จับแก๊งจำนำรถส่งขายข้ามแดน หลอกเหยื่อสูญกว่า 100 ล้าน

กทม. 17 ม.ค.-ตำรวจทางหลวง เปิดปฏิบัติการ จับแก๊งจำนำรถส่งขายข้ามแดนให้กลุ่มจีนเทา หลอกเหยื่อสูญทรัพย์สินกว่า 100 ล้าน

พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง แถลงเปิดปฏิบัติการ Highway Gray Market จับแก๊งหลอกจำนำรถส่งข้ามแดน พบความเสียหายกว่า 100 ล้าน โดยปฏิบัติการดังกล่าวสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานีได้ 7 ราย แบ่งเป็น กลุ่มผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่เป็นนายทุนคอยซื้อขายรถโจรกรรมและขายต่อให้นายทุนในประเทศเพื่อนบ้าน 1 ราย กลุ่มนักบินที่ทำหน้าที่วิ่งรับ-ส่งรถจำนำให้กับนายทุน 3 ราย กลุ่มเปิดเพจหลอกรับจำนำรถจากผู้เสียหาย 2 ราย และกลุ่มผู้ดูแลบัญชี 1 ราย ทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์


นอกจากนี้ ตำรวจทางหลวงยังได้เข้าตรวจค้นโกดังจอดรถแห่งหนึ่งใน ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี สามารถตัวยึดของกลางเป็นรถยนต์จำนวน 23 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน และรถแทรกเตอร์ 1 คัน ซึ่งเชื่อว่ารถทุกคันเตรียมถูกส่งขายต่อไปประเทศเพื่อนบ้าน

โดยในการแถลงข่าวในวันนี้ ทางตำรวจได้พาผู้เสียหายวัย 36 ปี มาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสื่อมวลชนด้วย โดยผู้เสียหายเล่าว่า เนื่องจากตนมีภาวะขัดสนเรื่องการเงิน กอปรกับพบเพจ Facebook ที่มีชื่อว่า “รับจำนำจอดรถจักรยานยนต์ทุกชนิด” ยิงโฆษณาเด้งขึ้นมา ด้วยความที่ต้องการใช้เงิน จึงได้ทักพูดคุย ซึ่งกว่าตนจะหลงเชื่อก็ใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ โดยเป็นการพูดคุยผ่านทางแชท Facebook เพราะเพจนี้ไม่ยอมให้เบอร์โทรศัพท์แต่อย่างใด


กระทั่งเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เพจได้ล่อลวงให้ผู้เสียหายนำรถมาจำนำในราคา 80,000 บาท โดยนัดหมายส่งมอบรถบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ตนจึงนำรถกระบะฟอร์ดเรนเจอร์สีขาว ซึ่งซื้อมาในมูลค่าประมาณ 800,000 บาทมาจำนำ เมื่อถึงวันนัดส่งมอบรถ มีผู้ต้องหา 2 คนมาทำหน้าที่รับรถและมอบเงินสดให้กับผู้เสียหายจำนวน 71,000 บาท โดยอ้างว่าอีก 9,000 บาทหักเป็นค่าดอกเบี้ยและค่าจอดรถ

วันรุ่งขึ้น วันที่ 27 พฤศจิกายน ผู้เสียหายสามารถหาเงินมาได้และได้ติดต่อกลุ่มผู้ต้องหาเพื่อขอไถ่รถคืน แต่ผู้ต้องหาออกอุบายว่า ต้องโอนเงินอีก 80,000 บาทถึงจะยอมคืนรถ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไป แต่ก็ไม่สามารถติดต่อกับกลุ่มผู้เสียหายได้อีกเลย เพราะถูกเพจบล็อค จึงได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี และขอความช่วยเหลือมายังสายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 ให้ติดตามรถที่ถูกผู้ต้องหาหลอกลวงไป

ผู้เสียหายยอมรับว่า ไม่รู้ว่าจะสามารถติดตามรถคืนมาได้หรือไม่ แต่ก็ยังคงมีความหวัง เพราะรถคันนี้ตนซื้อมาได้ 7 ปี ยังเหลือผ่อนอีกประมาณ 400,000 บาท ซึ่งต้องขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมคนร้ายเหล่านี้ได้และอยากเตือนเป็นอุทาหรณ์ว่า อย่าหลงเชื่อเพจเหล่านี้ เพราะเนื่องจากตนถูกเพจของคนร้ายพูดจาหว่านล้อมอย่างดิบดีและอ้างว่าใช้เอกสารเพียงบัตรประชาชนกับสำเนาทะเบียนรถ จึงมองว่าง่ายและเป็นการฝากจำนำรถเพียงแค่แป๊บเดียว รวมทั้งไม่ทำให้เอะใจกับกลุ่มขบวนการดังกล่าวด้วย แต่ก็ไม่นึกว่าจะถูกนำรถไปขายแบบนี้


