พิสูจน์หลักฐานเร่งหาสาเหตุเพลิงไหม้โรงแรมย่านข้าวสาร

กรุงเทพฯ 30 ธ.ค. – สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เร่งหาสาเหตุเพลิงไหม้โรงแรมย่านข้าวสาร หลังพบมีนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 3 ราย


จากกรณีเมื่อคืนที่ผ่านมา (29 ธ.ค.) เกิดเพลิงไหม้โรงแรมสูง 6 ชั้น บนถนนตานี แขวงตลาดยอด เขตพระนคร ทำให้นักท่องเที่ยวติดค้างอยู่ภายในโรงแรมจำนวนมาก ภายหลังมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ 3 ราย เป็นผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 2 ราย

ช่วงเช้าที่ผ่านมา (30 ธ.ค.) ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่ากรุงเทพมหานครปิดกั้นพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตอันตราย ห้ามบุคคลใดเข้า-ออกพื้นที่ ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่เทศกิจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม เฝ้าตรวจตราความเรียบร้อยของที่เกิดเหตุ


ขณะที่เวลา 08.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย รศ.ดร.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทีมฝ่ายวิศวกรโยธากรุงเทพฯ และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการสอบถามผู้จัดการแผนกต้อนรับโรงแรมที่เกิดเหตุให้ข้อมูลว่ามีนักท่องเที่ยวจองห้องพักเข้ามาทั้งหมด 48 ห้อง ตามจำนวนห้องของโรงแรม แต่เช็กอินในวันเกิดเหตุ 38 ห้อง

นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้นเพลิงคาดว่ามาจากชั้น 5 ห้องหมายเลข 511 ซึ่งอยู่บริเวณส่วนหลังของอาคาร ไม่ติดถนน ปีกขวา แต่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ได้แน่ชัด เบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบพบว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารดัดแปลงจำนวน 11 ห้องแถว พื้นที่รวมประมาณ 1,515 ตารางเมตร ขออนุญาตถูกต้องเมื่อปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แล้วเปิดบริการให้บริการเมื่อเดือนเมษายน 2565

สำหรับเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งได้รีบมาที่เกิดเหตุภายใน 5 นาที พบว่ามีกลุ่มควันหนาแน่นเป็นจำนวนมากภายในอาคาร ทำให้ผู้พักอาศัยส่วนใหญ่อพยพหนีขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าประมาณ 34 คน จากจำนวนผู้พักอาศัยทั้งหมด 75 คน ส่วนที่เหลือพักอาศัยอยู่ด้านล่าง สามารถหนีออกมาได้ทางบันไดหนีไฟ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงต้องใช้รถกระเช้าเพื่อช่วยลำเลียงผู้ประสบภัยจากชั้นดาดฟ้าลงมา


จากการเข้าสำรวจอาคารหลังเกิดเหตุ พร้อมทีมวิศวกรและฝ่ายโยธา พบว่าอาคารหลังดังกล่าวมีบันไดหนีไฟ 2 จุด และมีอุปกรณ์ถังดับเพลิงครบถ้วน เพียงแต่อาคารหลังดังกล่าวไม่เข้าเกณฑ์ที่ต้องบังคับติดตั้งสปริงเกอร์ เพราะเป็นเพียงอาคารขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพอาคารเป็นสภาพปิดและไม่มีระเบียง ทำให้กลุ่มควันกระจายทั่วทั้งอาคาร

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าเนื่องจากเหตุอัคคีภัยดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทางกรุงเทพมหานครจะเรียกความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวอย่างไร นายชัชชาติ กล่าวว่า ในระยะแรกต้องเพิ่มความเชื่อมั่นด้วยการสั่งการให้ผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบโรงแรมและสถานประกอบการทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ให้มีระบบป้องกันอัคคีภัยที่มีประสิทธิภาพ มีมาตรฐาน และพร้อมใช้งานได้จริง เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว ส่วนในระยะยาวต้องดำเนินการแก้กฎหมายควบคุมวัสดุภายในอาคาร เนื่องจากขณะนี้กฎหมายบังคับเฉพาะอาคารขนาดใหญ่ แต่ยังไม่รวมถึงอาคารโรงแรมขนาดเล็ก

สำหรับยอดผู้เสียชีวิตยืนยันอยู่ที่ 3 ราย เป็นผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย เพศหญิง สัญชาติบราซิล เพิ่งถูกขอแต่งงานเมื่อสัปดาห์ก่อน และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 2 ราย เป็นเพศชายทั้งคู่ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล และโรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ ซึ่งอยู่ในระหว่างรอการยืนยันชื่อและสัญชาติ

