ตร.เปิดปฏิบัติการบุกถล่มแพลตฟอร์มเว็บพนัน ยึดของกลางจำนวนมาก

บช.ก. 24 ธ.ค. – ตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการบุกถล่ม แพลตฟอร์ม เว็บพนัน หวยออนไลน์ ฟอกเงินผ่านคริปโต ยึดเงินสด 59 ล้านบาท พบเงินหมุนเวียนทะลุหมื่นล้าน


พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.บก.ปอท.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.3 บก.ปอท. พ.ต.ท.เสริมศักดิ์ น้อยหัวหาด รอง ผกก.3 บก.ปอท., พ.ต.ท.หญิงสุธัญดา เอมเอก สว.กก.3 บก.ปอท. และตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการเปิดปฏิบัติการบุกถล่มแพลตฟอร์ม “เว็บพนันหวยออนไลน์” ฟอกเงินผ่านคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาเป้าหมาย 10 คน สามารถจับกุมได้ 8 คน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้รับผลประโยชน์, กลุ่มบัญชีม้า บัญชีถอนเงิน, และกลุ่มฟอกเงิน พร้อมยึดของกลางเป็นเงินสด 59 ล้านบาท, สมุดบัญชีธนาคาร 34 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 15 เครื่อง, คอมพิวเตอร์ 12 เครื่อง, รถยนต์ออดี้ มูลค่า 2.3 ล้านบาท, สลากออมสิน 3.6 ล้านบาท, โฉนดที่ดินอีก 35 ฉบับ มูลค่ารวม 250 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ทั้งสิ้นกว่า 300 ล้านบาท

คดีนี้ตำรวจพบการเคลื่อนไหวทางการเงินในบัญชีอย่างผิดปกติ คือ มีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารกว่า 12,000 ล้านบาท และมีการถอนเงินสดปริมาณสูงถึง 5,000 ล้านบาท จึงเข้าตรวจสอบจนพบว่าเป็นบัญชีม้าของเว็บพนันหวยออนไลน์ LTO BET ที่จัดให้มีการเล่นพนันหวยรัฐบาล, หวยลาว, หวยฮานอย, หวยหุ้น, หวยปิงปอง, หวยยี่กี เป็นต้น มีเว็บไซต์ย่อยในเครือ 30-40 เว็บ ก่อตั้งมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 ผู้เล่นกว่า 10,000 คน มีบัญชีพักเงิน และการฟอกเงินอย่างเป็นระบบ คือการนำไปซื้อคริปโตเคอเรนซีเสมือน ที่ตั้งขึ้นมาภายในกลุ่มผู้กระทำความผิด ไม่ใช่เหรียญดิจิทัลจริง และซื้อขายโดยไม่ผ่านช่องทางที่ได้รับการรับรอง, อีกส่วนก็จะนำไปลงทุนในบริษัทนอมินีที่จดทะเบียนขึ้นมาเป็นบริษัทซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และ Block Chain ซึ่งในแต่ละวันมียอดถอนเงินเฉลี่ย 20-30 ล้านบาท และสูงสุดถึง 130 ล้านบาทต่อวัน


ตำรวจ บก.ปอท. จึงได้ขยายผลเส้นทางการเงิน และติดตามตัวบุคคคลที่เกี่ยวข้อง โดยเริ่มจากติดตามจับกุมผู้ที่ถอดเงินจากบัญชี ก่อนจะขยายผลไปยังบัญชีม้าและผู้รับผลประโยชน์ อย่างไรก็ตามยังเหลือผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี 2 คน และยังมีผู้ดูแลเว็บที่ตำรวจอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบและเตรียมออกหมายจับ รวมไปถึงการขยายผลไปถึงผู้ร่วมขบวนการที่เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการนี้ทั้งในและต่างประเทศ

