กรุงเทพฯ 13 ม.ค.-ตำรวจภาค 1 บุกยึดซิมบ็อกซ์ในห้องพักย่านลาดพร้าว หลังพบใช้โทรหลอกเหยื่อ สูญเงินเก็บเตรียมใช้หนี้ กยศ.กว่า 7 หมื่น เตรียมขยายผลโยงคอลเซ็นเตอร์
พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 นำเจ้าหน้าที่สืบสวนภูธรภาค 1 และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบภายในห้องพักแห่งหนึ่ง ซอยนาคนิวาส 21 แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ หลังสืบทราบว่า เป็นสถานที่ซุกซ่อนซิมบ็อกซ์ เครื่องแปลงสัญญานโทรศัพท์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรหลอกลวงผู้เสียหาย ซึ่งจากการตรวจค้น พบซิมบ็อกซ์ จำนวน 8 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 1 เครื่อง กล้องวงจรปิด 1 ตัว และราวเตอร์อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะเข้าตรวจค้นไม่พบผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของห้องเช่าแต่อย่างใด
สำหรับพฤติการณ์ สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงต้นเดือน ม.ค.68 ที่ผ่านมา มีพนักงานร้านสะดวกซื้อ เข้ามาแจ้งความกับตำรวจในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ว่า ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินสูญกว่า 7 หมื่นบาท โดยโทรมาขู่ว่าหมายเลขโทรศัพท์ที่ตนเองใช้อยู่นั้น มีการนำไปใช้ในบัญชีโซเชียลมีเดีย และโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยข้อความที่รุนแรง และมีการข่มขู่เพื่อหลอกให้โอนเงิน ผู้เสียหายหวาดกลัวและหลงเชื่อจึงโอนเงินดังกล่าวที่ตนเองเก็บไว้เพื่อจ่ายหนี้ กยศ. ไปให้กับคนร้ายรวมแล้วกว่า 70,000 บาท หลังรู้ตัวว่าถูกหลอก จึงไปแจ้งความไว้
จากนั้น ตำรวจสมุทรปราการ ประสานข้อมูลกับตำรวจภูธรภาค 1 จนสามารถขยายผลติดตามเครือข่ายผู้ต้องหา ว่าเป็นชาวต่างชาติ มาเช่าห้องพักย่านนาคนิวาส เพื่อเก็บซิมบ็อกซ์ เครื่องรับสัญญานโทรศัพท์ โดยมีผู้สั่งการจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยซิมบ็อกซ์ 1 เครื่อง สามารถใช้โทรหลอกเหยื่อได้ 32 คู่สาย มี 8 เครื่อง สามารถ โทรหลอกเหยื่อได้ครั้งละ 256 คู่สาย ทั้งนี้ ขณะเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบภายในห้องพักดังกล่าว พบว่า ซิมบ็อกซ์ ได้ตัดสัญญานไปทั้งหมดแล้ว คาดว่าคนร้ายเห็นความเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดที่เปิดไว้ภายในห้อง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลเพื่อติดตามตัวขบวนการของคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.-415-สำนักข่าวไทย
