ตร.ปราจีนฯ ลุยกวาดล้างกลุ่มมือปืนรับจ้าง-ผู้มีอิทธิพล

ปราจีนบุรี 14 ธ.ค.- โฆษกตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ระบุ รรท.ภ.2 สั่งกวาดล้าง กลุ่มมือปืนรับจ้างและผู้มีอิทธิพลอย่างเร่งด่วน เพื่อรองรับ การเลือกตั้ง อบจ.


เมื่อเวลา 16.10 น. ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองปราจีนบุรี พ.ต.อ.ประสงค์ ศิริทิพย์วานิช รองผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี เปิดเผยภายหลังประชุมความคืบหน้าคดี “สจ.โต้ง” ว่า เมื่อวานที่ผ่านมา พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้สั่งการปราบปรามอาวุธปืนและกลุ่มผู้มีอิทธิพลอย่างเร่งด่วน เพื่อรองรับปัญหาการเลือกตั้งอบจ. ที่จะถึงในอีก 3 เดือนข้างหน้า โดยจะเปิดรับสมัคร วันที่ 23 ธันวาคมนี้

สำหรับคดีนี้ ที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการตรวจยึดอาวุธปืนจำนวน 4 กระบอก โดยยึดมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายที่ติดตาม สจ.โต้ง ในวันเกิดเหตุ ส่งมอบอาวุธปืนดังกล่าวให้ สพฐ.ตร.เพื่อดำเนินการตรวจเปรียบเทียบกับปลอกกระสุนปืนในที่เกิดเหตุว่าตรงกันหรือไม่


วันนี้ (14 ธ.ค.) ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองปราจีนบุรีได้นัดสอบปากคำนายกฤษฎ์ กษมพันธุ์ (รองอุ๊) รองนายกอบจ.ปราจีนบุรี ในประเด็นที่ปรากฏในคลิปและข้อมูลต่างๆ ในที่เกิดเหตุ (ในฐานะพยาน) นอกจากนี้ได้มีการนัดสอบปากคำ ด.ต.ศิลปชัย วงษ์นิกร หรือนายกตุ๋ย นายก อบต.บางเดชะ ที่มีการที่มีการถูกกล่าวอ้าง (ในฐานะพยาน) ในวันเกิดเหตุ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้อง และต่อจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะเร่งติดตามพยานคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดและเรื่องติดตามวัตถุพยานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไป

สำหรับประเด็นอาวุธปืนที่ใช้ในที่เกิดเหตุนั้น มีอาวุธปืนพบ 6 กระบอก ซึ่งตำรวจ ได้ยึดไปตรวจสอบแล้ว ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ พบว่ามีเพียง 2 กระบอก เป็นปืน canik  9 มม. ซึ่งปืนกระบอกนี้เป็นของนายกอล์ฟ ส่วนอีก 1 กระบอก เป็นอาวุธปืนลูกซองของโกทร และอาวุธปืนอีก 4 กระบอกนั้น ณ ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวเจ้าของแล้ว แต่อยู่ในสำนวนคดี ซึ่งยืนยันได้ว่าอาวุธปืนทั้ง 4 กระบอกดังกล่าว ไม่ใช่อาวุธปืนที่ใช้สังหาร สจ.โต้ง นั้น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนประเด็นของพยานแวดล้อมในคดีนี้มีเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการทยอยเรียกมาสอบปากคำ อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เนื่องจากเมื่อขยายผลออกไปคดีนี้ยิ่งพบความเชื่อมโยงมากขึ้น จึงจำเป็นต้องตรวจสอบอย่างละเอียด


สำหรับบุคคลใกล้ชิดกับผู้ตาย อาทิ สจ.จอย พี่ชาย และน้องชาย นั้น ทางเจ้าที่ตำรวจจะมีการเรียกมาสอบปากคำด้วยเช่นกัน แต่คงต้องเป็นหลังจากวันที่ 17 ธ.ค.นี้ (หลังเสร็จงานศพ)

ทั้งนี้ ในส่วนประเด็นกรณีของรถอัลพาร์ดที่ทางเจ้าที่ตำรวจยึดมาตรวจสอบนั้น เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พฐ. ได้ทำการตรวจสอบบริเวณทั้งในตัวรถและนอกรถ เพื่อหาลายนิ้วมือแฝงว่าผู้ใช้รถคันดังกล่าวนั้นเป็นใครและมีการใช้รถไปที่ไหนบ้าง นอกจากนี้ยังหาร่องรอยวิถีกระสุน เพื่อไล่ไทม์ไลน์ว่ารถคันดังกล่าวนั้นเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ .414.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก