเหม็นเป็นจำนวนมาก


ผลการตรวจค้นพบว่า โรงเผาถ่านดังกล่าวทุกจุดไม่มีการขออนุญาตแต่อย่างใด ซึ่งดำเนินการมาแล้ว ประมาณ 5-10 ปี โดยจุดที่ 1 มีนายสมควรรับเป็นเจ้าของ มีเตาเผา จำนวน 4 เตา จุดที่ 2 มี น.ส.ตรีรัก รับเป็นเจ้าของ มีเตาเผา จำนวน 6 เตา จุดที่ 3 มีนายภาณุวัฒน์ รับเป็นเจ้าของ มีเตาเผา จำนวน 4 เตา และจุดที่ 4 มีนายบุญเลิศ รับเป็นเจ้าของ มีเตาเผา จำนวน 6 เตา รวมตรวจค้น จำนวน 4 จุด มีเตาเผารวมทั้งหมด 20 เตา ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกันทั้งหมด ตรวจสอบกับทาง อบต.บางเลน แล้วว่าการเผาถ่านของเจ้าของกิจการ ไม่มีการขออนุญาต และก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านโดยรอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเชิญตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้ทาง อบต.บางเลน เพื่อดำเนินการปรับเป็นพินัยกับผู้ต้องหาทั้งหมดต่อไป

​สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งทางผู้ประกอบการรับว่าในช่วงนี้จะยังไม่ลักลอบเผาอีก และจะไปปรึกษากับทาง อบต.ว่าจะมีวิธีการใดบ้างในการทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย

​การเผาก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ เช่น เขม่าควัน ฝุ่นละออง สารอินทรีย์ชนิดต่างๆ ที่สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพและเหตุรำคาญจากควันและกลิ่นเผาไหม้ และเป็นสาเหตุหลักของการเกิดฝุ่น PM2.5. -419- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย