ตร.เปิดปฏิบัติการบุกถล่มแพลตฟอร์มเว็บพนัน ยึดของกลางจำนวนมาก

บช.ก. 24 ธ.ค. – ตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการบุกถล่ม แพลตฟอร์ม เว็บพนัน หวยออนไลน์ ฟอกเงินผ่านคริปโต ยึดเงินสด 59 ล้านบาท พบเงินหมุนเวียนทะลุหมื่นล้าน


พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.บก.ปอท.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.3 บก.ปอท. พ.ต.ท.เสริมศักดิ์ น้อยหัวหาด รอง ผกก.3 บก.ปอท., พ.ต.ท.หญิงสุธัญดา เอมเอก สว.กก.3 บก.ปอท. และตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการเปิดปฏิบัติการบุกถล่มแพลตฟอร์ม “เว็บพนันหวยออนไลน์” ฟอกเงินผ่านคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาเป้าหมาย 10 คน สามารถจับกุมได้ 8 คน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้รับผลประโยชน์, กลุ่มบัญชีม้า บัญชีถอนเงิน, และกลุ่มฟอกเงิน พร้อมยึดของกลางเป็นเงินสด 59 ล้านบาท, สมุดบัญชีธนาคาร 34 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 15 เครื่อง, คอมพิวเตอร์ 12 เครื่อง, รถยนต์ออดี้ มูลค่า 2.3 ล้านบาท, สลากออมสิน 3.6 ล้านบาท, โฉนดที่ดินอีก 35 ฉบับ มูลค่ารวม 250 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ทั้งสิ้นกว่า 300 ล้านบาท

คดีนี้ตำรวจพบการเคลื่อนไหวทางการเงินในบัญชีอย่างผิดปกติ คือ มีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารกว่า 12,000 ล้านบาท และมีการถอนเงินสดปริมาณสูงถึง 5,000 ล้านบาท จึงเข้าตรวจสอบจนพบว่าเป็นบัญชีม้าของเว็บพนันหวยออนไลน์ LTO BET ที่จัดให้มีการเล่นพนันหวยรัฐบาล, หวยลาว, หวยฮานอย, หวยหุ้น, หวยปิงปอง, หวยยี่กี เป็นต้น มีเว็บไซต์ย่อยในเครือ 30-40 เว็บ ก่อตั้งมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 ผู้เล่นกว่า 10,000 คน มีบัญชีพักเงิน และการฟอกเงินอย่างเป็นระบบ คือการนำไปซื้อคริปโตเคอเรนซีเสมือน ที่ตั้งขึ้นมาภายในกลุ่มผู้กระทำความผิด ไม่ใช่เหรียญดิจิทัลจริง และซื้อขายโดยไม่ผ่านช่องทางที่ได้รับการรับรอง, อีกส่วนก็จะนำไปลงทุนในบริษัทนอมินีที่จดทะเบียนขึ้นมาเป็นบริษัทซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และ Block Chain ซึ่งในแต่ละวันมียอดถอนเงินเฉลี่ย 20-30 ล้านบาท และสูงสุดถึง 130 ล้านบาทต่อวัน


ตำรวจ บก.ปอท. จึงได้ขยายผลเส้นทางการเงิน และติดตามตัวบุคคคลที่เกี่ยวข้อง โดยเริ่มจากติดตามจับกุมผู้ที่ถอดเงินจากบัญชี ก่อนจะขยายผลไปยังบัญชีม้าและผู้รับผลประโยชน์ อย่างไรก็ตามยังเหลือผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี 2 คน และยังมีผู้ดูแลเว็บที่ตำรวจอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบและเตรียมออกหมายจับ รวมไปถึงการขยายผลไปถึงผู้ร่วมขบวนการที่เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการนี้ทั้งในและต่างประเทศ

เครือข่ายดังกล่าวมีการดำเนินการที่ซับซ้อน โดยใช้บัญชีพักเงินหลายบัญชี เพื่อกระจายความเสี่ยงและปกปิดเส้นทางการเงิน ก่อนจะรวบรวมและถอนออกเป็นเงินสด โดยเจ้าหน้าที่สามารถระบุผู้ต้องสงสัยจำนวนหลายราย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในเครือข่าย ทั้งผู้จัดการระบบ ผู้โอนเงิน และผู้รับเงิน พร้อมขอศาลออกหมายจับเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ประกอบไปด้วย ผู้เป็นเจ้าของบัญชีม้ารับเงินแทงพนันและจ่ายเงินพนัน จำนวน 2 ราย, ผู้เป็นเจ้าของบัญชีม้าพักเงิน จำนวน 4 ราย, ผู้เป็นเจ้าของบัญชีม้าถอนเงินสด จำนวน 2 ราย, ผู้ที่รับเงินที่ได้จากการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ และฟอกเงิน จำนวน 1 ราย และผู้ที่รับประโยชน์ จำนวน 1 ราย นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ต้องหาแต่ละคนที่ปรากฏในเส้นทางการเงิน ได้มีพฤติการณ์โอนเงินต่อกันไปเป็นทอด ๆ โดยมีเงินหมุนเวียนในระบบช่วงเวลาที่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบันจำนวนหลายหมื่นล้านบาท ทั้งจากการตรวจสอบ พบว่าผู้ต้องหาบางรายมีการนำเงินที่ได้จากการร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ไปแปลงสภาพเป็นทรัพย์สิน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย

ทั้งหมดถูกดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวน โดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และสมคบโดยการตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน


พล.ต.ต.อธิป กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในการปิดเว็บไซต์เว็บดังกล่าวแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ กล่าวว่า ขบวนการดังกล่าวพบเงินหมุนเวียนปีละ 12,000 ล้านบาท และพบการถอนเงินสดมากถึง 5,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งขบวนการดังกล่าวดำเนินการตั้งแต่กรกฎาคม 2563 โดยได้เงินนำไปฟอกถึง 2 รูปแบบ คือ 1.นำไปลงทุนซื้อคริปโตเคอเรนซี ที่ลงทุนเฉพาะกลุ่มผู้กระทำความผิดด้วยกันเอง 2.นำไปลงทุนบริษัทนอมินีที่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทโดยมีวัตถุประสงค์เกี่ยวข้องกับทำธุรกิจบล็อกเชนหรือซื้อสินทรัพย์ดิจิตอล แต่ไม่ได้ทำธุรกิจดังกล่าวจริงๆ

ทั้งนี้ เมื่อผู้ต้องหาต้องการจะเปลี่ยนทรัพย์สินที่มีการฟอกให้เป็นเงินสดมาแจกจ่ายกับขบวนการ ก็จะแปลงเป็นเงินสดด้วยวิธีการซื้อขายคริปโตเคอเรนซี ที่ทำแบบผิดกฎหมาย กล่าวคือ ไม่ได้แลกเปลี่ยนผ่านบริษัทผู้รับแลกเงินที่ถูกกฎหมายหรือจดทะเบียนถูกกฎหมาย เมื่อเปลี่ยนสภาพเป็นเงินสดแล้ว ก็จะนัดหมายส่งมอบเงินสดให้กับกลุ่มคนที่อยู่ในเครือข่าย ซึ่งเฉลี่ยแล้วถอนเงินตกวันละ 20-30 ล้านบาท บางวันพบการถอนเงินสดมากถึง 130 ล้านบาท ทำให้สามารถตรวจยึดเงินสดได้เป็นจำนวนมากถึง 59 ล้านบาท

สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ สามารถจับกุมตัวการใหญ่ที่เป็นผู้รับผลประโยชน์ได้ ซึ่งยังคงไม่ให้การในชั้นพนักงานสอบสวน แต่พยานหลักฐานเงินสดและโฉนดที่ดินที่ ได้จากการจับกุมผู้รับผลประโยชน์ ก็สามารถมัดตัวผู้กระทำความผิดได้ในส่วนของโฉนดที่ดินต้องนำไปตรวจสอบเพิ่มเติม เพราะคาดว่าบางส่วนน่าจะมาจากการรับจำนองที่ดิน เนื่องจากพบชื่อของบุคคลที่ 3 เป็นเจ้าของที่ดิน ไม่ใช่ชื่อของผู้ต้องหา

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ามีบุคคลที่ให้การช่วยเหลือและเบื้องหลังในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป ส่วน Server ของเว็บไซต์ พบจดทะเบียนโดเมนในต่างประเทศ แต่ผู้ควบคุมบริหารจัดการเว็บไซต์อาจจะอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากเว็บไซต์ดังกล่าวให้บริการเฉพาะคนไทย เชื่อว่ามียอดผู้เล่นเว็บไซต์นี้มีไม่ต่ำกว่าหมื่นกว่าคน รวมทั้งยังพบว่า เว็บไซต์ดังกล่าวจะมีการเปลี่ยนชื่อโดเมนอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้ดูแลเว็บไซต์ คาดว่าจะใช้เวลา 1 เดือน ในการจับกุมแอดมินเว็บไซต์ดังกล่าว. -419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]