ด้าน พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล. เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางตำรวจทางหลวงได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว จึงเริ่มต้นสืบสวนจากการแกะรอยบัญชีที่ผู้เสียหายโอนไป จนสามารถจับเจ้าของบัญชีได้ ซึ่งจากการสอบปากคำ เจ้าของบัญชีอ้างว่าก็เคยเป็นเหยื่อลูกหนี้ของแก๊งดังกล่าวเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากไม่สามารถผ่อนต่อได้ไหว เลยถูกกลุ่มคนร้ายเสนอให้เปิดบัญชีธนาคารเพื่อแลกกับการที่รถจะไม่ถูกนำไปปล่อยในขายในตลาดมืด แต่ทางตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การดังกล่าว

หลังจากนั้นทางตำรวจได้ทำการขยายผลเพิ่มเติมจนสามารถจับกุมกลุ่มเจ้าของเพจ Facebook ที่หลอกลวงผู้เสียหายได้ 2 ราย แล้วหลังจากนั้นได้ขยายผลเพิ่มเติมจนสืบทราบว่า กลุ่มหลอกลวงผู้เสียหายจะนำรถที่ได้จากผู้เสียหายไปส่งต่อให้กับกลุ่มนักบินที่อยู่ในพื้นที่ จ.ราชบุรี แล้วหลังจากนั้นกลุ่มนักบินก็จะนำรถมาเก็บไว้ที่โกดังในพื้นที่ ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นโกดังของนายทุนใหญ่ โดยจะเก็บรถเอาไว้เพื่อรอคำสั่งซื้อขายจากประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ค่อยลักลอบนำรถข้ามพรมแดนธรรมชาติไปยังประเทศเพื่อนบ้านต่อไป

ต่อมาเมื่อวันที่ 11 มกราคม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมกลุ่มแก๊งนักบินได้จำนวน 3 รายที่บ้านในพื้นที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี โดยในจำนวนนี้พบอาวุธปืนมีทะเบียน 1 กระบอก ซึ่งอยู่ในระหว่างการขยายผล ก่อนที่ในเวลาต่อมา วันที่ 14 มกราคม ก็ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นโกดังจอดรถใน ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี สามารถตรวจยึดรถของการที่กล่าวไว้ข้างต้นและจับกุมนายทุนตัวการใหญ่ได้ 1 คน พร้อมตรวจยึดปืนมีทะเบียนอีก 1 กระบอก

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธ แต่จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า ขบวนการลักรถดังกล่าวนั้น ได้ก่อเหตุมาแล้ว 2 ปี ลักลอบขายรถยนต์ให้กับกลุ่มนายทุนทั้งในและนอกประเทศร้อยกว่าคัน มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมว่า อาจจะมีเพจ Facebook ที่ร่วมขบวนการเพจอื่น ๆ รวมทั้งกลุ่มนักบินกลุ่มอื่นที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการนี้ ไปจนถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงินเชื่อว่า อาจจะมีความเชื่อมโยง กับนายทุนฝั่งเมียนมาและทุนจีนสีเทา

พ.ต.อ.ภคพล กล่าวเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นพบว่าอาจจะมีกลุ่มขบวนการที่ปลอมแปลงเอกสารร่วมด้วย โดยการปลอมทะเบียนรถหรือเอกสารอื่นๆ ของรถ เพื่อใช้ตบตาเจ้าหน้าที่ในการข้ามด่านพรมแดน ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตาม เท่าที่ตรวจสอบขบวนการดังกล่าว ยังเป็นการขายรถสภาพปกติไปยังชายแดน ไม่พบการดัดแปลงตัวถังรถหรือเลขคัสซีขายไปยังชายแดนแต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. ช่วยราชการ รอง ผบก.ทล. เปิดเผยว่า เนื่องจากมีกลุ่มทุนจีนสีเทาไปขยายสร้างอาณาจักรธุรกิจมืดในพื้นที่ชายแดนฝั่งประเทศเมียนมา จึงมีความต้องการรถยนต์เพื่อมาบริการให้กับกลุ่มลูกค้าจีนเทามากขึ้น แต่เนื่องจากฝั่งประเทศเมียนมานั้นรถค่อนข้างหายาก จึงต้องคอยขโมยรถในประเทศไทยไปขายที่ชายแดนประเทศเมียนมา โดยกลุ่มทุนจีนสีเทานั้นมีความต้องการรถยนต์ประเภทรถหรู เช่น Alphard หรือรถเบนซ์ รวมทั้งต้องการรถที่นำไปใช้ขนของหรือสิ่งผิดกฎหมาย เช่น รถกระบะ 4 ล้อ เป็นต้น

