ผู้เสียหายร้องโดยสารรถแท็กซี่ชนท้ายรถเมล์ เจ็บสาหัส ไร้การดูแล

กรุงเทพฯ 25 ม.ค. – ผู้เสียหายร้องสายไหมต้องรอด โดยสารรถแท็กซี่ชนท้ายรถเมล์ บาดเจ็บสาหัส ไร้การดูแล หลังรักษาตัวกว่า 1.9 ล้านบาท


นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 46 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง ร้องขอความช่วยเหลือจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังโดยสารรถแท็กซี่ แต่คนขับรถเกิดอาการเครียดจัด และมีอาการคล้ายคนหลอนยาเสพติด ขับรถพุ่งชนท้ายรถเมล์ ทำให้ตนเองที่นั่งอยู่เบาะหลังได้รับบาดเจ็บสาหัส กะโหลกแตก จมูกหัก แขนหักผิดรูป เสียค่ารักษาพยาบาลไปกว่า 1.9 ล้านบาท

นายเอกภพ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567 เวลา 08.30 น. ผู้เสียหายเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวที่โรงพยาบาล โดยเรียกรถแท็กซี่แถวสุขุมวิท 39 เมื่อขับมาถึงบริเวณแยกยมราช คนขับแท็กซี่มีอาการเหมือนคนหลอน ขับรถแทรกซ้ายแทรกขวา และพูดว่าผู้โดยสารคนก่อนหน้านี้ไม่จ่ายค่าโดยสาร สุดท้ายรถเกิดอุบัติเหตุชนรถเมล์ซึ่งจอดอยู่ข้างทาง


หลังเกิดเหตุผู้หญิงบาดเจ็บสาหัส ต้องเรียกรถแท็กซี่เพื่อไปโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ด้วยอาการแขนหักผิดรูป แพทย์เอกซเรย์กะโหลกศีรษะแตก กระดูกใบหน้าแตก ตามตัวมีรอยแผล หลังเกิดเหตุนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 21 วัน และกลับมาพักฟื้นที่บ้าน ค่ารักษาพยาบาล 1.9 ล้านบาท สิ่งที่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมคือวันนี้ยังไม่ได้รับการชดเชย และอยากทราบว่าตำรวจดำเนินการอย่างไรกับคนขับรถแท็กซี่

นายเอกภพ กล่าวว่า ผู้เสียหายอยากให้กรมการขนส่งทางบก ออกมาตรการในการตรวจสารเสพติด สุขภาพจิต และประวัติอาชญากรรมของผู้ขับขี่รถสาธารณะเป็นประจำ ควรมีมาตรการอย่างรัดกุม เพราะผู้เสียหายกังวล ไม่อยากให้คนขับรถแท็กซี่ที่มีพฤติกรรมลักษณะนี้ หากยังขับรถอยู่อาจไปเกิดเหตุกับคนอื่นอีกได้

ด้านนางสาวเอ (นามสมมติ) เล่าว่า วันเกิดเหตุเรียกรถจากสุขุมวิท 39 เพื่อไปโรงพยาบาลศิริราช เมื่อขึ้นรถไปคนขับแท็กซี่บ่นว่าโดนผู้โดยสารโกง ไม่จ่ายรถ บอกจะไปกดเงินให้แล้วก็หายไปเลย จากนั้นมีการพูดคุยกันบ้าง แต่ไม่ทราบว่าเขาคิดหรือเครียดอะไร เมื่อไปถึงใกล้ไฟแดง ซึ่งเป็นจุดที่ขับรถแทรกไม่ได้ คนขับได้ขับไปชนกับรถประจำทาง และชนเกาะกลาง ก่อนพุ่งชนรถเมล์ที่จอดติดไฟแดง ตนเองได้รับบาดเจ็บ กรามหัก กระดูกแตกละเอียด เลือดออกภายใน หลังจากนี้ต้องรอให้กระดูกข้างในเข้าที่ ฟันไม่สามารถสบกันได้ ยังต้องได้รับการกายภาพอย่างต่อเนื่อง ส่วนการแจ้งความ ครอบครัวได้ไปแจ้งความหลังเกิดเหตุที่ สน.พญาไท เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 ตุลาคม 2567 แต่ไม่ทราบรายละเอียดว่ามีพนักงานสอบสวนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและเรียกตัวคนขับรถแท็กซี่มาที่ สน. หรือได้ตรวจสารเสพติดและแอลกอฮอล์ของคนขับรถแท็กซี่หรือไม่ ส่วนเรื่องการรักษาพยาบาลได้ใช้สิทธิประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ และประกันของที่ทำงานที่มีอยู่ แต่ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหลังจากออกจากโรงพยาบาลยังมีอย่างต่อเนื่อง เพราะต้องรอให้แผลภายในสมานกันก่อนจึงจะทำการรักษาต่อได้


นางสาวเอ (นามสมมติ) เปิดเผยอีกว่า ส่วนคนขับแท็กซี่มีประวัติในพื้นที่ สน.โคกคราม เกี่ยวกับการเป็นตัวการลักทรัพย์ เมื่อกลางปี 2567 ทางประกันเป็นผู้ติดต่อประสานกับตำรวจให้ว่าผู้เสียหายออกจากโรงพยาบาล ทางตำรวจแจ้งผ่านน้องที่รู้จักกันว่าตำรวจให้นัดคนขับรถแท็กซี่และคนขับรถเมล์มาให้ข้อมูลพร้อมกันด้วย และยังบอกอีกว่าไปสืบมาหรือยังว่าบ้านอยู่ที่ไหน

ด้านญาติของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้ไปติดต่อตำรวจที่ สน.พญาไท เพื่อบอกให้ตำรวจไปสอบสวนผู้เสียหายที่โรงพยาบาล แต่ตำรวจกลับบ่ายเบี่ยง ไม่เจอ ไม่รับสาย แม้จะโทรไปเบอร์โรงพักก็ติดต่อไม่ได้ เมื่อไปที่สถานีตำรวจหลายครั้งก็ไม่พบเจ้าของคดี และทราบว่าในวันเกิดเหตุเจ้าของอู่รถแท็กซี่ได้ไปในที่เกิดเหตุด้วย แต่หลังจากพยายามติดต่อไปกลับบอกว่ารถคันที่เกิดอุบัติเหตุขายไปแล้ว

นางสาวเอ (นามสมมติ) กล่าวว่า ยังกังวลเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสารที่จะต้องใช้รถสาธารณะ เพราะไม่รู้ว่ารถคันที่เลือกใช้บริการจะมีความปลอดภัยหรือไม่ เนื่องจากคนขับรถแท็กซี่คันเกิดเหตุมีประวัติถูกแจ้งความดำเนินคดี ทำไมจึงไม่มีการคัดกรองให้ดี ต้องให้ผู้โดยสารมาลุ้นว่าจะต้องเจอกับอะไร และอยากเรียกร้อง เพราะที่ผ่านมา คนขับรถแท็กซี่ไม่เคยติดต่อประสานงานเข้ามาเลย รวมทั้งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ไม่ได้ประสานงานเข้ามาเช่นเดียวกัน ขณะนี้ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลเป็นเงิน 1.9 ล้านบาท อีกทั้งยังต้องมีค่ารักษาตัว กายภาพในอนาคต ซึ่งตนเองต้องเป็นคนรับผิดชอบเองทั้งหมด-.419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]