ผบ.ตร.ขอบคุณตำรวจทั่วประเทศ ดูแลความปลอดภัยปีใหม่ 2568

1 ม.ค.-ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอบคุณตำรวจทั่วประเทศ ดูแลความปลอดภัยช่วงปีใหม่ 2568 พร้อมย้ำความสำเร็จในการลดอุบัติเหตุและอาชญากรรม


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขอชื่นชมและขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายทั่วประเทศ ในความเสียสละและความมุ่งมั่นร่วมกันปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยได้ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ทั้งการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จัดงานเฉลิมฉลอง การป้องกันอาชญากรรม และการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข

ประกอบกับการดำเนินมาตรการเชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การตั้งจุดตรวจ การตรวจสอบแอลกอฮอล์ และการบริหารจัดการจราจรในเส้นทางสำคัญที่มีปริมาณการเดินทางหนาแน่น รวมถึงการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาช่วยในการปฏิบัติหน้าที่ เช่น โดรนตรวจจราจร กล้องวงจรปิดอัจฉริยะที่นำมาติดตั้งตามพื้นที่จัดงานต่างๆ ส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการลดการก่ออาชญากรรม จำนวนอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บลงได้จำนวนมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา


นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังแสดงความขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดช่วงเทศกาล ทั้งการปฏิบัติตามกฎจราจร การแจ้งเบาะแส และการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ พร้อมย้ำว่า ความร่วมมือนี้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับทุกคน ซึ่งเทศกาลปีใหม่ 2568 เป็นตัวอย่างที่ดีของการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชน โดยหวังว่าความสำเร็จนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทำให้ปี 2568 เป็นปีที่ปลอดภัย และเต็มไปด้วยความสุขสำหรับคนไทยทุกคน

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมนำอุปสรรค ปัญหา ข้อสังเกต และบทเรียนจากการดำเนินงานในครั้งนี้ มาปรับปรุงมาตรการต่างๆ เพื่อยกระดับการดูแลความปลอดภัยในเทศกาลและกิจกรรมสำคัญต่อไป . 412 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสมีลูก 2 คนกับอดีตสามี ส่วนสามีคนปัจจุบัน คือ คู จุน ย็อบ หรือดีเจ คู เป็นนักร้องชาวเกาหลีใต้วัย 55 ปี.-814.-สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” พอใจผลเลือก อบจ. เผย “ทักษิณ” ทำเต็มที่

“นายกฯ แพทองธาร” พอใจผลเลือกตั้งนายก อบจ. บอกต้องนำมาวิเคราะห์หมด ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ เผย “ทักษิณ” ทำเต็มที่ คุ้มสตางค์ค่าจ้างผู้ช่วยหาเสียง แจงปราศรัยเดือดไม่ใช่คาแรคเตอร์ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้