ส่วนยอดผู้บาดเจ็บเบื้องต้นมีทั้งหมด 5 ราย แบ่งเป็นบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย เพศชาย ไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เป็นชาย 1 ราย หญิง 1 ราย นำส่งโรงพยาบาลกลาง และได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย เป็นชาย 1 ราย สัญชาติแคนาดา มีอาการสำลักควันและกระดูกซี่โครงหักจากการไต่ลงจากชั้น 3 เพื่อเอาตัวรอด ส่งโรงพยาบาลกลาง กับหญิง 1 ราย มีอาการสำลักควัน ส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว

ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ได้สอบปากคำนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี 3 คน พี่เป็นผู้พักอาศัยในห้อง 511 คาดว่าเป็นห้องต้นเหตุ ทั้ง 3 คนให้การยืนยันตรงกันว่าไม่ได้อยู่ห้องขณะเกิดเหตุ และไม่ได้เสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้ แต่ตำรวจต้องตรวจสอบอย่างละเอียด เนื่องจากพบผู้เสียชีวิตในห้อง 511 แต่ผู้เสียชีวิตเช็กอินที่ห้อง 502 โดยต้องตรวจสอบรายละเอียดว่าทำไมผู้เสียชีวิตมาเสียชีวิตที่ห้องต้นเพลิง

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายเจฟ จอห์นสัน อายุ 34 ปี ชาวอเมริกัน ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เพลิงไหม้ เล่าว่า ตนเองมาพักกับเพื่อนที่โรงแรมนี้ พักอยู่ชั้น 4 ตอนนั้นได้กลิ่นควัน แต่คิดว่าเป็นควันบุหรี่ จึงเปิดประตูและหน้าต่างออกมาดู เห็นกลุ่มควันเป็นจำนวนมาก ตนกับเพื่อนจึงหนีขึ้นไปชั้นดาดฟ้า ทันทีที่ขึ้นไปก็เห็นว่ามีผู้หลบอยู่บนดาดฟ้าประมาณ 40 กว่าคนได้ ทุกคนอยู่ในสภาพหวาดกลัวอย่างมาก อีกทั้งยังเห็นคนไต่ลงมาจากตึก ซึ่งเขาและเพื่อนไม่กล้า เพราะกลัวได้รับอันตราย แต่หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่กู้ภัยของไทยเข้ามาให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ส่วนตัวไม่ได้กังวลอะไร แน่นอนว่าเมื่อคืนนี้ตนมีความหวาดกลัวและตกใจ แต่ตอนนี้ตนรู้สึกสบายใจมากขึ้น

ขณะนี้ทางสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ อยู่ระหว่างการเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว

ด้านนายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร กล่าวถึงกรณีโรงแรมแห่งหนึ่ง ถนนตานี แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กรุงเทพฯ เกิดเหตุเพลิงไหม้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 ธ.ค.) ว่าตนเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยว เนื่องจากขณะนี้มีการจองที่พักเต็มเกือบทุกแห่ง และไม่มีการยกเลิกการจองแต่อย่างใด ส่วนนักท่องเที่ยวที่อยู่ในละแวกที่เกิดเหตุไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังสามารถมาร่วมงานเคาท์ดาวน์เฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้ตามปกติ

ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพระนคร ได้ประชุมหารือเรื่องความปลอดภัยของสถานประกอบการในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง ทั้งเรื่องระบบไฟฟ้า ทางออก ทางหนีไฟ ถังดับเพลิง และอบรมการ์ด (Guard) ถึงข้อปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมทั้งการห้ามนักท่องเที่ยวและสถานประกอบการใช้ดอกไม้เพลิงและวัตถุไวไฟ รวมทั้งตรวจตราสถานประกอบการมาแล้วครั้งหนึ่ง และจะมีการตรวจซ้ำอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (31 ธ.ค.) เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและประชาชน

เบื้องต้นในส่วนของการเยียวยา ทาง ผอ.เขตพระนคร ระบุว่าจะมีการเยียวยาเหมือนกับคนไทย ผู้เสียชีวิตรายละไม่เกิน 29,700 บาท บาดเจ็บรายละไม่เกิน 4,000 บาท

พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐก. ระบุว่า เมื่อวาน (29 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปตรวจที่เกิดเหตุแล้ว 1 รอบ ในส่วนของวันนี้ (30 ธ.ค.) เป็นเจ้าหน้าที่ของกลุ่มงานเคมีฟิสิกส์เข้าไปตรวจสอบ หลังจากนี้ต้องรอผลจากห้องแล็บ ซึ่งได้มีการเร่งรัดแล้ว คาดว่าจะทราบผลเร็วๆ นี้ เบื้องต้นยังไม่สามารถสันนิษฐานได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด.-420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]