เครือข่ายดังกล่าวมีการดำเนินการที่ซับซ้อน โดยใช้บัญชีพักเงินหลายบัญชี เพื่อกระจายความเสี่ยงและปกปิดเส้นทางการเงิน ก่อนจะรวบรวมและถอนออกเป็นเงินสด โดยเจ้าหน้าที่สามารถระบุผู้ต้องสงสัยจำนวนหลายราย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในเครือข่าย ทั้งผู้จัดการระบบ ผู้โอนเงิน และผู้รับเงิน พร้อมขอศาลออกหมายจับเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ประกอบไปด้วย ผู้เป็นเจ้าของบัญชีม้ารับเงินแทงพนันและจ่ายเงินพนัน จำนวน 2 ราย, ผู้เป็นเจ้าของบัญชีม้าพักเงิน จำนวน 4 ราย, ผู้เป็นเจ้าของบัญชีม้าถอนเงินสด จำนวน 2 ราย, ผู้ที่รับเงินที่ได้จากการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ และฟอกเงิน จำนวน 1 ราย และผู้ที่รับประโยชน์ จำนวน 1 ราย นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ต้องหาแต่ละคนที่ปรากฏในเส้นทางการเงิน ได้มีพฤติการณ์โอนเงินต่อกันไปเป็นทอด ๆ โดยมีเงินหมุนเวียนในระบบช่วงเวลาที่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบันจำนวนหลายหมื่นล้านบาท ทั้งจากการตรวจสอบ พบว่าผู้ต้องหาบางรายมีการนำเงินที่ได้จากการร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ไปแปลงสภาพเป็นทรัพย์สิน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย

ทั้งหมดถูกดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวน โดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และสมคบโดยการตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน


พล.ต.ต.อธิป กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในการปิดเว็บไซต์เว็บดังกล่าวแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ กล่าวว่า ขบวนการดังกล่าวพบเงินหมุนเวียนปีละ 12,000 ล้านบาท และพบการถอนเงินสดมากถึง 5,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งขบวนการดังกล่าวดำเนินการตั้งแต่กรกฎาคม 2563 โดยได้เงินนำไปฟอกถึง 2 รูปแบบ คือ 1.นำไปลงทุนซื้อคริปโตเคอเรนซี ที่ลงทุนเฉพาะกลุ่มผู้กระทำความผิดด้วยกันเอง 2.นำไปลงทุนบริษัทนอมินีที่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทโดยมีวัตถุประสงค์เกี่ยวข้องกับทำธุรกิจบล็อกเชนหรือซื้อสินทรัพย์ดิจิตอล แต่ไม่ได้ทำธุรกิจดังกล่าวจริงๆ

ทั้งนี้ เมื่อผู้ต้องหาต้องการจะเปลี่ยนทรัพย์สินที่มีการฟอกให้เป็นเงินสดมาแจกจ่ายกับขบวนการ ก็จะแปลงเป็นเงินสดด้วยวิธีการซื้อขายคริปโตเคอเรนซี ที่ทำแบบผิดกฎหมาย กล่าวคือ ไม่ได้แลกเปลี่ยนผ่านบริษัทผู้รับแลกเงินที่ถูกกฎหมายหรือจดทะเบียนถูกกฎหมาย เมื่อเปลี่ยนสภาพเป็นเงินสดแล้ว ก็จะนัดหมายส่งมอบเงินสดให้กับกลุ่มคนที่อยู่ในเครือข่าย ซึ่งเฉลี่ยแล้วถอนเงินตกวันละ 20-30 ล้านบาท บางวันพบการถอนเงินสดมากถึง 130 ล้านบาท ทำให้สามารถตรวจยึดเงินสดได้เป็นจำนวนมากถึง 59 ล้านบาท

สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ สามารถจับกุมตัวการใหญ่ที่เป็นผู้รับผลประโยชน์ได้ ซึ่งยังคงไม่ให้การในชั้นพนักงานสอบสวน แต่พยานหลักฐานเงินสดและโฉนดที่ดินที่ ได้จากการจับกุมผู้รับผลประโยชน์ ก็สามารถมัดตัวผู้กระทำความผิดได้ในส่วนของโฉนดที่ดินต้องนำไปตรวจสอบเพิ่มเติม เพราะคาดว่าบางส่วนน่าจะมาจากการรับจำนองที่ดิน เนื่องจากพบชื่อของบุคคลที่ 3 เป็นเจ้าของที่ดิน ไม่ใช่ชื่อของผู้ต้องหา

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ามีบุคคลที่ให้การช่วยเหลือและเบื้องหลังในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป ส่วน Server ของเว็บไซต์ พบจดทะเบียนโดเมนในต่างประเทศ แต่ผู้ควบคุมบริหารจัดการเว็บไซต์อาจจะอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากเว็บไซต์ดังกล่าวให้บริการเฉพาะคนไทย เชื่อว่ามียอดผู้เล่นเว็บไซต์นี้มีไม่ต่ำกว่าหมื่นกว่าคน รวมทั้งยังพบว่า เว็บไซต์ดังกล่าวจะมีการเปลี่ยนชื่อโดเมนอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้ดูแลเว็บไซต์ คาดว่าจะใช้เวลา 1 เดือน ในการจับกุมแอดมินเว็บไซต์ดังกล่าว. -419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม