ผู้เสียหายร้องสายไหมต้องรอด ถูกนำทะเบียนราษฎร์ไปขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

กรุงเทพฯ 7 ม.ค. – นางสาวมิ้นท์ และนายหลุยส์ มาร้องเรียนกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณีถูกนายตำรวจระดับรองสารวัตร สังกัด สภ.บ่อวิน หลอกลวงคนไทย นำข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ไปขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งผู้เสียหายได้แจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ไว้แล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า


ผู้เสียหาย เล่าว่า ตัวเองมีอาชีพเป็นช่างสัก รับงานสักทั้งในไทย และที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา จึงเดินทางไปทำงานที่กัมพูชาบ่อยครั้ง จากนั้นก็ได้เข้าไปเป็นสมาชิกในเพจกลุ่มคนไทยที่ทำงานอยู่ในกัมพูชาด้วยกัน ซึ่งเป็นเพจเปิดสาธารณะ สามารถเข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และซื้อขายสินค้ากันได้ แต่จู่ๆ ก็มีคนนำข้อมูลทะเบียนราษฎร์ข้อมูลของผู้เสียหาย และของพ่อผู้เสียหายมาโพสต์ และส่งข้อมูลมาในอินบ็อก ในทำนองเยาะเย้ย ว่ามีข้อมูลของตนเอง และคนในครอบครัว ทำให้รู้สึกว่าถูกคุกคาม

ส่วนคนที่มาคุกคามนั้น เชื่อว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ไปทำงานอยู่ในกัมพูชา ที่ไม่ชอบหน้าหรือหมั่นไส้ตัวเอง เนื่องจากคนไทยที่ไปทำงานในกัมพูชา จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ทำงานโดยสุจริต และกลุ่มที่ไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มนั้น ก็จะไม่ค่อยถูกกัน และไม่มาคบหากัน จึงเกิดความหมั่นไส้ และเข้าใจว่าผู้เสียหายอยู่ในกลุ่มคนที่ต่อต้านแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงถูกกลั่นแกล้ง โดยการโพสต์และส่งข้อมูลทะเบียนราษฎร์มาเยาะเย้ย


หลังจากกลับมาเมืองไทย จึงไปตรวจสอบที่กรมการปกครอง ว่าใครเป็นคนเข้ามาเช็คข้อมูล ปรากฎว่าเป็น เป็นผู้ชายใช้คำนำหน้าว่าที่ร้อยตรี ซึ่งเป็นนายตำรวจ ระดับรองสารวัตร สังกัด สภ.บ่อวิน จังหวัดชลบุรี เป็นผู้ไปขอข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของตนเองที่กรมการปกครอง จึงทำให้เชื่อว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน ซึ่งอาจเป็นเครือข่ายให้ความช่วยเหลือ หรือขายข้อมูลทะเบียนราษฎร์ประชาชนให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากนั้น ในวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา จึงไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ แต่พนักงานสอบสวนไม่รับแจ้ง ให้แค่ลงบันทึกประจำวัน โดยอ้างว่ายังไม่เกิดความเสียหายขึ้น

ด้านนายเอกภพ เห็นว่า กรณีขึ้นนั้นถือเป็นภัยความมั่นคง เพราะมีเจ้าหน้าที่รัฐไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงฝากถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ระมัดระวังเฝ้าสอดส่องพฤติกรรมตำรวจนอกรีดที่อาจไปเกี่ยวข้อง หรือรับผลประโยชน์กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และจะประสานขอให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีตรวจสอบตำรวจรายนี้ อีกทั้งจะประสานไปยังผู้กำกับการ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อติดตามคดีที่เกิดขึ้นด้วย.-419-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ซิงซิง

ผลมติพบ “ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์-ปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

“ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์ หลังผลมติคัดแยก-คัดกรองออกแล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ส่งตัวเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองแล้ว ให้ พม.ดูแลต่อ ขณะที่ทีมกฎหมายของดาราจีน เผยเจ้าตัวปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

เลือกตั้ง อบจ.

กกต.เปิดตัว “หมูเด้ง” เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

กกต.จัดกิจกรรม kick off เปิดตัว “หมูเด้ง” เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ. ภายใต้แนวคิด “สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจไปเลือกตั้ง” ด้าน “อิทธพร” ให้ความมั่นใจพร้อมจัดการเลือกตั้งอย่างสุจริต

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน