สตช. เตรียมพร้อมดูแลประชาชนช่วงเทศกาลตรุษจีน 2568

กทม. 26 ม.ค.-สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมพร้อมมาตรการเข้มดูแลประชาชนช่วงเทศกาลตรุษจีน 2568 ทั้งวันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว แนะประชาชนระมัดระวังป้องกันอัคคีภัย และระวังภัยออนไลน์ “อั่งเปาทิพย์”

วันนี้ (26 มกราคม 2568) พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร รองผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองสารนิเทศ (รอง ผบก.สปพ.รรท.ผบก.สท.) เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 27-29 มกราคม 2568 เป็นเทศกาลตรุษจีนประจำปี 2568 โดยพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนจะออกมาจับจ่ายซื้อของ เพื่อทำพิธีไหว้บรรพบุรุษ รวมทั้งเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวเฉลิมฉลองเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพตลอดห้วงเทศกาลตรุษจีน ทั้งวันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงกำชับให้หน่วยปฏิบัติดำเนินการตามมาตรการป้องกันปราบปรามอย่างเคร่งครัด


พล.ต.อ.ประจวบฯ สั่งการไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล, ตำรวจภูธรภาค 1-9, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เพิ่มความเข้มงวด โดยเน้นการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจบริเวณที่มีประชาชนเดินทางไปจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่นำไปประกอบพิธีไหว้บรรพบุรุษ รวมทั้งเฝ้าระวังการป้องกันเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์ ธนาคาร ร้านทอง ร้านอัญมณี ร้านสะดวกซื้อ โรงทาน รวมทั้งเฝ้าระวังการเกิดเหตุเพลิงไหม้ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ตามแผนเผชิญเหตุ และเน้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจตามสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม หรือในย่านที่เป็นที่พักอาศัยของคนไทยเชื้อสายจีนที่เดินทางไปท่องเที่ยว รวมทั้งป้องกันการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ หรือการลักทรัพย์ในเคหะสถาน

พร้อมกันนี้สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเอกสารการเดินทาง ผ่านเข้า-ออกราชอาณาจักร, ให้กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเพิ่มความเข้มงวดในการกวาดล้างจับกุมผู้ค้ายาเสพติด และขบวนการลำเลียงยาเสพติดที่ฉวยโอกาสในห้วงเวลาดังกล่าว ลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาตามแนวชายแดนเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ เพื่อส่งต่อไปยังลูกค้ารายย่อยตามภูมิภาคต่าง ๆ หรือลักลอบลำเลียงส่งผ่านต่อไปยังประเทศที่สามและผู้ค้ารายย่อย อย่างต่อเนื่องจริงจัง โดยให้กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนร่วมปฏิบัติ รวมทั้งให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ดำเนินการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทศโนโลยีทุกกลุ่มคดีความผิด


นอกจากนี้ พ.ต.อ.วรศักดิ์ กล่าวว่า ในเทศกาลตรุษจีนนี้ขอให้พี่น้องประชาชนโปรดระมัดระวังป้องกันอัคคีภัยจากการจุดธูปเทียนไว้บรรพบุรุษ ไหว้เจ้า การเผากระดาษเงินกระดาษทองต้องมีภาชนะที่ไม่ติดไฟและแข็งแรงรับรอง ต้องดูให้ไฟดับสนิท การจุดประทัดต้องจุดในที่โล่ง และก่อนออกจากบ้านต้องตรวจสอบปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้าและถอดปลั๊กออกทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน รวมทั้งระมัดระวังไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพออนไลน์ ที่อาจมาหลอกลวงพี่น้องประชาชนในรูปแบบ “อั่งเปาทิพย์” ส่ง SMS แนบลิงก์เชิญชวนให้รับโชค ซึ่งเป็นลิงก์อันตรายหลอกติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงิน หรือหลอกขอข้อมูลส่วนตัว

ทั้งนี้ หากต้องการขอความช่วยเหลือหรือแจ้งเหตุ สามารถแจ้งได้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หรือสายด่วน 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-416.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ที่ทำการพรรคเพื่อไทยแห่งใหม่

ทำบุญเปิดที่ทำการพรรคเพื่อไทยแห่งใหม่

“แพทองธาร” ควง “ทักษิณ” ทำบุญเปิดที่ทำการพรรคเพื่อไทยแห่งใหม่ รมต.-แกนนำ-สส. พรรคเข้าร่วมพร้อมเพรียง ด้าน “ไชยชนก ชิดชอบ” เลขาธิการ ภท. มอบกระเช้าแสดงความยินดี

ชายฉกรรจ์ดักรุมทำร้ายหมอเจ้าของคลินิกเวชกรรม ย่านสีลม

ายฉกรรจ์ดักรุมทำร้ายหมอ หน้าคลินิกเวชกรรม ย่านธุรกิจสีลม จนเลือดอาบ เบื้องต้นไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร

ข่าวแนะนำ

ระทึก! ปิดล้อมก่อนปะทะ แนวร่วมดับ 4 ที่ยะลา คาดเตรียมก่อเหตุใหญ่

เหตุปิดล้อมปะทะกลุ่มคนร้าย ที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ยืนยันมีคนร้ายเสียชีวิต 4 ราย คาดเตรียมก่อเหตุใหญ่ในพื้นที่

ออกหมายจับ 2 ชายฉกรรจ์รุมทำร้ายหมอเจ้าของคลินิกเวชกรรม

ศาลอนุมัติหมายจับ 2 ชายฉกรรจ์รุมทำร้ายนายแพทย์ เจ้าของคลินิกเวชกรรม ย่านสีลม ด้านผู้เสียหายเชื่อมีคนบงการ เพราะมีการวางแผนเป็นระบบ ส่วนอาการบาดเจ็บดีขึ้นแล้ว

ญาติร้องสื่อ หนุ่ม ปวส.ฝึกงานที่ญี่ปุ่น ดับปริศนา

น้าสาวร้องสื่อ หลานชายจบ ปวส. ฝึกงานที่ญี่ปุ่น หายตัวปริศนา 1 เดือน สุดท้ายกลายเป็นศพ วอนช่วยประสานนำร่างกลับไทย เชื่อถูกฆาตกรรม เผยร้องหลายหน่วยงานนานนับเดือน แต่ไร้ความช่วยเหลือ

กดเงินหมื่น

ผู้สูงอายุชาวเชียงใหม่ฝ่าลมหนาวกดเงินหมื่นคึกคัก

เช้านี้ (27 ม.ค.) ผู้สูงอายุชาวเชียงใหม่ ฝ่าลมหนาวออกมากดเงิน 10,000 บาท จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไปใช้จ่าย แต่มีบางคนไม่ได้ลงทะเบียนไว้ ทำให้ชวดรับเงินหมื่น เฟส 2