อธิการบดี ม.สยาม ยันไม่เกี่ยวข้องคอร์สอบรมอาสาตำรวจ

ม.สยาม 6 ม.ค. – อธิการบดี ม.สยาม แถลงโต้ หลังตกเป็นข่าวมีคอร์สอบรมอาสาตำรวจคนจีนในมหาวิทยาลัย ลั่นมหาวิทยาลัยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เตรียมดำเนินคดีกับทุกบุคคลที่เกี่ยวข้อง


นายพรชัย มงคลวนิช อธิการบดีมหาวิทยาลัยสยาม และผู้บริหารมหาวิทยาลัยสยาม ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเกี่ยวกับประเด็นการจัดคอร์สอบรมอาสาตำรวจจีน ที่มีบุคคลกร นักศึกษา และใช้สถานที่ในมหาวิทยาลัยในการจัดอบรม โดยระบุว่า โดยปกติทางมหาวิทยาลัยได้มีการจัดอบรมในรูปแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตอาสาจราจร เกี่ยวกับตำรวจและอินเทอร์เน็ต ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาอะไรเนื่องจากมีการดำเนินการอย่างถูกต้องตามขั้นตอน แต่ในครั้งนี้ที่เกิดปัญหาเพราะมีการดำเนินการบางอย่างที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอน ตั้งแต่เกิดเรื่องได้สั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของมหาวิทยาลัย ดำเนินการสอบสวนตั้งแต่วันเสาร์ที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากที่มีการสอบสวนแล้วนั้น ได้ข้อสรุปออกมา ดังนี้

1.การอบรมอาสามัครตำรวจบ้าน เป็นโครงการจัดขึ้นโดยบุคคลภายนอกที่รู้จักกับฝ่ายต่างๆ ทั้งเจ้าหน้าที่ และตำรวจกองบัคงคับการตำรวนครบาล 3 โดยมีนายหลี่ จาง ที่เป็นผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจกรรมนานาชาติของมหาวิทยาลัยสยาม เป็นผู้ดำเนินการ และโครงการดังกล่าวไม่ได้ขออนุมัติจากมหาวิทยาลัย


  1. โครงการดังกล่าว จัดอบรมวันที่ 25 -27 ธันวาคม ซึ่งวันที่ 25 มีการใช้สถานที่ภายในมหาวิทยาลัย ตรวจสอบแล้วไม่มีการขออนุญาตใช้สถานที่ ส่วนวันที่ 26-27 เป็นการอบรมนอกสถานที่
    3.ที่มีหนังสือขอความร่วมมือไปยัง บก.น.3 เป็นหนังสือจากบุคคลภายนอกแต่มีการลงนามโดย นายลี่ จาง โดยใช้ตำแหน่งในมหาวิทยาลัยโดยพละการโดยไม่ได้ขออนุมัติจากทางมหาวิทยาลัย โดยปกติจะต้องมีการลงชื่ออธิการบดีหรือบุคคลที่อธิการบดีมอบหมาย และไม่ได้ดำเนินการตามระบบของมหาวิทยาลัย
  2. เงินที่มีการเรียกเก็บค่าอบรม จากการตรวจสอบ ยืนยันว่า ไม่มีเส้นเงินเข้า-ออกมหาวิทยาลัย รวมถึงของที่แจกผู้ร่วมอบรมก็เป็นบุคคลภายนอกดำเนินการทั้งหมด

นายพรชัย ยังบอกอีกว่าเอกสารที่ส่งไปยัง บก.น.3 นั้น มีจุดพิรุธหลายจุด เพราะเอกสารไม่มีเลขที่ตั้งของมหาวิทยาลัย มีแค่ชื่อถนน เขต / ส่วนตราประทับที่ออกจากสารบรรณของมหาวิทยาลัยก็ไม่มี และในเนื้อหามีการใช้คำว่า “มหาวิทยาลัย” ปะปนกับคำว่า “วิทยาลัย” ซึ่งปกติแล้วจะใช้แค่มหาวิทยาลัยเท่านั้น และวันที่มีการอบรมเป็นวันที่มหาวิทยาลัยหยุดการเรียนการสอนไปแล้ว ซึ่งโดยปกติจะไม่มีการจัดอบรมในช่วงเวลาที่ปิดเรียน
และยืนยันว่า มหาวิทยาลัยเป็นผู้เสียหาย และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว แต่เป็นการดำเนินการของบุคคลภายนอกโดยพละการที่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงมหาวิทยาลัย โดยผลการประชุมจะมีบทลงโทษทางวินัยกับบุคคลของมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย อาจารย์ 1 คน (นายลี จาง) และบุคลากร 1 คน ซึ่งตอนนี้ได้ส่งผลการสอบสวนไปยังกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมแล้ว คาดว่าจะมีผลลงโทษภายใน 1-2 สัปดาห์ และเตรียมดำเนินคดีทางอาญา ในคดีแอบอ้างและใช้สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย

ส่วนกรณีวิทยากรที่เป็นตำรวจรู้จักกับบุคลากรในมหาวิทยาลัยหรือไม่ จากการสอบถามนายลี จาง บอกว่า รู้จักผ่านคนกลาง ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเราไม่สามารถเอ่ยชื่อได้ แต่ส่วนตัวอธิการบดีไม่รู้จักกับตำรวจที่เป็นวิทยากร

เมื่อถามว่ามหาวิทยาลัยมีความกังวลว่าผู้เข้ารับอบรมทั้งหมดจะนำบัตร และเครื่องแบบที่มีโลโก้สำนักการตำรวจแห่งชาติไปหลอกลวงชาวจีนหรือใช้เกี่ยวกับธุรกิจจีนเทาหรือไม่ นายพรชัย บอกว่าตนเองก็รู้สึกไม่สบายใจ แต่เข้าใจว่าผู้ที่จัดอบรมน่าจะมีรายชื่อของบุคคลเหล่านี้ และมหาวิทยาลัยจะเรียกทั้งหมดตามรายชื่อมาสอบสวนข้อเท็จจริง.-420-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด