13 ม.ค. – “กัน จอมพลัง–ทนายไพศาล” พาภรรยา “จ่าพั้นช์” ทหารที่ถูกอดีตที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.หัวหิน ใช้ปืนยิงเสียชีวิตในผับ ร้องอัยการสูงสุด หวั่นคดีถูกแทรกแซง เผยคู่กรณี ไม่เคยขอโทษ-เยียวยา แต่กลับอ้างในโซเชียล เจอจ่ายจบ เคลียร์ไปแล้ว 10 ล้าน
นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พร้อมด้วย นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ พา น.ส.บัวบูชา ภรรยา จ.ส.อ.โรจชนะภณ (จ่าพั้นช์) อดีตทหารค่ายธนะรัชต์ ที่ถูกนายจักรกฤษ อดีตที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. จ่อยิงเสียชีวิตในผับย่านหัวหิน ช่วงกลางดึกวันที่ 18 ส.ค.67 ที่ผ่านมา เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการสูงสุด หลังครอบครัว “จ่าพั้นช์” พบข้อพิรุธหลายอย่างในการสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลของพนักงานอัยการ
นายกัณฐัศว์ เปิดเผยว่า คดีนี้ตนได้ช่วย ครอบครัวผู้เสียหายมาตั้งแต่แรก ซึ่ง สภ.หัวหิน ทำคดีไม่ถึง 1 เดือน ก่อนส่งเรื่องไปให้อัยการ แต่พอไปถึงชั้นอัยการ ทางครอบครัวเริ่มรู้สึกเกิดความไม่สบายใจ เนื่องจากภรรยาของจ่าพั้นช์ได้ไปเห็นเนื้อหาข้อความในสำนวนที่อัยการเขียนไว้ จนทำให้ทางภรรยารู้สึกว่าไม่เป็นธรรม หลังจากนั้นภรรยาจ่าพั้นช์ได้เจอคู่กรณีที่ศาล แต่ไม่ได้รับคำขอโทษ หรือการเยียวยา แต่มีคอมเม้นต์ปรากฏในโซเชียลข้อความลักษณะว่า จ่ายรับเงินไปแล้ว 10,000,000 บาท เจอจ่ายจบ ทำให้ทางครอบครัว กังวลในเรื่องความยุติธรรมเป็นอย่างมาก
ด้านน.ส.บัวบูชา เปิดเผยว่า ส่วนตัวติดใจว่าทำไมอัยการถึงเขียนสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลว่า “จ่าพั้นช์ มีอาการมึนเมา เข้าไปลวนลาม นำมือไปจับก้น และเต้นชนตัวของแฟนจำเลยหลายครั้ง จนทำให้จำเลยโมโห มีปากเสียงกับจ่าพั้นช์ และมีการท้าทายให้มาชกต่อยกัน และมายิงกัน จากนั้นจ่าพั้นช์ได้กระชากคอจำเลย จำเลยจึงบันดาลโทสะ ชักอาวุธปืนออกมายิงจ่าพั้นช์และถูกผู้เสียหายอีกหลายคน”
น.ส.บัวบูชา เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้อ่านประโยคนี้ ทำให้ติดใจเป็นอย่างมาก อยากจะถามว่าแฟนตนผิดหรือ ซึ่งข้อความที่กล่าวมายังไม่ได้สืบอะไรเลย อีกทั้งหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดภายในผับก็ไม่มีอีกด้วย หลังเกิดเหตุ ฝั่งคู่กรณียังใช้ชีวิตปกติ สร้างบ้านหลังใหม่ ไปเที่ยวสบายใจ ไม่เคยมาพูดคุยถึงเรื่องการชดใช้เยียวยา ซึ่งเจอกันแต่ในศาล 2-3 ครั้งเท่านั้น ทุกครั้งที่เจอกัน คู่กรณีไม่เคยมาขอโทษเลยสักครั้ง
ด้านทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ เปิดเผยว่า ภรรยาผู้ตายมีสิทธิที่จะร้องขอความเป็นธรรม และการมาในครั้งนี้ ไม่ได้ละเมิดอำนาจของศาล เรื่องนี้ทางอัยการมาพูดคุยกับภรรยาจ่าพั้นช์เอง ต่อหน้าทนายความว่าอัยการถูกกดดันจากเบื้องบน ซึ่งทางอัยการไม่ได้ลงความเห็นเรื่องการบันดาลโทสะ แต่โดนข้างบนสั่งมา ซึ่งไม่รู้ว่าข้างบนเป็นใคร ที่มาในวันนี้อยากทราบเหตุผล ที่มีการสั่งให้อัยการสอบเพิ่มเรื่องบันดาลโทสะ พร้อมตั้งคำถามว่า ถ้าเราเห็นคนโดนผลักตกน้ำ แต่พอเริ่มทำคดีทุกอย่างเปลี่ยนไป กลับกลายเป็นว่าคนๆ นั้น กระโดดน้ำลงไปเอง แบบนี้ย้อนแย้งหรือไม่ และยังคำถามว่า หลักฐานก็ไม่มี ว่ามีการไปจับก้น ไปลวนลามคนในผับ แล้วถ้อยคำพวกนี้ผุดขึ้นมาได้อย่างไร เป็นประเด็นขึ้นมาได้อย่างไร
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องที่มีคนพูดว่า จ่ายครบ ศพเคลียร์ คำนี้ใครเป็นคนพูด เรื่องนี้ในฐานะทนาย รู้สึกเห็นใจครอบครัวผู้เสียชีวิต คดีนี้ออกมาสู่สายตาประชาชนแล้ว ค้านสายตาทุกคน มีข้อพิรุธมากมาย ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ในประเทศนี้มันยังมีการเป่าคดีได้อีกหรือ หรือที่ประจวบฯ มีมาเฟียจริงหรือไม่ .-สำนักข่าวไทย