บช.สอท. 9 ธ.ค. – ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์หารือ ปปง.เตรียมเปิดรับคำร้องเฉลี่ยทรัพย์คืนผู้เสียหาย กรณีหลอกลงทุนเงินสกุลดิจิทัล ยึดเงินสดและอสังหาริมทรัพย์ มูลค่ากว่า 2,600 ล้านบาท
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สพฐ.ตร.รรท.ผบช.สอท.) เปิดเผยว่า ได้เข้าพบนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. และนายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการ ปปง. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปง. เพื่อหารือการจัดการแถลงข่าวและเปิดให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์สินคืนระหว่างวันที่ 17-20 ธ.ค.67 จากกรณีที่สำนักงาน ปปง. ได้มีคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ 193/2567 ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไว้เป็นการชั่วคราว ในคดีหลอกลวงให้ลงทุนในเงินสกุลดิจิทัล ซึ่งมีการยึดเงินสดในบัญชีธนาคารและอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นบ้านหรู มูลค่ารวมกว่า 2,600 ล้านบาท โดยจะกำหนดจัดการแถลงข่าว และเปิดให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์สินฯ ในวันที่ 17 ธ.ค.67 เวลา 10.00 น. ณ อาคารสัมมนาและฝึกอบรม ตร.(เมืองทองธานี)
สำหรับการเฉลี่ยทรัพย์คืนในครั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ได้ดำเนินการจับกุมและยึดทรัพย์สิน นายสฤษฎ์ กับพวก กระทําความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ระหว่างวันที่ 22 ก.ย.65 – 27 ต.ค.65 ร่วมกันประกาศโฆษณาเผยแพร่ข้อความทางอินเทอร์เน็ตในแอปพลิเคชันไลน์และเฟซบุ๊ก ใช้ชื่อบัญชีว่า “ณัฐชา องุ่น” และ “MooK” เชิญชวนให้สมัครใช้งานแอปพลิเคชัน”Streaming” ชักชวนให้มาลงทุนเป็นเงินสกุลบาทไทยและให้โอนเงินเข้าบัญชีในระบบที่กำหนดไว้เพื่อลงทุนเทรดเงินเหรียญดิจิทัล แล้วจะได้รับผลตอบแทนกําไรคืนเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นความเท็จ ซึ่งมีผู้เสียหายกว่า 1,300 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 2,200 ล้านบาท ซึ่งต่อมาทาง ปปง.รับคดีต่อจากตำรวจไซเบอร์ ยึดทรัพย์สินมาได้มูลค่ากว่า 2,600 ล้านบาท
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า ถือเป็นความสำเร็จที่สามารถยึดทรัพย์ได้จำนวนมาก และคาดว่าจะสามารถเฉลี่ยทรัพย์คืนให้ผู้เสียหายได้เต็มจำนวน ซึ่งทางตำรวจไซเบอร์จะเดินหน้าดำเนินการกับคดีอื่นให้เหมือนเช่นคดีนี้ต่อไป. -419-สำนักข่าวไทย