ส่วนวิธีการลักลอบข้ามไปยังประเทศเมียนมานั้น พบว่า กลุ่มขบวนการดังกล่าวมี 2 วิธีการ ได้แก่ การข้ามพรมแดนปกติผ่านด่านเจดีย์สามองค์ โดยใช้วิธีการปลอมแปลงเอกสารราชการเกี่ยวกับรถ กับอาศัยช่องทางธรรมชาติตามพรมแดนที่สามารถขับรถข้ามไปได้

จึงขอฝากเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่า อย่าหลงเชื่อกลุ่มปล่อยสินเชื่อหรือหลอกจำนำรถดังกล่าว หากไม่ใช่กลุ่มทุนที่จดทะเบียนถูกต้องหรือเป็นบริษัทที่ถูกกฎหมาย โดยเฉพาะตามสื่อโซเชียลต่างๆ อย่าได้หลงกลเชื่อ.เพราะมิเช่นนั้นก็จะตกเป็นเหยื่อถูกนำรถไปลักลอบขายตามชายแดนก็เป็นได้.-415.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ในหลวงทรงรับคนไข้

ในหลวงทรงรับคนไข้เหตุแผ่นดินไหวไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ในหลวงทรงรับคนไข้เหตุแผ่นดินไหวเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ขณะนายกรัฐมนตรีเยี่ยมผู้บาดเจ็บ แพทย์แจงอาการดีขึ้นแล้ว

Building after collapses in Myanmar in front of monk's eye

แผ่นดินไหวทำตึกเมียนมาถล่ม-ยอดตายเกินพันแล้ว

มัณฑะเลย์ 29 มี.ค.- แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเมียนมาเมื่อวานนี้ ทำให้อาคารหลังหนึ่งถล่มต่อหน้าต่อตากลุ่มพระสงฆ์ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในเมียนมาจนถึงขณะนี้เกิน 1,000 คนแล้ว คลิปภาพที่ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกไว้ได้ในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเมียนมา และอยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวบนบกที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ เห็นกลุ่มพระสงฆ์รวมตัวกันอยู่บนถนนใกล้อาคารหลังหนึ่งที่ค่อย ๆ เสียการทรงตัว ก่อนพังถล่มลงไปทั้งหลังต่อหน้าต่อตา ทำให้เกิดกลุ่มควันขนาดใหญ่ฟุ้งกระจาย รอยเตอร์รายงานเมื่อเวลา 13:00 น.วันนี้ตามเวลาไทยว่า รัฐบาลเมียนมาแถลงล่าสุดว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเพิ่มเป็น 1,002 คนแล้ว ขณะที่สำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐหรือยูเอสจีเอส ซึ่งแจ้งขนาดแผ่นดินไหวไว้ที่ 7.7 และมีศูนย์กลางลึกเพียง 10 กิโลเมตรประเมินจากแบบจำลองการคาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจจะเกิน 10,000 คน.-814.-สำนักข่าวไทย  

สาเหตุตึกถล่ม

นายกฯ เร่งกรมโยธาดูสาเหตุตึกถล่ม-หาทางแก้

นายกฯ รับรายงายสถานการณ์แผ่นดินไหว เร่งกรมโยธาดูสาเหตุ-หาทางแก้ตึกถล่ม ย้ำ ปชช. มั่นใจได้ เหตุแผ่นดินไหวตอนนี้ไม่กระทบไทยแล้ว เตรียมออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป

วัดเสียหายแผ่นดินไหว

วัด 4 แห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว

สำนักงานพระพุทธศาสนา และคณะสงฆ์เชียงใหม่ สำรวจโบราณสถาน พบวัด 4 แห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว มีทั้งรอยร้าว ฐานพระพุทธรูปอายุกว่า 700 ปีทรุด ยอดฉัตรทองคำหักเอียง