“อัจฉริยะ” นำพยาน “คดีแตงโม” ให้ข้อมูลดีเอสไอ จ่อเปิดหลักฐานใหม่

คดีแตงโม

กรุงเทพฯ 14 ม.ค. – “อัจฉริยะ-หมอธวัชชัย” พร้อมพยานผู้เชี่ยวชาญเรื่องการขับเรือ และโปรแกรมเมอร์ ให้ข้อมูล “คดีแตงโม” ก่อนจำลองเหตุการณ์ตกเรือวันที่ 16 ม.ค.นี้ ระบุไม่ได้ให้รื้อคดี แต่เป็นการขอให้ตั้งข้อหาใหม่


นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุและบาดแผล รวมถึงผู้เชี่ยวชาญเรื่องการขับเรือ และโปรแกรมเมอร์ รวม 4 คน เข้าพบพนักงานสอบสวนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม” ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า วันนี้จะเป็นการให้ข้อมูลเพื่อเปิดคดีกับดีเอสไอ โดยเป็นพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่าแตงโมไม่ได้อยู่บนเรือและไม่ได้ตกจากท้ายเรือ และทำไมพยานหลักฐานเรื่องเส้นผม 3 เส้นที่พบบนเรือ จึงไม่ถูกนำมาพิจารณาในคดี ทั้งๆ ที่ประเด็นเรื่องเส้นผมนั้นเคยพลิกคดีน้องชมพู่มาได้ และตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เป็นผู้สั่งการในคดีน้องชมพู่ก็เป็นคนเดียวกันกับที่สั่งการคดีแตงโมได้


โดยสิ่งสำคัญคือวันที่ 16 มกราคมนี้ ที่จะมีการจำลองสถานการณ์การตกเรือ โดยดีเอสไอจะจัดชุดมาสังเกตการณ์ และวันนี้จะมีการพูดคุยกันเรื่องนี้ด้วย รวมทั้งตนจะนำคลิปที่แสดงให้เห็นว่าในช่วงเวลาประมาณ 22.30 น. “แซน วิศาพัช” ไม่ได้นั่งอยู่ที่ท้ายเรือตามที่กล่าวอ้าง แต่นั่งอยู่แถวกลางของเรือ และจะพิสูจน์ข้อเท็จจริงในเรื่องของการตกเรือว่าจะถูกใบพัดเรือหรือไม่ นี่ไม่ใช่เป็นการรื้อคดีใหม่ แต่เป็นการตั้งข้อหาดำเนินคดีใหม่กับคนบนเรือ และอาจมีผู้ที่ถูกดำเนินคดีมากกว่านี้ ถือเป็นการเดิมพันด้วยชีวิต เพราะตนไม่รู้ว่าจะถูกลอบสังหารเมื่อไร และนี่จะเป็นคดีสุดท้ายที่ตนจะทำเพื่อช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เพราะหลังจากนี้ตนจะพอแล้ว สิ่งที่ตนทำเพื่อทวงความยุติธรรมให้แตงโม และสะท้อนให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยนั้นมีปัญหา และมีความหวังว่าดีเอสไอจะทำคดีนี้ให้กระจ่างจนเอาผิดตัวการใหญ่ได้ โดยเตรียมจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายตำรวจระดับสูง ซึ่งรวมไปถึงอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และตำรวจคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในคดีแตงโมกว่า 40 นาย

ด้าน นพ.ธวัชชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุและบาดแผล เปิดเผยว่า วันนี้นำประเด็นข้อมูลใหม่ๆ โดยเฉพาะเรื่องบาดแผล มามอบให้ดีเอสไอ ยืนยันว่าแผลขนาดใหญ่บริเวณต้นขานั้นไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ 99.99% ซึ่งต้องพิสูจน์โดยนำเนื้อหมูมาทดลองเอาใบพัดเรือฟัน ซึ่งตนขอไม่ตอบว่าสรุปแล้วบาดแผลต้นขาของแตงโมเกิดจากอะไร แต่ตนขอยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือแน่นอน และคาดว่าน่าจะเป็นวัตถุมีคม

นพ.ธวัชชัย ยังตั้งข้อสังเกตว่าที่ผ่านมาสื่อมวลชนไม่เคยเห็นรูปเดี่ยวของแตงโมหลังตั้งแต่ 20.30 น.เป็นต้นไปเลย โดยเฉพาะรูปที่ถ่ายบริเวณสะพานพระราม 8 นั่นก็เป็นรูปตัดต่อ ซึ่งคนที่เป็นดาราควรจะต้องมีภาพเดี่ยวสวยๆ จึงอยากเรียกร้องให้ฝ่ายคนที่อยู่บนเรือเอารูปออกมาอ้างยืนยันว่าแตงโมอยู่บนเรือจริงๆ หลัง3 ทุ่มเป็นต้นไป


สำหรับขั้นตอนต่อไปต้องดูว่าทางดีเอสไอหลังได้รับข้อมูลแล้วจะดำเนินการอย่างไร โดย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า ต้องขอดูข้อมูลที่ได้มาก่อน รวมถึงผลการจำลองเหตุการณ์ในวันที่ 16 ม.ค. ส่วนจะรื้อคดีได้หรือไม่นั้น ต้องดูข้อเท็จจริงว่าเข้าข่ายกรอบกฎหมายอย่างไรบ้าง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด