ผบ.ตร. กำชับเข้มดูแลคืนเคาท์ดาวน์ แนะจุดไหนแน่นให้ไปจุดอื่น

31 ธ.ค.- ผบ.ตร.สั่งทุกหน่วยดูแลประชาชนร่วมงานเคาท์ดาวน์และสวดมนต์ข้ามปี อย่างเข้มงวด แนะมีสติ ไม่ประมาท จุดใดแน่น ขอให้เดินทางไปร่วมงานจุดอื่น


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปร่วมงานเคาท์ดาวน์และสวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ในพื้นที่จัดงานต่างๆ จึงได้กำชับไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรภาค 1-9 ตำรวจพื้นที่ และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ให้ดูแลความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อย และการจราจร ในพื้นที่จัดงานเคาท์ดาวน์ และสวดมนต์ข้ามปี โดยเฉพาะสถานที่จัดงานขนาดใหญ่จำนวน 64 จุดทั่วประเทศ ให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งจำนวนประชาชน นักท่องเที่ยว ต้องมีปริมาณเหมาะสมกับสถานที่จัดงาน ไม่แออัด โดยสั่งการให้ดำเนินการ

  1. ตั้งกองอำนวยการร่วม หรือ ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า ในพื้นที่การจัดงาน ติดตามสถานการณ์ และร่วมกันทุกภาคส่วน สืบสวนหาข่าว ประเมินสถานการณ์
กำหนดทางเข้า-ออกให้เหมาะสม เส้นทางการให้บริการ เส้นทางฉุกเฉินและทางการแพทย์ ชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าระงับเหตุ การให้บริการห้องน้ำ จุดพักคอย กล้องวงจรปิด รวมทั้งเตรียมแผนเผชิญเหตุทางการแพทย์ เหตุเพลิงไหม้ วัตถุต้องสงสัย ไฟฟ้าดับ ร่วมกันตัดสินใจในการจำกัดปริมาณคนเข้างาน ตลอดระยะเวลา เพื่อไม่ให้เกิดประชาชนแออัดจนเกินพื้นที่ ย้ำต้องรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ทั้งกรณีอาวุธ และมิจฉาชีพ ควบคุมพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัยแก่ประชาชนสูงสุด
  2. การอำนวยความสะดวกการจราจรเส้นทางโดยรอบพื้นที่ จุดจอดรถและรับ-ส่งประชาชน เส้นทางหลัก เส้นทางรอง เส้นทางฉุกเฉิน และจุดให้บริการการขนส่งสาธารณะด้านต่าง ๆ
  3. การใช้ไฟฟ้า หรือเครื่องขยายเสียง การจุดพลุ ดอกไม้เพลิง ในพื้นที่จัดงานหรือสถานบริการต่าง ๆ จะต้องตรวจสอบให้มีความปลอดภัย ระมัดระวังไม่ให้เกิดอัคคีภัย การขาดอากาศ หรือเบียดเสียดจนเกิดอันตราย

ขอให้ประชาชนไม่ประมาท มีสติ อย่าฝ่าฝืนกฎหมาย หรือจัดกิจกรรมจนเกินเลยขอบเขต รวมทั้งระมัดระวังเด็กพลัดหลง และอุบัติเหตุต่าง ๆ และหากพบว่าสถานที่จัดงานเคาท์ดาวน์จุดใดมีประชาชนร่วมงานหนาแน่น ขอให้เดินทางไปร่วมงานในสถานที่จัดงานจุดอื่น เพื่อลดความแออัด และเพื่อความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]