แม่ร้องลูกสาวถูกล่วงละเมิด-พบสารเสพติดในร่างกาย หลังหายตัวไป 2 วัน

กรุงเทพฯ 19 ม.ค. – แม่ร้องขอความเป็นธรรมเพจสายไหมต้องรอด ลูกสาวอายุ 13 ปี หายตัวไป 2 วัน กลับมามีอาการหวาดผวา พูดไม่ได้ พบยาแก้ปวดชนิดรุนแรง-สารเสพติดในร่างกาย และยังถูกล่วงละเมิดทางเพศ


แม่ของเด็กหญิงอายุ 13 ปี เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังลูกสาวถูกเพื่อนรุ่นพี่ล่อลวงมอมยา ก่อนลงมือกระทำชำเรา ต้องรับการรักษาตัวนานกว่า 2 สัปดาห์ แต่อาการยังไม่เป็นปกติ กระทั่งล่าสุดหมอตรวจพบเฮโรอีนในร่างกาย

แม่ของเด็กผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น. ลูกขอออกไปเล่นกับเพื่อน ซึ่งเป็นรุ่นพี่ผู้หญิงอายุประมาณ 15-16 ปี จากนั้นเวลาประมาณ 02.00 น. น้องบอกกําลังจะกลับบ้าน แต่เมื่อติดต่อไปอีกครั้งกลับไม่สามารถติดต่อได้ ต่อมาทราบจากรุ่นพี่ผู้หญิงที่ชวนน้องไปด้วยบอกว่าพาน้องไปที่บ้านหลังหนึ่ง และอาการไม่ดี ให้ไปรับวันที่ 26 ธันวาคม 67 คุณยายจึงไปรับน้องกลับมา


เมื่อไปถึงพบน้องอยู่ในสภาพมึนเมา ไม่รู้สึกตัว แขนขาอ่อนแรง จึงพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล แพทย์ระบุว่าน้องถูกล่วงละเมิดทางเพศ เจอสารเฮโรอีน กัญชา และยาแก้ปวดชนิดรุนแรง น้องจึงเข้ารักษาตัวนานเกือบ 20 วัน แต่ปัจจุบันอาการยังไม่ดีขึ้น น้องยังอยู่ในอาการหวาดระแวง ตัวสั่นแต่พยักหน้าและสามารถชี้รูปคนที่กระทํากับน้องได้ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน อายุประมาณ 30 ปี

เมื่อตนเองสอบถามไปทางเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว อีกฝ่ายบอกว่าน้องแค่เมากัญชา น้องอยากสูบกัญชาเอง จึงออกไปกับลูกชายเจ้าของบ้าน อายุ 15 ปี ไปซื้อกัญชาเข้ามา แต่ตนเองไม่ปักใจเชื่อ เพราะอาการน้องหนักเกินกว่าจะแค่เสพกัญชา เมื่อนำรูปลูกชายเจ้าของบ้านให้น้องดูว่าเป็นคนล่วงละเมิดหรือไม่ น้องส่ายหน้า แต่เมื่อนำรูปเจ้าของบ้านให้น้องดูน้องพยักหน้า

ส่วนเหตุผลที่มาร้องขอให้นายเอกภพช่วยเนื่องจากทราบว่ารุ่นพี่ที่พาน้องไปถูกล่วงละเมิดไม่ให้พูดความจริง และหลังเกิดเรื่องได้คุยกับเจ้าของบ้านที่ไปเจอน้อง แต่ปรากฏว่าพูดข้อเท็จจริงไม่ตรงกันกับรุ่นพี่ที่พาน้องไป อ้างว่าน้องไม่เป็นอะไร แค่เมากัญชา แต่ตนไม่เชื่อจึงไม่ขอคุยด้วยอีก เพราะมั่นใจว่าโกหก


ด้านนายเอกภพ ระบุว่า เบื้องต้นได้ติดต่อไปยัง ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจะลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อตรวจค้นและเก็บพยานหลักฐานต่างๆ และเตรียมประสานทีมสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคําผู้เสียหาย.-420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนเฝ้า​ระวัง​พายุฤดูร้อน กระทบ​ 53 จังหวัด​

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 7 เตือนเฝ้า​ระวัง​พายุฤดูร้อน​ พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก มีผลกระทบ​ 53 จังหวัด​ ระหว่าง​ 29​ มี.ค.-1 เม.ย.68​

ความเสียหายแผ่นดินไหว

ปภ. เผยพบความเสียหาย​จาก​แผ่นดินไหว​ 11​ จังหวัด

อธิบดี​กรม​ ปภ. ระบุ​ได้รับรายงาน​ความเสียหาย​จาก​แผ่นดินไหว​ 11​ จังหวัด​ ส่วนเหตุ​อาคารถล่มในกทม.​ มีผู้บาดเจ็บ 9 ราย เสียชีวิตแล้ว 8 ราย และสูญหายอีก 101 ราย​ ทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR) ของ​ปภ.​ ยัง​คงสนับสนุน​ทีมกู้ภัย​ของ กทม.​ ค้นหาและช่วย​เหลือ​ผู้​ได้รับบาดเจ็บ​เต็มกำลัง

แผ่นดินไหว

กรมทรัพยากรธรณี แถลงสถานการณ์แผ่นดินไหว 8.2 ที่เมียนมา

กรมทรัพยากรธรณี 28 มี.ค. – กรมทรัพยากรธรณี แถลงสถานการณ์แผ่นดินไหว 8.2 รอยเลื่อนสะกาย ประเทศเมียนมา 28 มีนาคม 2568 นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี พร้อมด้วยนายสุวภาคย์ อิ่มสมุทร รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ในฐานะโฆษกกรมทรัพยากรธรณี นายวีระชาติ วิเวกวิน นักธรณีวิทยาชำนาญการพิเศษ ร่วมกันแถลงความคืบหน้าสถานการณ์แผ่นดินไหวรอยเลื่อนสะกาย บนบกขนาด 8.2 ที่ระดับความลึก 10 กิโลเมตร และมีแผ่นดินไหวตามมา (After Shock) มีขนาด 2.8 – 7.1 จำนวน 27 ครั้ง (ข้อมูล ณ เวลา 18.48 น.) (ที่มา : USGS กรมอุตุนิยมวิทยา และกรมทรัพยากรธรณี) สาเหตุเกิดจากรอยเลื่อนสะกาย รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนเป็นบริเวณกว้าง และสร้างความเสียหายจำนวนมาก ทั้งในประเทศเมียนมาและในประเทศไทย นายพิชิต กล่าวว่า จากสถานการณ์แผ่นดินไหวบนบกในครั้งนี้ […]